คาดกำไรสุทธิ 1Q63 ลดลง QoQ เป็นไตรมาสแรกในรอบ 24 เดือน
เราประเมินกำไรสุทธิSAWAD (BK:SAWAD) 1Q63 อยู่ที่ 963 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.2%YoY แต่ลดลง 11.9%QoQ โดยกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น YoY หนุนจากสินเชื่อที่เติบโตดีถึง 20.6%YoY แต่คาดกำไรสุทธิลดลง QoQ เป็นผลจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย เช่น ค่าธรรมเนียมจ่ายครั้งแรก (Up-Front Fee) ต้องถูกตัดจำหน่าย (Amortize) ตามมาตรฐานบัญชี TFRS9 นอกจากนี้คาดค่าใช้จ่ายสำรองจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการจัดชั้นลูกหนี้ใหม่ และภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เราคาดว่า Credit Cost อยู่ที่ 2.0% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 1Q62 และ 4Q62 ที่ 0.8% และ 1.5% ตามลำดับ
มีปัจจัยลบกดดันผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปี
เรามอง SAWAD ยังมีปัจจัยลบต่าง ๆ กดดันผลประกอบการโดยรวม (1) มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล จาก 28.0% เหลือ 22.0% ซึ่งสินเชื่อประเภทดังกล่าวมีสัดส่วนประมาณ 33.0% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ทั้งนี้เราคาดมาตรการดังกล่าวจะกดดัน ประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ของเราราว 10.6% และ (2) แนวโน้ม NPL ขยายตัว ทั้งที่มาจากมาตรฐานบัญชี TFRS9 และสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ซึ่งคาดจะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายสำรองที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
ราคาหุ้นสะท้อนความเสี่ยงไปแล้ว หลังลดลงกว่า 27% ในรอบ 3 เดือน
แม้ความเสี่ยง และปัจจัยลบต่าง ๆ ที่กล่าวไปข้างต้นจะกดดันผลประกอบการ แต่คาดผลประกอบการยังเติบโตดีขึ้น YoY ตามการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ และกลยุทธ์การขยายสาขา ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มเป็น 4,300- 4,400 สาขาทั่วประเทศ ประกอบกับเราเชื่อว่าราคาหุ้นสะท้อนความเสี่ยง ดังกล่าวไปแล้ว หลังลดลงกว่า 27% ในรอบ 3 เดือน ทำให้ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside สูง 33.3% เรายังแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 72.00 บาท อิงค่า PBV ที่ 4.8 เท่า
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities