สรุป แม้ว่าราคาทองคํา จะเปิดตลาดเช้านี้ ในตลาดเอเชียเหนือ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากสัญญาณจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยํ้าชัดว่า แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ดีขึ้นในขณะนี้ จะไม่กระตุ้นให้เฟดเร่งคุมเข้มนโยบายการเงิน สะท้อนจากถ้อยแถลงของของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดในระหว่างแถลง ต่อสภาคองเกรส รวมไปถึงถ้อยแถลงล่าสุดของนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดที่เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ห่างไกลจากเป้าหมายด้านการจ้างงาน และเงินเฟ้อของเฟด และอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่งจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดี ราคาทองคํายังคงเกิดแรงขายสลับออกมาเป็นระยะ ท่ามกลางความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีนต้าน COVID-19 หลังวัคซีนต้าน COVID-19 เข็มเดียวของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J่ มีแนวโน้มได้รับการอนุมัติให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉินในสหรัฐอย่างเร็วสุดในสัปดาห์นี้ ด้านผลการวิจัยในอิสราเอลแสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนต้าน COVID-19 ของ Pfizer สามารถลดจํานวนผู้ป่วย COVID-19 ที่มีอาการได้ถึง 94% ในทุกกลุ่มอายุและลดการเจ็บป่วยที่รุนแรงได้ในระดับเกือบเท่ากัน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงเคลื่อนไหวไม่ไกลจากระดับ 1.43% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปี ที่แล้ว จึงเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกของราคาทองคําอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้น แม้มีแรงขายสลับออกมาแต่หากราคายืนเหนือโซน 1,783-1,779 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจทําให้เห็นการดีดตัวขึ้นเพื่อพยายามทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,809-1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคําไม่สามารถยืน เหนือแนวต้านดังกล่าวได้ แนะนํานักลงทุนขายเพื่อทํากําไรระยะสั้น และรอซื้อคืนหากราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,779-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คำแนะนำ หากทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,809-1,827 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขาย ออกมาจะมีแนวรับบริเวณ 1,779-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th