ราคาหุ้นร่วงแรงในเวลาไม่กี่วันจากที่อยู่ประมาณ 34 บาท ลงมาต่ำสุดที่ 29 บาท ในวันนี้ ลดลงไปเกือบ 15%
พอราคาหุ้นลง เริ่มมีหลากหลายเหตุผลเข้ามาอธิบาย พร้อมกับความกลัวเข้าครอบงำ คนที่ถืออยู่ก็คงคิดว่า จะขายดีมั้ย คนที่เล็งอยู่ก็ไม่แน่ใจว่าจะซื้อดีหรือเปล่า
ผมขอแชร์ข้อเท็จจริงที่เป็นตัวเลขประกอบการตัดสินใจและเป็นกรณีศึกษาให้ดูแบบนี้ครับ
#ธุรกิจของ (BK:CPF) ทำอะไร
พูดถึง CPF เราะจะนึกถึง คำว่า Feed Farm Food ลอยมาทันที
38% คือ Feed ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์
44% คือ Farm เพาะพันธุ์สัตว์ เลี้ยงสัตว์และแปรรูป
18% คือ Food ผลิตเนื้อสัตว์แปรรูป อาหารพร้อมทาน
ถ้าดูในแง่ยอดขาย
31% CPF Thailand >> 26% ขายในประเทศ 5% ส่งออก
69% CPF International >> 26% ขายเมืองจีน 19% เวียดนาม ที่เหลือ 24% กระจายไปทั่วโลก
ทีนี้มาถึง #ประเด็นที่เป็นความกังวลกดดันราคาหุ้นกันบ้าง
1.เพิ่มทุนซื้อ TESCO
ส่วนแรกคือ ของ CPF เองที่จะต้องใช้เงิน 1,500 ล้านเหรียญ USD ในการลงทุน สัดส่วน 20% ถ้าดู Net D/E ตอนนี้ 1.2 เท่า การลงทุนก้อนนี้จะทำให้ Net D/E เพิ่มกลมๆ 1.5 เท่า ยังไม่ถึง 2 เท่า ตามที่ตกลงกับธนาคารไว้
ส่วนที่สอง CPF ถือหุ้น CPALL (BK:CPALL) 34% แล้ว CPALL ต้องเพิ่มทุนไปซื้อ Tesco มั้ย ถ้าดูจาก Opp Day ล่าสุด ผู้บริหารยืนยันค่อนข้างชัดเจนว่า ไม่เพิ่มทุน บวกกับที่ตอนนี้เราก็เห็นการ refinance หุ้นกู้ ออกมา ก็คาดว่าไม่น่าจะต้องเพิ่มทุน
จากสถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าไม่ได้มีเหตุการณ์อะไร เช่น COVID มากดดันเพิ่มเติม ก็คิดว่าไม่น่าจะต้องเพิ่มทุน
2.ราคากากถั่วเหลืองขึ้น 7%
ประเด็นนี้เป็นตัวกดดันด้านต้นทุน สาเหตุที่กากถั่วเหลืองขึ้นเพราะ มีการนำเข้าเพิ่มจากจีน และภัยแล้งในบราซิลทำให้ผลผลิตลดลง แต่ถามว่าเป็นประเด็นกับ CPF มั้ย ตอบแบบนี้ว่า
ข้อแรก CPF ไม่ได้ใช้กากถั่วเหลืองอย่างเดียว แต่ยังมีข้าวโพด รำข้าว และอย่างอื่นอีก
ข้อสอง สต็อคกากถั่วเหลืองมีพอเก็บไว้ถึงปีหน้าแล้ว
ข้อสาม ราคากากถั่วเหลืองอยู่ในโซนต่ำ ขึ้นมา 7% ก็ยังอยู่ในโซนต่ำอยู่
ข้อสี่ ผู้บริหาร CPF บอกว่า แนวโน้มราคากากถั่วเหลือง Q1’21 มีทิศทางลดลงจากฤดูการเก็บเกี่ยวที่จะมาถึง
3.ราคาหมูในเวียดนามลดลง
ความกังวลคือ ราคาลงเร็วมากจากเดือนที่แล้ว 87,500 ดอง ตอนนี้อยู่ที่ 76,000 ดอง จากความกังวลเรื่องโรคระบาด ASF ทำให้ผู้ประกอบการเอาหมูมาขายเยอะขึ้น และก็มีการเร่งนำเข้าหมูมากขึ้นเช่นกัน แต่ราคาที่ลงมาก็ยังสูงกว่าต้นทุนของ CPF อยู่เยอะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด ต้นทุน CPF น่าจะประมาณ 40,000 ดอง
แต่ถ้ามองภาพใหญ่ Supply หมูไม่พอ และการที่จะเลี้ยงหมูให้โตเต็มที่ต้องใช้เวลาโดยประมาณ 9 เดือน – 1 ปี แปลว่า หมูยังไม่พอกับ Demand ทำให้ราคาน่าจะทรงตัวในระดับสูงอยู่
และราคาหมูไทยไม่ได้ลดลงตาม ตอนนี้อยู่ที่กิโลละ 80 บาท ซึ่งสูงมากอยู่ และต้นทุน CPF ไม่น่าเกิน 60 บาท
4.หมูเป็นโรคตายที่ไทย
มีข่าวว่าหมูติดโรค PRRS: Porcine reproductive and respiratory เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและระบบสืบพันธุ์ ตามข่าวที่เห็นเกิดในฟาร์มขนาดเล็ก และอยู่ในความดูแลของกรมปศุสัตว์แล้ว ฟาร์มของ CPF มีระบบควบคุมโรคที่ดี น่าจะป้องกันได้ แต่เพื่อความไม่ประมาท เราก็ควรตามข่าวอย่างใกล้ชิด
#หุ้นCPFควรลงทุนอย่างไร
ที่ผมเล่าให้ฟังคือ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่การที่เราจะลงทุนหรือไม่ลงทุนหุ้น CPF เราต้องพิจารณาเพิ่มอีกชึ้นนึงคือ
1. CPF เป็นหุ้น commodity ที่มีความอ่อนไหว
เราจะเห็นแล้วว่า พื้นฐานธุรกิจขึ้นกับ ราคาหมู ข้าวโพด ถั่วเหลือง โรคระบาด ดินฟ้าอากาศ หลายอย่างคาดการณ์ไม่ได้ เป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยง ราคาหุ้นมีความผันผวนได้สูง แปลว่า เราต้องเข้าใจในการลงทุนหุ้นแบบนี้ ว่าจะลงทุนแบบไหน ถือยาว เก็งกำไรตามรอบ และต้องติดตามปัจจัยต่างๆ อย่างใกล้ชิด
2. CPF เป็นหุ้นใหญ่ Bid Offer หนาแน่น
ไม่ใช่แค่ว่าเป็นหุ้นใน SET50 ที่มี Market Cap ใหญ่กว่า 2 แสนล้านบาท แต่ถ้าเราลองดูโวลุ่มช่องนึงของ CPF ไม่ต่ำกว่า 2-3 ล้านหุ้น แปลว่า ต้องใช้เงินจำนวนมากในการขึ้นลงแต่ละช่อง แน่นอนว่าเป็นหุ้นที่อยู่ในลิสต์ของรายใหญ่ สถาบัน และต่างชาติ เพราะฉะนั้น คนกลุ่มนี้ก็จะต้องประเมินข่าวสาร upside และทางเลือกว่าจะซื้อ CPF ดี หรือหุ้นตัวอื่นดี
3. CPF ผูกพันธุ์กับ CPALL
เพราะถือหุ้นอยู่เยอะ ก็จะมีประเด็นโยงใยกันตลอด หรือถ้าแนวโน้มกำไร CPALL ไม่ดี ก็จะมีผลทางอ้อมต่อ CPF เช่นกัน ถึงแม้ว่า CPALL น่าจะผ่านจุดต่ำสุดใน Q2 มาแล้ว แต่ว่า Q3 ก็เหมือนจะยังไม่ได้ฟื้นแรงเป็น V-Shape เพราะ SSSG ยังติดลบอยู่น่าจะประมาณ 10-15% ได้ คือดี QoQ แต่อาจไม่ดีเหมือนปีที่แล้ว
สรุป CPF น่ากังวล หรือน่าลงทุน เพื่อนๆ ลองพิจารณาดูครับ และถ้าจะลงทุนก็ต้องเข้าใจด้วยว่าเรากำลังเล่นอยู่ในเกมส์ไหน ความเสี่ยงคืออะไร เราจะซื้อ จะขายตรงไหนอย่างไร หรือจะไม่ลงทุนก็ได้เช่นกัน วิตามินหุ้นเพียงให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจเท่านั้น โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบ การลงทุนมีความเสี่ยง
#CPF #วิตามินหุ้น
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins-วิตามินหุ้น