สรุป ราคาทองคําช่วงเช้าปรับตัวขึ้นต่อ ได้แรงหนุนจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีดอลล่าห์สหรัฐฯที่ร่วงลงจากระดับสูงสุดรอบ 4 สัปดาห์ที่ทําไว้บริเวณ 90.95 จุดในวันจันทร์ที่ผ่านมาลงสู่ ระดับ 90.34 จุดในระหว่างการซือขายเช้านี้ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา นางเจเน็ต เยลเลน ว่าที่รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯคนใหม่ได้ออกมาสนับสนุนสภาคองเกรสสหรัฐฯ เร่งอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับแรกของนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ และเรียกร้องให้สภาคองเกรสออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระยะยาว ส่งผลมีเม็ดเงินบางส่วนไหลเข้าตลาดทองคํา
ท่ามกลางคาดการณ์เรื่องเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ราคาทองคําได้รับแรงหนุนหลัง การสํารวจความเสี่ยงโลกประจําปีของสภาเศรษฐกิจโลก (WEF) เปิดเผยว่า โควิด-19 แสดงถึง “ผลกระทบที่เป็นหายนะ” ของการเพิกเฉยต่อความเสี่ยงระยะยาว เช่น โรคระบาดต่างๆ และผลทางเศรษฐกิจและการเมืองอาจเป็นสาเหตุให้เกิดวิกฤตการณ์มากขึนในอีกหลายปีข้างหน้า ส่วนปัจจัยที่น่าติดตามในคืนนี้ เป็นความเคลื่อนไหวการเมืองสหรัฐ โดยทั่วโลกมุ่งเป้าจับตาไปที่ถ้อยแถลงของนายโจ ไบเดน ที่วันนี้จะมีพิธีสาบานตนเพื่อเข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอย่างเป็นทางการ ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ราคา ทองคํามีการแกว่งตัวผันผวนในช่วงที่ผ่านมา แต่ระยะสันก็มีแรงดีดกลับและพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,856 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อย่างมั่นคงอาจเกิดแรงขายแต่หากยืน 1,818-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะเกิดแรงซื้อให้ทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แนะนํากลยุทธ์ การลงทุน หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,856 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เสี่ยงเปิดสถานะขายโดยตัดขาดทุนหากยืนเหนือ 1,856 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ สําหรับการปิด สถานะขายทํากําไรอาจพิจารณาดูบริเวณ 1,818-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดให้ทยอยเข้าซือคืนเพื่อทํากําไร
หากราคาทองคํายังสามารถไม่สามารถยืนเหนือโซน 1,856 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทําให้เกิดการอ่อนตัวลงของราคาแต่หากสามารถยืนเหนือโซนแนวรับ 1,818-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ก็จะเห็นการดีดตัวขึ้น
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International