Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุนวันนี้ - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (31 พ.ศ. ถึง 4 มิ.ย.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,610 จุด เราเชื่อว่าตลาดหุ้นยังคงมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายใน โดยเฉพาะสถานการณ์ โควิด-19 ที่ยังรุนแรง โดยในช่วงวันหยุด ยังคงมีจํานวนผู้ติดเชื้อในระดับ 4.5-4.8 พันราย และมี ผู้เสียชีวิตรวม 56 ราย แม้จะมีความหวังจากการนําเข้าวัตซีนและการดําเนินการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น ในเดือน มิ.ย. แต่เราเชื่อว่าจํานวนผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในระดับสูงจะยังเป็นปัจจัยกดดันในระยะสั้น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงาน ที่ยังได้รับ Sentiment เชิงสบจากความไม่แน่นอนก่อนการประชุม OPEC+ (เริ่ม 1 มิ.ย.) ซึ่งจะมีการพูดถึงการจัดการด้านอุปทาน และเงินเฟ้อสหรัฐ (Core PCE) ที่ปรับเพิ่มมากกว่าคาด ทําให้ต้องติดตามท่าทีของเฟตต่อนโยบายการเงินผ่อนคลาย หลังเริ่มมี สัญญาณการดึงเงินออก (M1) ผ่านการทํา Reverse Repo (การขายพันธบัตรกลับสู่ตลาด) แม้เฟต จะยืนยันคงมาตรการ QE ก็ตาม จะเป็นปัจจัยกดดันภาพรวมการลงทุนในช่วงต้นสัปดาห์ กลยุทธ์การ ลงทุนเรายังคงแนะนํา Selective เน้นลงทุนหุ้นตาม Core Investment ที่เราแนะน้า โดยเราให้ สัดส่วนหุ้นในพอร์ต 5096 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทําการเนื่องในวันรําลึกถึงผู้พลีชีพเพื่อชาติ (Mermorial Day) และตลาดหุ้นสหราชอาณาจักรปิดทําการเนื่องในวันหยุตธนาคาร (Bank Holiday) • PCE พื้นฐานสหรัฐฯ เดือน เม.ย. สูงกว่าคาด - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PE) ในเดือน เม.ย. อยู่ที่ 0.69%MoM และเพิ่มขึ้น 3.69%YoY เพิ่มขึ้นจาก เดือน มี.ค. ที่ระดับ 0.5%EMoM และ 2.39%YoY ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (ไม่รวมหมวดอาหารและ พลังงาน) เป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกสางสหรัฐ (เฟต) ให้ความสําคัญ ในเดือน เม.ย. อยู่ที่ 0.76McM และ 3.1%YoY (คาต 0.69%MGM และ 2.99%YoY) เพิ่มขึ้นจากเดือน มี.ค. ที่ 0.4% McKM และ 1.9%YoY เราเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะเป็นปัจจัยกดดันภาพรวมการลงทุน แม้เฟตจะยืนยันว่ายังไม่ พร้อมสําหรับการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน แต่กรรมการเฟตบางท่านเริ่มหารือเกี่ยวกับการปรับลด แผนการซื้อพันธบัตร เรามองว่ายังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด กับการเปิดเผยข้อมๆ เศรษฐกิจของสหรัฐ และการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟต) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี อัตราเงินเฟ้อ และความเป็นไปได้ที่เฟตอาจจะเริ่มสตและเปลี่ยน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมไปถึงนโยบายการเงิน
• ราคาน้ำมันดิบปรับลด สะท้อนอุปทานที่เพิ่มขึ้นเราเชื่อว่าจะกระทบ Sentiment หุ้นในกลุ่มพลังงาน - สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ล่าสุตปรับสตสง 53 เซนต์ (-0.g6) หลังเบเกอร์ ฮิวจ์ (ผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ) รายงานจํานวนแท่นขุดเจาะน้ำมัน เพิ่มขึ้น 3 แท่น สู่ระดับ 359 แท่นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นการเพิ่มขึ้น 4 สัปดาห์ติดต่อกัน สะท้อนการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ที่ เพิ่มขึ้น ขณะที่เรายังคงต้องติดตามการประชุม OPEC+ ที่จะเริ่มขึ้นวันที่ 1 มิ.ย. โดยเนื้อหาสําคัญอยู่ที่ การหารือเรื่องการผลิตน้ำมันดิบ โดยตามกําหนดเต็ม OPEC+ จะเพิ่มก้าลังผลิต 350,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน มิ.ย. และเพิ่มอีก 441,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ศ. อย่างไรก็ตามแผนการผลิตดังกล่าวอาจ มีการทบทวนใหม่ เนื่องจากอิหร่านและสํานักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) สามารถบรรลุข้อตกลง ในการขยายเวลาข้อตกลงตรวจสอบโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านออกไปอีก 1 เดือน เพิ่มน้ำหนักต่อการที่ อิหร่านจะสามารถกลับมาส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มในระยะใกส์ อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามการเจรจา เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่าง สหรัฐฯ และอิหร่าน ในสัปดาห์หน้า • ติดตามรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญวันนี้ - ดัชนียอดค้าปลีก (Retail Sales) ของญี่ปุ่นในเดือน เม.ย. (คาตเพิ่มขึ้น 15.3%ACM) /รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของจีน ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่าย จัดชื่อภาคการบริการ (Services Pu) เดือน พ.ศ. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. (คาตขยายตัวอยู่ที่ 51.1 จุติ) และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวม (Composite PMI) เดือน พ.ศ. /รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของไทย ได้แก่ ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) มูลค่าการส่งออก (Exports) มูลค่าการนาเข้า (Imports) ตุลการค้า (Trade Balance) ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (Private Investment) ตุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account) และดัชนีการ อุปโภคบริโภคภาคเอกชน (Private Consumption) ในเดือน เม.ย. /รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของ อินเดีย ได้แก่ ตัวเลข GDP 4Q2021 (คาดขยายตัว 1.0EYon/รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของเยอรมนีได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. (ศาตเพิ่มขึ้น 2.99%YoY และ 0.3%MoM)
• มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,565-1,590 จุด
หุ้นแนะนําทางเทคนิควันนี้ได้แก่ RPC SEAFCO BANPU NCAP และ MAJOR
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities