คาดกำไรปกติ1Q63 โตสูง YoY
คาดรายได้ที่381 ลบ. (-4% QoQ, +8% YoY) ลดลง QoQ ตามผลของฤดูกาลเพราะไตรมาส 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี แต่เติบโต YoY ตามจำนวนสาขาของ 7-Eleven และ All café ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีเมนูใหม่ ต่อเนื่อง ช่วงเดือนมี.ค. มีเครื่องดื่มตามฤดูกาลคือ ชาเสาวรส และยังไม่มีการ Curfew ร้านสะดวกซื้อยังเปิดได้ตามปกติ GPM คาดที่ 30.0% ใกล้เคียงกับ 30.9% ใน 4Q62 และ 29.6% ใน 1Q62 คาดกำไรปกติ 1Q63 ยังไม่เห็นผลกระทบจาก COVID-19 คาดที่ 42 ลบ. (-14% QoQ, +25% YoY)
ผลกระทบจาก COVID-19 ค่อนข้างจำกัด
ใน 2Q63 อาจมีผลกระทบจาก COVID-19 บ้าง โดยรายได้จากเครื่องดื่มในโถกด 7-Eleven อาจมีผลกระทบหลังจากที่รัฐบาลประกาศ Curfew เวลา 22.00 น. ทำให้ 7-Eleven ต้องปิดเร็วขึ้นจากที่เปิด 24 ชม. แต่ชดเชยได้บางส่วนจากการเข้าร้านสะดวกซื้อมากขึ้นในช่วงเวลากลางวันจากการ WFH และ ห้างสรรพสินค้าปิ้ดบริการ และ 2Q63 อากาศที่ร้อนจากภาวะภัยแล้งทำให้เครื่องดื่มใน 7-Eleven รวมถึง All café ยังขายดี ล่าสุดออกสินค้าใหม่คือ น้ำชาผลไม้ และชาดำน้ำผึ้ง วางจำหน่ายในร้าน All café สัปดาห์ที่ผ่านมาช่วยกระตุ้นยอดขาย และเครื่องดื่มตามฤดูกาลอื่นๆ ยังเป็นไปตามแผนเดิม ไม่มีการเลื่อน หรือยกเลิกแต่อย่างใด ด้านธุรกิจลิขสิทธิ์ที่ประเมินวา่ อาจได้รับผลกระทบมากที่สดุ เพราะการจับจ่ายสินค้าน้อยลง แต่ก็มีลูกค้าอุปโภคบริโภคบางรายที่ยังซื้อลิขสิทธิ์เพื่อกระตุ้นยอดขายทั้งผู้ผลิตโฟมล้างหน้า และ หน้ากากอนามัย เราคาดกำไร 2Q63อาจทรงตัวได้ทั้ง QoQ และ YoY ที่ 42 –43 ลบ. นอกจากนี้บริษัทอาจเลื่อนพิจารณาการ M&A ออกไปก่อน เนื่องจากธุรกิจเป้าหมายคือกลุ่มร้านอาหารซึ่งได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ค่อนข้างหนัก ซึ่งเรามองว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะการ M&A ในปีนี ้น่าจะส่งผลลบกับ งบการเงินรวมมากกว่าผลบวก
กัมพูชา/ Tesco คือ New normal ของ TACC ... แนะนำ ซื้อ
วานนี้ CPALL (BK:CPALL) ประกาศลงนามธุรกิจแฟรนไชส์ 7-Eleven ในกัมพูชาเป็นระยะเวลา 30 ปี และสามารถต่อสัญญาได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 20 ปี เชื่อว่าความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่มีมายาวนาน และความพึงพอใจของ ลูกค้าต่อสินค้าของ TACC น่าจะส่งผลให้ TACC ยังเป็น Supply เครื่องดื่มในโถกด และร้าน All café ใน กัมพูชาต่อเนื่อง นอกจากนี้การเข้าซื้อกิจการ Tesco ในไทยและมาเลเซียของ CPALL คาดจะมีส่วนช่วย ผลักดันการเติบโตของ All café หรือแบรนด์อื่นในกลุ่มซึ่งบวกโดยอ้อมต่อ TACC เช่นกัน เป็น Upside risk ต่อประมาณการอย่างมีนัยสคัญในอนาคต คาดว่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในปี 2564 อย่างไรก็ตามเพื่อความ ระมัดระวังในปี 2563 ต่อผลกระทบของ COVID-19 และการ M&A ที่อาจเลื่อนไป เราปรับประมาณการ กำไรปี 2563 ลง 12.3% เป็น 179 ลบ. (+7.6% YoY) อิง PER 22 เท่า ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 6.50 บาท คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาปัจจุบันซื้อขายด้วย PER2563 ต่ำเพียง 12.1 เท่า
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities
ดูราคาหุ้นและกราฟของ ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (BK:TACCm)
https://th.investing.com/equities/tac-consumer-pcl
ดูกราฟดัชนี SET INDEX ล่าสุด
https://th.investing.com/indices/thailand-set
ดูหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยรายตัว
https://th.investing.com/equities/