รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทำให้นักลงทุนเลิกถือสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์สำรอง

เผยแพร่ 21/05/2563 15:09
ในช่วงเช้าของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวานนี้สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ตลาดหุ้นและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อรายงานผลประกอบการของบริษัท Lowe’s (NYSE:LOW) และ Target (NYSE:TGT) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Lowe’s รายงานว่ายอดขายจากสาขาเดิมไตรมาสที่ 1 ในเดือนที่แล้วเพิ่มขึ้น 11.2% ในขณะที่ Target รายงานว่าการขายออนไลน์ช่วยให้ยอดขายจากสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 10.8% การที่ตัวเลขผลประกอบการของบริษัททั้งสองออกมาดีขนาดนี้ยิ่งสนับสนุนความเชื่อของนักลงทุนที่ว่า “ตลาดหุ้นได้ผ่านจุดที่แย่ที่สุดมาแล้ว” ไม่ใช่แค่เฉพาะข่าวดีจากตลาดหุ้นแต่ยังมีเรื่องของรัฐต่างๆ ที่กลับมาเปิดเมือง ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวและความคืบหน้าในการค้นขว้าวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นปัจจัยสนับสนุน นักลงทุนยิ่งเจอแต่เหตุผลที่สนับสนุนให้คิดถึงแต่ปัจจัยเชิงบวกซึ่งบรรยากาศการลงทุนแบบนี้มีส่วนช่วยให้ตลาดหุ้นและสกุลเงินฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ

 
แม้จะมีปัจจัยเชิงบวกในตลาดมากขนาดนั้นแต่ดอลลาร์สหรัฐฯก็ยังเลือกที่จะปรับตัวลงก่อนที่จะรู้ผลการประชุมจากคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (FOMC) สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเมื่อเดือนที่แล้วทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ได้ออกมาให้ความเห็นว่าเฟดเป็นกังวลเกี่ยวกับยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 และการมีอยู่ของไวรัสคือปัจจัยเสี่ยงในระยะกลาง-ยาวที่จะมีผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างมาก เพื่อเป็นการตอบโต้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดเฟดจึงจำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ในระดับต่ำไปก่อนจนกว่าจะวางใจได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้กลับเข้าสู่เส้นทางที่ถูกที่ควร

นอกจากนี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ได้แสดงทัศนคติในคำแถลงการณ์ของเขา นายเจอโรมเตือนว่าอัตราการว่างงานจะยังคงอยู่ในตัวเลข 2 หลักไปจนถึงการประชุมครั้งหน้าและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 จะปรับตัวลดลงชนิดที่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตามประธานเฟดให้คำมั่นว่าธนาคารกลางยังมีมาตรการรองรับสถานการณ์เฉพาะหน้าอยู่และพร้อมจะทำทุกอย่างหากว่าจำเป็นโดยที่ไม่คิดจะพึ่งวิธีการปรับอัตราดอกเบี้ยให้ลงไปจนติดลบ ในความเห็นของเรามองว่าถ้านักลงทุนสามารถมองข้ามตัวเลขเศรษฐกิจที่สุดจะย่ำแย่ในเดือนเมษายนได้เชื่อว่าพวกเขาก็จะมองข้ามความกังวลของเฟดด้วยเช่นกัน

 
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดตัวเมื่อวานนี้อย่างร้อนแรงซึ่งความร้อนแรงนี้ส่งผลดีกับสกุลเงินออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ดอลลาร์ สกุลเงิน NZD ปรับตัวขึ้น 1% หลังจากที่ผู้ว่าการแบงก์ชาตินิวซีแลนด์ยังไม่คิดจะปรับอัตราดอกเบี้ยลงมาให้ติดลบ จากคำแถลงการณ์ของผู้ว่าการเมื่อวันอังคารทำให้เราได้ทราบว่าแบงก์ชาติจะใช้กลยุทธ์คงเส้นอัตราผลตอบแทนให้คงที่หรืออยู่ในระดับต่ำเอาไว้ อย่างไรก็ตามการลดอัตราดอกเบี้ยให้ลงมาติดลบถือว่ายังอยู่ในการพิจารณาของแบงก์ชาติอยู่ ผู้ช่วยผู้ว่าการแบงก์ชาติธนาคารกลางนิวซีแลนด์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าธนาคารกลางฯ อาจจำเป็นต้องเพิ่มวงเงินในการทำ QE อีก เราจึงค่อนข้างประหลาดใจว่าสกุลเงินนิวซีแลนด์ดอลลาร์ยังสามารถปรับตัวขึ้นมาได้อีกทั้งๆ ที่มีข่าวแบบนี้ คงเป็นเพราะตอนนี้ข่าวดีเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกระจายไปทั่วโลกเกือบจะทั่วถึงหมดแล้ว
 
ออสเตรเลียดอลลาร์ ฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้เพราะรายงานตัวเลขดัชนี PMI ของเดือนพฤษภาคมและเราก็ได้ทราบผลข้อมูลตัวเลขภาคบริการและการผลิตของเดือนพฤษภาคมจาก CBA ไปแล้วในช่วงเช้าของวันนี้ซึ่งตัวเลขที่ออกมาดีขึ้นตามคาดเมื่อออสเตรเลียสามารถกลับมาเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจได้อีกครั้ง ออสเตรเลียปลดล็อกมาตรการล็อกดาวน์เร็วกว่ายุโรปและสหรัฐฯ ดังนั้นข้อมูลตัวเลขในเดือนพฤษภาคมจึงออกมาดีกว่า ส่วนแคนาดาดอลลาร์ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ดีขึ้นต่อเนื่องเพราะราคาน้ำมันดิบที่เริ่มกลับมาเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น แต่จะขึ้นได้ไกลแค่ไหนกราฟ USD/CAD จะได้รับการทดสอบจากรายงานตัวเลขยอดขายปลีกในวันศุกร์ที่จะถึงนี้

 
ปอนด์คือสกุลเงินที่ตามหลังเพื่อนมากที่สุดในแง่ของการฟื้นตัว ข้อมูลตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์เล็กน้อย ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนเมษายนลดลง 0.2% เทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ -0.1% ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในภาคการนำเข้าลดลง 5.1% และ PPI ภาคการส่งออกลดลง 0.7% ในอนาคตอันใกล้ตัวเลขเหล่านี้อาจปรับตัวลดลงได้อีก ถ้าวันนี้ข้อมูลดัชนี PMI ของสหราชอาณาจักรยังไม่ฟื้นตัวเหมือนประเทศอื่นๆ ต้องบอกว่าสกุลเงินปอนด์คงจะมีปัญหาแล้วจริงๆ

 
สุดท้ายสกุลเงินยูโรยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นซึ่งเป็นสถิติติดต่อกันมาแล้ว 4 วันติด รายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ วันนี้อาจจะส่งผลต่อแนวโน้มของยูโรเทียบดอลลาร์ด้วย นักลงทุนต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ความคิดเห็นล่าสุด

I hope idea your to trade gold future...step to focus ?ex. 1) down jon index 2) Usd index 3) News (Fed rate) ...some thing please....
thank you very much...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย