คาด 1Q63 กำไรสุทธิลดลง 46%YoY
เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 1Q63 อยู่ที่ 467 ล้านบาท ลดลง 10%QoQ และลดลง 46%YoY เป็นผลมาจาก
(1) สถิติสำคัญในธุรกิจทางพิเศษ และธุรกิจรถไฟฟ้าลดลง ผลมาจากนโยบาย Work from Home (WFH) และมาตรการล็อกดาวน์เมือง ที่เริ่มมาตั้งแต่ปลาย มี.ค. 63 ทำให้ธุรกิจทางด่วนมีปริมาณจราจรเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1.23 ล้านคัน ลดลง 8.7%QoQ และลดลง 10.8%YoY ขณะที่ธุรกิจรถไฟฟ้ามีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3.32 แสนคน ลดลง 14%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 3%YoY กระทบต่อการรับรู้รายได้ของธุรกิจทางพิเศษ และธุรกิจทางด่วน ทำให้เราคาดว่าบริษัทจะมีรายได้รวมอยู่ ที่ 3.8 พันล้านบาท ลดลง 9.1%QoQ และลดลง 3.8%YoY และ
(2) ส่วนแบ่งรายได้ จากเงินลงทุนที่หายไป หลังเปลี่ยนวิธีการรับรู้รายได้จาก CKP และ TTW จากรายได้ตามสัดส่วนเงินลงทุนเป็นเงินปันผล
2Q63 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี 2563
ปัจจัยลบจากมาตรการ WFH และมาตรการของภาครัฐฯ ตั้งแต่มาตรการล็อกดาวน์เมือง (เริ่มปลาย มี.ค. 63) การประกาศเคอร์ฟิว (เริ่ม 3 เม.ย.) และเลื่อนการเปิดภาคการศึกษา เป็นปัจจัยกระทบจำนวนชั่วโมงในการเดินรถไฟฟ้าลดลง กระทบต่อปริมาณจราจรในธุรกิจทางด่วนและจำนวนผู้โดยสารในธุรกิจรถไฟฟ้ารวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของธุรกิจรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จากการเปิดโครงการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ครบทั้ง 3 ระยะ เป็นปัจจัยลบต่อผลประกอบการ 2Q63 อย่างไรก็ตามการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมือง จะทำให้สถิติสำคัญใน 2 ธุรกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเรามองว่าสถิติสำคัญ ของ 2 ธุรกิจจะทำจุดต่่ำสุดในเดือน เม.ย. หากสถานการณ์ Covid-19 ไม่กลับมาฟื้นตัว หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เราเชื่อว่ากำไรสุทธิของ BEM จะกลับมาฟื้นตัวในช่วง 2H63
คาดกำไรสุทธิปี 63 ลดลง 55%YoY แต่จะกลับมาฟื้นตัวในปี 2564
เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2563 จะอยู่ที่ 2,465 ล้านบาท ลดลง 54.6%YoY จากผลกระทบ ของ Covid-19 โดยเฉพาะในช่วง 1H63 หากสถานการณ์กลับมาฟื้นตัวในช่วงปลาย 2Q63 เป็นต้นไป และเริ่มชัดเจนใน 2H63 เรายังเชื่อว่าผลประกอบการที่เราคาดไว้ในปี 2563 ยังมีความเป็นไปได้ ขณะที่ปี 2564 เราเชื่อว่าสถิติสำคัญของธุรกิจทางพิเศษ และ ธุรกิจรถไฟฟ้าจะกลับมาสู่ระดับปกติในช่วง 2H64 ทำให้ภาพรวมในปี 2564 เราคาดว่า จะกลับมามีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.6%YoY
แนะนำซื้อ ยังมีโอกาสเติบโตในระยะยาว
เราแนะนำ“ซื้อ” เช่นเดิม โดยเราประเมินราคาเป้าหมายของ BEM ไว้ที่ 11.8 บาท (วิธี SOTP) แนวโน้มกำไรสุทธิจะกลับมาเติบโตในปี 2564 – 2565 จากฐานที่ต่ำในปี 2563 ซึ่งมีผลกระทบจาก Covid-19 ขณะที่แผนของภาครัฐฯ ยังคงแผนการเปิดประมูลเส้นทางรถไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นโอกาสในการเติบโตในระยะยาวของ ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (BK:BEM)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities