Earnings Results
► ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (BK:STANLY) รายงานผลขาดทุนสุทธิงวด 1Q63/64 (เม.ย. – มิ.ย. 63) ที่ 184 ล้านบาท ลดลงจาก 4Q62/63 และ 1Q62/63 ที่มีก าไรสุทธิ 602 ล้านบาท และ 334 ล้านบาท และต่ำกว่าประมาณการของเราที่คาดขาดทุน 102 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ที่ต่ำกว่าประมาณการของเรา 8%
► ยอดขายลดลง 56%QoQ และ 50%YoY เป็น 1,719 ล้านบาท เป็นผลจากกการแพร่ระบาด ของ COVID-19 กระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งทำให้ค่ายรถยนต์มีการหยุดการผลิตในเดือน เม.ย โดยยอดผลิตรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ของอุตสาหกรรมปรับลดลง 70%YoY และ 56%YoY ตามลำดับ
ประสิทธิภาพในการทำกำไรลดลง ด้วยยอดผลิตที่ต่ำกว่า Economical of Scale โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากระดับปกติที่ 80% มาเหลือต่ำกว่า 50% ขณะที่บริษัทยังมีต้นทุนคงที่ต้องแบกรับ ทั้งค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน ค่าเสื่อมราคา ส่งผลให้ อัตรากำไรขั้นต้นปรับลดลงจาก 4Q62/63 และ 1Q62/63 ที่ 21.3% และ 15.4% เป็น -4.3%
Our Take
แนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี เราคาดอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์มีแนวโน้มดีขึ้นจากครึ่งปีแรกแต่เป็นการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังรัฐบาลคลาย Lockdown ทำให้ค่ายรถยนต์เริ่มกลับมาเดินเครื่องผลิตเพิ่มขึ้น โดยเราคาดยอดผลิตรถยนต์ของประเทศในปีนี้ที่1.1 ล้านคันปรับลดลง 45%YoY ขณะที่เราคาดกำไรปกติของ STANLY ที่ 1,316 ล้านบาท ปรับลดลง 34%YoY โดยคาดอัตราการใช้กำลังการผลิตสำหรับโคมไฟและหลอดไฟรถยนต์ของ STANLY จะปรับลดลงจากปีก่อนที่ 80% เหลือ 59%
เราคงคำแนะนำ “เก็งกำไร” ระยะสั้นเราคาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับลดลง เนื่องจากผลประกอบการที่อ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งมีโอกาสที่ตลาดจะปรับลดประมาณการ อย่างไรก็
ตามเรามองว่าผลประกอบการของ STANLY น่าจะผ่านจุดที่แย่สุดไปแล้ว เบื้องต้นเราประเมินมูลค่าพื้นฐานงวด 2563/2564 (สิ้นสุด มี.ค.64) อิง PE เฉลี่ย 5 ปีของ STANLY ที่
10.5x เท่ากับ 179 บาท คาดผลตอบแทนเงินปันผลงวด 2563/2564 ที่ 3.4% จากราคาปัจจุบัน
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities