รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

MINT ผลกระทบรุนแรงและยาวนานกว่าที่คิด

เผยแพร่ 18/05/2563 11:58
MINT
-

ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล– (BK:MINT) ผลกระทบรุนแรงและยาวนานกว่าที่คิด

-รายงานขาดทุนสุทธิ 1Q63 ที่ 1.77 พันล้านบาท จากรายได้รวมใน 1Q63 อยู่ที่ 2.18 หมื่นล้านบาท ปรับตัวลดลง 31% QoQ และ 21% YoY

-RevPar ของโรงแรมในประเทศปรับตัวลดลงมากสุดในกลุ่ม

-กลุ่มร้านอาหารในจีนอ่อนแอสุดของกลุ่ม ในขณะที่ไทยแข็งแกร่งสุด

-คาดผลกระทบจาก COVID-19 ยาวนานกว่าที่เคยคาดการณ์และกำลังอยู่ระหว่างปรับประมาณการใหม่

-ยังคงแนะนำ ถือที่ราคาเป้าหมาย 23.00 บาท โดยวิธี SOTP คิดเป็น EV/EBITDA ที่ 13.90X ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 16.5X

1Q63 Earnings Review

  • MINT รายงานขาดทุนสุทธิ 1Q63 ที่ 1.77 พันล้านบาท จากที่กำไร 3.7 พันล้านบาทใน 4Q62 และกำไร 583 ล้านบาทใน 1Q62 โดยที่รายได้รวมใน 1Q63 อยู่ที่ 2.18 หมื่นล้านบาท ปรับตัวลดลง 31% QoQ และ 21% YoY
  • NH Hotel Group รายงานขาดทุนสุทธิใน 1Q63 ที่ 57 ล้านยูโร (เทียบเท่าขาดทุน1.98 พันล้านบาท) โดยที่รายได้จาก NH Hotel Group อยู่ที่ 279 ล้านยูโร (เทียบเท่า 9.61 พันล้านบาท) ปรับตัวลดลง 20.8% YoY แม้ว่าในเดือนม.ค.-ก.พ. จะมี RevPar ที่เติบโต 8% YoY แต่ในเดือนมี.ค. ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 จึงมี RevPAr ติดลบที่ 27% YoY ส่งผลให้ RevPar ทั้ง 1Q63 อยู่ที่ติดลบ 27.1% YoY
  • รายได้กลุ่มโรงแรมใน 1Q63 ปรับตัวลดลง 24% YoY จาก RevPar ของโรงแรมในประเทศปรับตัวลดลง 34% YoY, โรงแรมในยุโรปปรับตัวลดลง 24% YoY และที่ Maldives ปรับตัวลดลง 18% YoY โดยการปรับตัวลดลงของ RevPar เป็นผลมาจากอัตราการเข้าพักที่ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยตั้งแต่ช่วงปลายเดือนก.พ.
  • รายได้กลุ่มร้านอาหารปรับตัวลดลง 11% YoY โดย TSS ของทั้งระบบปรับตัวลดลง 5.8% YoY และ SSSG ปรับตัวลดลง 10.5% ในขณะที่ฮับประเทศไทยมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งที่สุด โดยมี TSS ติดลบที่ 5.5% YoY และ SSSG ติดลบที่ 6.9% YoY ในขณะที่ฮับจีนมีผลประกอบการที่อ่อนแอที่สุดจาก TSS ที่ติดลบ 59.1% YoY และ SSSG ติดลบที่ 49.4% YoY เนื่องจากประเทศจีนเป็นประเทศแรกที่ได้ผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19

มีโอกาสปรับขาดทุนสุทธิของปี 2563 เพิ่ม และคาดผลประกอบการใน 2Q63 เป็นไตรมาสที่อ่อนแอที่สุดของปี

ผลกระทบของ COVID-19 คาดว่าจะยาวนานกว่าที่เคยคาดการณ์ แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อในประเทศและต่างประเทศคาดว่าได้ Peak ไปแล้ว แต่เนื่องจากการเดินทางไปต่างประเทศยังคงมีความเสี่ยง ส่งผลให้ผู้คนทั่วโลกยังใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังมาก เราจึงเชื่อว่ากว่ากลุ่มท่องเที่ยวจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างเร็วในช่วง 4Q63 ในขณะที่กลุ่มร้านอาหารในประเทศยังคงต้องมีการใช้ Social distancing ส่งผลให้ไม่สามารถรับรองลูกค้าได้เต็ม Capacity แม้ว่ายอด Delivery จะเพิ่มขึ้นในแบรนด์หลักอย่าง The Pizza Company ที่มี SSSG เป็นบวกที่ 3.4% YoY ก็ไม่อาจสามรถช่วยยอดขายที่หายไปจากการ Dine-in เราจึงคาดว่าใน 2Q63 จะเป็นไตรมาสที่อ่อนแอที่สุดของปีสำหรับกลุ่มโรงแรมเนื่องจากยังไม่เปิดให้มีการบินระหว่างประเทศสำหรับนักท่องเที่ยว

ยังคงแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 23.00 บาท

เรายังคงแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 23.00 บาท โดยผลประกอบการในปี 2563 จะยังคงถูกกดดันต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์ COVID-19 จะคลี่คลาย เราจึงยังคงแนะนำเพียง “ถือ” โดยที่ราคาปัจจุบันคิดเป็น EV/EBITDA ที่ 9.5X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 16.5X ด้านสภาพคล่องยังไม่น่าเป็นกังวลเนื่องจาก MINT ยังมีเงินสดในมืออยู่ 1.3 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 และยังมีวงเงินให้กู้เพิ่มได้อีก 3.9 หมื่นล้านบาท

ความเสี่ยง:
-จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
-ค่าเงินบาทแข็งค่า
-ภาคการบริโภคไม่ฟื้นตัว
-ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
-การลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในแผน

ปรับคาดการณ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

เราปรับลดคาดการณ์รายได้และกำไรสุทธิของปี 2563-2564 ลงจากผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 ที่คาดว่าจะยาวนานกว่าที่เคยคาดไว้

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ธุรกิจโรงแรม :

เราปรับรายได้จากกลุ่มโรงแรมของปี 2563-2564 ลง 53.3% และ 26% เป็น 4.31 หมื่นล้านบาท และ 7.15 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ จากการปรับ RevPar ลง 55% ในปี 2563 และคาดว่า RevPar จะกลับมาบวกที่ 15% YoY ในปี 2564

ปัจจุบัน MINT ได้ทำการปิดโรงแรมในประเทศ และโรงแรมของ NH Hotel ไปเกือบหมดแล้ว เพื่อเป็นการลดต้นทุน โดยที่บางแห่งใช้ระบบ Leave without pay และบางประเทศเป็น Temporary lay off โดยที่มีรัฐบาล Subsidize ให้บางส่วน

ธุรกิจกลุ่มร้านอาหาร :

เราปรับคาดการณ์รายได้จากกลุ่มร้านอาหารปี 2563-2564 ลง 23.8% และ 21.3% เป็น 1.95 หมื่นล้านบาท และ 2.1 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ จากเดิมที่คาดว่า SSG ของทั้งระบบจะติดลบที่ 1% YoY มาเป็นติดลบ 35% YoY

สาขาร้านอาหารในประเทศได้ปิดบริการ Dine-In ไปราว 25% ของสาขาทั้งหมด แต่ยังคงมีบริการ Delivery อยู่ และสัดส่วนรายได้ของ Delivery ได้เพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 2562 มาเป็น 30% ใน 1Q63 ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่น่าสนใจ และ Bonchon คาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ช่วยเสริมการเติบโตที่แข็งแกร่ง

เนื่องจากการแข่งขันของร้านอาหารมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการปิดห้าง ส่งผลให้ร้านอาหารที่ไม่เคยให้บริการ Delivery ต้องเร่งปรับตัวตาม และมีการใช้ Promotion เพื่อดึงความสนใจจากลูกค้า เราคาดว่า Margin ของกลุ่มร้านอาหารจะปรับตัวลดลงจาก 68% เป็น 50%

ร้านอาหารในประเทศจีนได้กลับมาเริ่มให้บริการอีกครั้งหลังจากที่เริ่มมีการเปิดเมืองและเริ่มเดินทางระหว่างเมืองได้แล้ว ด้านออสเตรเลีย ยังคงให้บริการ Dine-In ราว 80% ของจำนวนสาขาทั้งหมด

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities

กระทู้สนทนาหุ้น MINT

https://th.investing.com/equities/minor-internat-commentary

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย