Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุนวันนี้ – ปัจจัยบวกหนุนการลงทุนวันนี้มาจาก
(1) ความเชื่อมั่นต่อ ภาพรวมเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น หลังถ้อยแถลงของประธาน Fed
(2) ความกังวลต่อ สถานการณ์ COVID-19 ที่ลดลง หลังผลการศึกษาการใช้ยารักษา COVID-19 ที่มีความคืบหน้า ส่งผลต่อความคาดหวังที่จะเห็นเศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัว
(3) ราคาน้้ามันดิบ กลับมาฟื้นตัวในระยะสั้น จากแรงเก็งกำไรในสัญญาระยะสั้นที่ลดลง รวมทั้งการ คาดหวังที่จะเห็นความต้องการใช้น้้ามันเพิ่มขึ้น จากผลของการผ่อนคลายมาตรการ ล็อกดาวน์เมือง และ
(4) ความชัดเจนที่เพิ่มขึ้นของมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์เมืองของไทย ทำให้เราคาดว่า SET วันนี้มีโอกาสปรับขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ เน้นลงทุนใน Theme - หุ้นเป้าหมาย SSFx
ความเชื่อมั่นต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น – โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ประชุม Fed มีมติ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.0% - 0.25% ตามคาด และจะยังคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัวขึ้น และให้เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2%
ความกังวลต่อสถานการณ์ COVID-19 ลดลง หลังมีรายงานผลการทดสอบยารักษา COVID-19 เป็นไปตามเป้าหมาย ปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่มีต่อภาพรวม เศรษฐกิจที่จะกลับมาฟื้นตัวในอนาคตอันใกล
ราคาน้้ามันดิบกลับมาฟื้นตัวในระยะสั้นตามคาด เป็นปัจจัยหนุนการลงทุนหุ้นในกลุ่ม พลังงาน จากความคาดหวังที่จะเห็นการฟื้นตัวของความต้องการใช้น้้ามันในเดือน พ.ค. 63 ซึ่งจะเป็นเดือนที่หลาย ๆ ประเทศจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมือง และ ประเทศในกลุ่ม OPEC รวมทั้ง G20 จะเริ่มลดก้าลังผลิตรวม 13.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีมติให้เปิด 8 สถานที่ แบบมีเงื่อนไข เรามองเป็นบวก เน้นลงทุน Theme - หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก มาตรการของภาครัฐฯ
แผนฟื้นฟู การบินไทย จำกัด (BK:THAI) มีความคืบหน้า หลังที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ มีมติพิจารณาแผนฟื้นฟู THAI ตามที่กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังเห็นชอบ เรามองเป็น Sentiment เชิงบวกต่อ THAI แนะนำเพียงเก็งกำไร โดยยังคงติดตามความชัดเจนเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดของแผนฟื้นฟู
บทวิเคราะห์วันนี้ – Earnings Preview: BCH BEM และ LH
มุมมองทางเทคนิค – เราประเมิน SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,271 – 1,298 จุด (มีแนวรับอยู่ที่ 1,277 1,271 และ 1,266 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,287 1,292 และ 1,298 จุด) โดยมีหุ้นแนะนำทางเทคนิควันนี้ได้แก่ AEONTS PTG KCE ERW และ PLANB (ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ Technical Express)
ตลาดต่างประเทศ (อินโฟเควสท์):
ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ปิดที่ 24,633.86 จุด พุ่งขึ้น 532.31 จุด (+2.21%) ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,939.51 จุด เพิ่มขึ้น 76.12 จุด (+2.66%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,914.71 จุด เพิ่มขึ้น 306.98 จุด (+3.57%) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับเพิ่ม หลังจากประธานธนาคาร Fed ให้ค้ามั่นว่าจะใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมทั้งปัจจัยบวกจากการที่บริษัท Gilead Sciences มีความคืบหน้าที่ดีเกี่ยวกับการผลิตยารักษา COVID-19
ตลาดหุ้นยุโรป: ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 347.06 จุด เพิ่มขึ้น 1.75% ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการผลิตยารักษา COVID-19 และการเปิดเผยผลประกอบการและแนวโน้มธุรกิจ ที่ดีของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป เป็นปัจจัยหนุนการลงทุน รวมไปถึงแรงซื้อกลับหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังสหรัฐฯ เปิดเผยปริมาณส้ารองน้้ามันดิบเพิ่มในอัตราที่ลดลง
สินค้าโภคภัณฑ์ (อินโฟเควสท์)
ราคาน้ำมันดิบ: สัญญาน้้ามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 15.06 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.72 ดอลลาร์ (+22%) และสัญญาน้้ามันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 22.54 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.08 เหรียญ (+10.2%) สัญญาน้้ามันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณสำรองน้้ามันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 9 ล้านบาร์เรล (สิ้นสุดวันที่ 24 เม.ย.) แม้จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 14 สัปดาห์ แต่เริ่มเห็นการปรับเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ รวมทั้งความคาดหวังของ นักลงทุนว่าสหรัฐฯ จะเปิดเศรษฐกิจเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังมีความคืบหน้าในการผลิตยารักษาโรคโควิด-19 จาก บริษัท Gilead Sciences
ราคาทองคำ: สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดที่ 1,713.4 เหรียญต่อออนซ์ ลดลง 8.8 เหรียญ (-0.51%) ความเชื่อมั่นต่อภาพรวมเศรษฐกิจ หลังถ้อยแถลงของประธาน Fed รวมทั้ง ความคืบหน้าที่ดีเกี่ยวกับยารักษา COVID-19 ท้าให้นักลงทุนลดสัดส่วนการถือครองทองค้า
ราคาถ่านหิน: ราคาถ่านหินตลาดล่วงหน้า (Newcastle) ส่งมอบเดือน มิ.ย. ล่าสุด ปิดที่ 52.2 เหรียญต่อตัน เพิ่มขึ้น 0.35 เหรียญ (+0.68%)
ค่าระวางเรือ: Baltic Dry Index (BDI) ล่าสุดปิดที่ 643 จุด ลดลง 12 จุด (-1.83%)
ปัจจัยในประเทศ:
สศอ. คาดดัชนี MPI ทั งปี 2563 ติดลบ 6-7% ต่ำสุดในรอบ 20 ป เทียบกับเดือน ม.ค. 63 ที่คาดว่าจะขยายตัว 2-3% โดยคาดอัตราการขยายตัวของ GDP ภาคอุตสาหกรรม ติดลบ 5.5-6.5% จากเดิมที่คาด 1.5-2.5% เหตุจาก การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในวงกว้าง ทั้งนี้ดัชนี MPI เดือน มี.ค. 63 ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 อยู่ที่ 11.3%YoY (แนวหน้า/บางกอกโพสต์)
TK (ซื้อ; TP 9.70 บาท) ทุ่มเงิน 450 ล้านบาท ซื้อกิจการ MFIL ผู้ให้บริการสินเชื่อในเมียนมาร์ เพื่อขยายธุรกิจแบบก้าวกระโดด หนุนสัดส่วนสินเชื่อต่างประเทศเป็น 30% ทั้งนี้คาดธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จใน 3Q63 (ทันหุ้น) ความเห็น: เรามีมุมมองเป็นบวกต่อข่าวข้างต้น โดยการเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อในต่างประเทศจะช่วยหนุนการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากภาวะการแข่งขันที่ ไม่รุนแรง เทียบกับในประเทศไทย รวมถึงความต้องการใช้เงินมีค่อนข้างสูง ทั้งนี้ เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ที 527 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4%YoY ก่อนจะเร่งตัวขึ้นในปี 2564 จากการขยายธุรกิจข้างต้น
ข่าวอื่น ๆ
INTUCH ร่วมลงทุน Axinan สตาร์ทอัพอินชัวร์เทคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังระดมทุน Series A+ ได้เงิน ลงทุนกว่า 480 ล้านบาท พร้อมรีแบรนด์สู่ Igloo น้าเงินพัฒนาธุรกิจให้เติบโตขึ้น 2 เท่า พร้อมขยายตลาดเวียดนาม (ข่าวหุ้น)
ILINK คว้า 2 งาน ของ "กฟภ." มูลค่ารวม 302 ล้านบาท ก่อสร้างสถานีไฟฟ้าวชิรบารมี จ.พิจิตร มูลค่า 161 ล้าน บาท และสถานีไฟฟ้าสวนผึ้ง จ.ราชบุรี มูลค่า 141.30 ล้านบาท ส่งมอบงานภายใน 540 วัน (ข่าวหุ้น)
SCC เล็งหั่นเป้ายอดขายปี 2563 ลดลงมากกว่า 6% จากเดิมวางไว้ราว 4.38 แสนล้านบาท เหตุพิษโควิด-19 กระทบออเดอร์ พร้อมลดงบลงทุนปีนี้เหลือ 5.5-6.5 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ 6-7 หมื่นล้านบาท หวังรักษาสภาพ คล่องให้แข็งแกร่ง-ความไม่แน่นอนสูง (ทันหุ้น)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities
ท่านสามารถดูกราฟตลาดหุ้น SETINDEX และตลาดหุ้นสำคัญทั่วโลกได้ที่นี่