รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

ปันผลของแบงก์ที่หายไป ทำให้หุ้นปันผลตัวอื่นเด่นขึ้น

เผยแพร่ 22/06/2563 10:24
SETI
-
KBANK
-

กลุ่มแบงก์ยังถูกกดดันต่อเนื่อง แต่ถือเป็นช่วงท้ายๆของวิกฤติแล้ว

นอกจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ทั้งยืดเวลาการผ่อนชำระ พักเงินต้น พักดอกเบี้ย ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดไปจนถึงการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งล้วนทำให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของธนาคารพาณิชย์สูงขึ้นทั้งสิ้น

ล่าสุด ธปท. ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ระยะที่ 2 โดยการลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ 2-4% ขณะที่ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อบ้านไม่มีการลดเพดานดอกเบี้ย แต่เลื่อนชำระค่างวด เลื่อนชำระเงินต้น และลดค่างวดโดยการขยายเวลาชำระหนี้ (ติดตามผลกระทบโดยละเอียดได้จากบทวิเคราะห์กลุ่มสถาบันการเงินวันนี้)

อีกทั้ง ยังขอให้แบงก์งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและงดซื้อหุ้นคืน เพื่อรักษาระดับเงินกองทุนให้เข้มแข็งต่อเนื่องจนกว่าจะจัดทำแผนบริหารจัดการเงินกองทุนใหม่ได้ชัดเจนขึ้น โดย ธปท. ให้เหตุผลเพิ่มเติม (1) เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต (2) เพื่อให้สามารถปล่อยสินเชื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเสรษฐกิจหลัง COVID-19 คลายตัวลง (3) เพื่อรอดูการแผนจัดการเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ใหม่ หลังได้ประเมินผลกระทบจากการช่วยเหลือลูกหนี้อย่างชัดเจนแล้ว

แบงก์ส่วนใหญ่จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง ส่วนการห้ามซื้อหุ้นคืนเรามองไม่มีนัยสำคัญ

แบงก์ส่วนใหญ่จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง มีเพียง KTB และ TISCO ที่จ่ายปันผลปีละครั้ง โดยถ้าอิงปันผลงวด 1H62 ของ BAY, BBL, KBANK (BK:KBANK), KKP, SCB, TMB จ่ายรวมกัน 1.7 หมื่นล้านบาทSCB สูงสุด 5.1 พันล้านบาท รองลงมาคือ BBL 3.8 พันล้านบาท ซึ่งปีนี้ที่ไม่ได้มีการจ่ายระหว่างกาล (ถ้าจ่ายก็น่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ) จะถูกทบไปจ่ายปันผลเต็มปี (กรณีที่จัดทำแผนบริหารเงินกองทุนใหม่แล้วเสร็จ) สิ่งที่นักลงทุนเสียประโยชน์ไปเป็นเพียง มูลค่าของเงินตามเวลาจากการได้ปันผลระหว่างกาลช้าไป 6 เดือน

ส่วนแบงก์ที่ซื้อหุ้นคืนปีนี้มีเพียง KBANK ซึ่งซื้อจบแล้ว 23.9 ล้านหุ้น มูลค่า 3.2 พันลบ. ขณะที่ SCB ประกาศซื้อหุ้นคืนเมื่อ 11 มี.ค. แต่ยกเลิกไปเมื่อ 20 เม.ย. ทำให้ยังไม่มีการซื้อหุ้นคืน สถาบันการเงินอื่นที่ซื้อหุ้นคืนปีนี้คือ TCAP (97 ล้านหุ้น, 4.9 พันลบ.)และ LHFG (264 ล้านหุ้น, 335 ล้านบาท) เนื่องจากผลของการซื้อหุ้นคืนไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้ราคาหุ้น Outperform กลุ่ม อีกทั้ง ราคาหุ้นทั้งตลาดฟื้นจากจุดต่ำสุดอย่างมีนัยสำคัญ แบงก์ใหญ่จึงไม่มีความจำเป็นต้องประกาศซื้อหุ้นคืนเพิ่มเติมหลังจากนี้อยู่แล้ว

ปันผลระหว่างกาลของกลุ่มแบงก์ที่หายไป ทำให้หุ้นปันผลที่แท้จริงโดดเด่นยิ่งขึ้น

แน่นอนว่า Sentiment เชิงลบของกลุ่มแบงก์ย่อมกระทบ SET INDEX อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ตลาด Underweight อยู่แล้ว สังเกตได้จากการเคลื่อนไหวของ BANK INDEX ที่ -31% YTD แย่กว่า SET INDEX ที่ -13% YTD กว่าเท่าตัว ขณะที่ การประชุม กนง. เพื่อพิจารณาดอกเบี้ยนโยบายจะมีขึ้น 24 มิ.ย. 63 เนื่องจากดอกเบี้ยเงินกู้ถูก ธปท. กดดันให้ปรับลงไปแล้วก่อนหน้า ถ้าลดดอกเบี้ยนโยบาย (เราคาด -0.25% เหลือ 0.25%) จะช่วยลดต้นทุนเงินฝาก ซึ่งเร่งตัวขึ้นมาก 7.8% ในช่วง 4M63เพราะฉะนั้น Downside ของกลุ่มแบงก์ยังค่อนข้างจำกัด และจะยิ่งจำกัดมากขึ้นเมื่อ กนง. ลดดอกเบี้ยส่วน KKP ที่ดูจะถูกกระทบเยอะสุด เพราะให้ผลตอบแทนจากปันผลระหว่างกาลสูงสุดในกลุ่มแต่เนื่องจากไม่ได้อยู่ใน SET50 แล้วจึงไม่น่ามีแรงขายจากกองทุนทั้งในและนอกประเทศกดดันมากนัก

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยเรายังให้ชะลอการลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์ไปก่อน

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities

......

บทความห้ามพลาด

มุมมองจาก Trinity หลัง ธปท. ขอให้แบงก์งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลและงดซื้อหุ้นคืน

เบื้องลึก! ธปท.สั่งงดจ่ายปันผล หุ้น BANK ระส่ำ นักลงทุนจ๊าก!

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย