หุ้นอูเบอร์ยังคงขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งแม้บริษัทจะตัดงบบางส่วนไปแล้วก็ตาม

หุ้นบริษัทผู้ให้บริการเรียกใช้รถโดยสารผ่านแอปพลิเคชันอูเบอร์ (NYSE:UBER) สร้างขาขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ราคาลงไปสร้างจุดต่ำสุดเมื่อเดือนมีนาคม

นับตั้งแต่จุดต่ำสุดในเดือนมีนาคมซึ่งเกิดมาจากวิกฤตไวรัสโคโรนาหุ้นอูเบอร์ทะยานขึ้นมาแล้วประมาณ 40% คิดเป็นการปรับตัวขึ้นมา 10% ตลอดทั้งปี 2020 และทำผลงานได้ดีกว่าดัชนีหลัก S&P 500 ที่ยังคงอยู่ในโซนติดลบอยู่

ขาขึ้นของอูเบอร์ถือเป็นการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วที่น่าจับตามองของภาคบริการ จริงอยู่ว่าในช่วงที่มีการระบาดอย่างหนักอูเบอร์เองก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างจากบริการรูปแบบอื่นๆ ซึ่งผลกระทบนั้นก็ได้แสดงออกมาในรูปแบบของผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2020 ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมบริษัททำกำไรได้ $3,540 ล้านเหรียญสหรัฐและสูญเสียรายได้ไปทั้งสิ้น $2,940 ล้านเหรียญสหรัฐคิดเป็น 80% ของการสูญเสียรายได้จากกำไรรวมทั้งหมด หากเทียบกับปีที่แล้วบริษัททำกำไรได้ $3,100 ล้านเหรียญแต่ตัวเลขการสูญกลับมีเพียง $1,090 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น

กำไรที่หายไปมากถึง 80% นี้รวมถึงค่าใช้จ่ายในการลงทุนก่อนหักภาษีซึ่งเสียเปล่าไปเพราะไวรัสโคโรนา ก่อนที่จะมีการรายงานผลประกอบการผลสำรวจจาก FaceSet ได้คาดการณ์ออกมาว่าอูเบอร์จะสูญเสียรายได้จำนวน $1,380 ล้านเหรียญสหรัฐจากยอดขาย $3,530 ในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา

แม้ดูจากตัวเลขงบการเงินแล้วค่อนข้างน่าเป็นห่วงแต่นักลงทุนก็ยังไว้ใจในการบริหารของ CEO ดารา คอสราวชาฮีกับแผนรับมือวิกฤตครั้งนี้และดูเหมือนว่าบริษัทได้ก้าวพ้นผ่านวิกฤตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

กลยุทธ์ลดงบประมาณของอูเบอร์

บริษัทอูเบอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ออกมาประกาศจะตัดงบประมาณของบริษัทในบางส่วนลงเช่น การส่งอาหารในประเทศที่เข้าไปดำเนินกิจการมากกว่าครึ่งและลดจำนวนพนักงานที่ประจำอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลางลง เมื่อวันพุธบริษัทอูเบอร์พึ่งได้ปลดพนักงานออก 14% ซึ่งทางอูเบอร์เชื่อว่าจะเริ่มเห็นผลภายในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ยิ่งไปกว่านั้น CEO ของบริษัทจะของดรับเงินเดือนของตัวเองไปตลอดทั้งปี 2020

อูเบอร์เป็นบริษัทที่เมื่อรายงานผลประกอบการในแต่ละไตรมาสไปแล้วจะไม่มีการยื่นตัวเลขที่มีการปรับปรุงข้อมูลแล้วซ้ำเป็นครั้งที่สองและด้วยการลดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็นของบริษัทลงทำให้อูเบอร์สามารถประหยัดงบประมาณไปได้มากกว่า $1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

เมื่ออูเบอร์ตัดสินใจลดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็นลง พวกเขาได้เอาเงินไปลงทุนพัฒนากับธุรกิจการส่งอาหารไปให้ผู้คนตามบ้านเพิ่มขึ้น ด้วยกลยุทธ์นี้ผลสำรวจพบว่ายอดคำสั่งซื้ออาหารผ่านแอป Uber Eats เพิ่มขึ้น 52% คิดเป็น $4,680 ล้านเหรียญสหรัฐจากในไตรมาสที่ 1 ปี 2019

CEO ของอูเบอร์ให้สัมภาษณ์ว่า “แม้ว่าธุรกิจหลักการเรียกใช้รถโดยสารของเราจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 แต่เราก็สามารถดำเนินการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของบริษัทเพื่อรักษางบดุลของบริษัทเอ่าไว้ได้ ตอนนี้เรากำลังทุ่มกำลังไปยังการพัฒนา Uber Eats ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อให้ธุรกิจอื่นๆ พร้อมที่จะกลับมาได้ทันทีเมื่อโลกกลับสู่สภาวะปกติ”

นาย Alexander Potter นักวิเคราะห์จาก Piper Sandler เชื่อว่าขาขึ้นจาก Uber Eats ครั้งนี้ไม่ใช่ขาขึ้นระยะสั้นแต่จะเป็นธุรกิจที่พาอูเบอร์เข้าสู่ยุคใหม่ “เราเชื่อว่าเทรนด์การสั่งอาหารผ่านตัวกลางจะยังคงดำเนินต่อไปและจะกลายเป็น “สิ่งที่ต้องมี” ของธุรกิจขายอาหาร แม้ว่าตอนนี้ Uber Eats ยังถือว่าทำกำไรได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับธุรกิจหลักของบริษัทแต่เราเชื่อว่าอูเบอร์จะไม่ทิ้ง Uber Eats แน่และจะพัฒนาธุรกิจนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งๆ ขึ้นไปอีกในอนาคตแม้จะไม่มีโควิด-19 อยู่แล้วก็ตาม”

โดยสรุปแล้ว…

อูเบอร์ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีของธุรกิจยุคใหม่ที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในสภาวะที่เศรษฐกิจกำลังจะเข้าสู่ยุคถดถอย นักลงทุนเชื่อว่าการลดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็นและการกระจายเงินลงทุนไปยังธุรกิจส่วนอื่นที่กำลังมีการเติบโตจะช่วยให้อูเบอร์คงอยู่ได้ท่ามกลางวิกฤตไวรัสโคโรนา