🟢 ตอนนี้ตลาดกำลังทะยานขึ้น สมาชิกผู้ใช้บริการของเรากว่า 120K คน ต่างรู้ดีว่าควรทำอย่างไร คุณก็สามารถรู้ได้เช่นกันรับส่วนลด 40%

Daily Strategy.....Sentiment เชิงบวกจากปัจจัยภายในหนุนตลาด

เผยแพร่ 01/06/2564 09:38
อัพเดท 09/07/2566 17:32
SETI
-

• ภาพรวมการลงทุนวันนี้ - เราคาดว่า SETวันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,575-1,605 จุด ตลาดหุ้น

จะยังเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ถึง Sideway Up แม้มีความเสี่ยงจากปัจจัยภายในหลังจํานวน ผู้ติดเชื้อในประเทศยังคงปรับเพิ่ม แต่ความคาดหวังต่อการดําเนินการฉีดวัคซีน ที่เริ่มทยอยฉีดให้กับ บุคคลทั่วไปตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เป็น Sentiment เชิงบวกต่อภาพรวมการลงทุน เป็นปัจจัยหนุน Core Investment ของเรา (หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเพิ่มจากวัคซีนทางเลือก) ติดตามการประชุม OPEC+ วันนี้ (1 มิ.ย.) โดยเฉพาะประเด็นด้านอุปทาน กลยุทธ์การลงทุนเรายังคง แนะนํา Selective เน้นลงทุนหุ้นตาม Core Investment ที่เราแนะนํา โดยเราให้สัดส่วนหุ้นใน พอร์ต 60%

เรายังเชื่อว่าราคาน้ํามันดิบจะอยู่ในระดับสูง ติดตามการประชุม OPEC+ วันนี้ (1 มิ.ย.) โดยเฉพาะ ประเด็นการจัดการด้านอุปทาน - ติดตามการประชุม OPEC+ (Ministerial Meeting) วันนี้ (1 มิ.ย.) โดยประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่แผนการผลิตซึ่งเดิม OPEC+ จะเพิ่มกําลังผลิต 350,000 บาร์เรลต่อวัน ใน เดือน มิ.ย. และเพิ่มอีก 441,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ค. แต่อาจต้องพิจารณาความเป็นไปได้ในการ กลับมาส่งออกน้ํามันดิบเพิ่มของอิหร่าน หากสามารถเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่าง สหรัฐฯ และอิหร่าน ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม เรายังเชื่อว่าราคาน้ํามันดิบจะยังคงยืนในระดับสูง โดย WTI จะ เคลื่อนไหวในกรอบ 60-65 เหรียญต่อบาร์เรล จากความต้องการใช้น้ํามันดิบที่เพิ่มขึ้น จากปัจจัยฤดูกาล (Driving Season ในสหรัฐฯ) และการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ จากการกลับมาทยอยเปิดประเทศ ของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หลังการดําเนินการฉีดวัคซีนมีความคืบหน้า ขณะที่รายงานล่าสุด คณะกรรมการ JTC ของกลุ่ม OPEC+ คาดว่าความต้องการใช้น้ํามันดิบในปี 2564 จะอยู่ที่ 96.5 ล้าน บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน (+6.69%YoY) และในปี 2564 JTC คาดว่าตลาดน้ํามันดิบจะ เกิดภาวะขาดดุลยภาพจากอุปสงค์ส่วนเกิน (Excess Demand) ลดความกังวลต่อภาพรวมอุปทานที่ อาจจะปรับเพิ่มจากแผนการเพิ่มกําลังผลิตของ OPEC+ รวมทั้งอิหร่าน

อินเดีย รายงาน GDP ในช่วง 1Q64 ขยายตัว 1.6%YoY - กระทรวงสถิติแห่งชาติอินเดีย รายงาน GDP ในช่วง 1Q64 ขยายตัว 1.6%YoY ดีกว่าที่ Market Consensus คาดไว้ที่ 16YoY และดีกว่า GDP ในช่วง 4Q63 ที่ขยายตัวเพียง 0.59%YoY ขณะที่ประมาณการ GDP ปี 2564 คาดว่าจะหดตัว 7.3%YoY (เดิมคาดหดตัว 8%YoY) อย่างไรก็ตาม Market Consensus ยังคงกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจอินเดียใน 2Q64 หลังเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วง เม.ย. ถึง พ.ค. ที่ผ่านมา โดย ผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่รุนแรงกว่าเดิม กระทบความเชื่อมั่นและความเคลื่อนไหวของ ผู้บริโภค อีกทั้งแผนดําเนินการฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างล่าช้า ขณะที่มาตรการล็อกดาวน์ ยังคงส่งผลกระทบ ต่อภาคธุรกิจค้าปลีก การขนส่ง และการก่อสร้าง กระทบกําลังซื้อในประเทศ รวมไปถึงการว่างงานที่ เพิ่มขึ้น ขณะที่โครงสร้างเศรษฐกิจของอินเดียมาจากอุปสงค์จากผู้บริโภคมากกว่า 5596 เกิดชะลอตัวลง

ติดตามรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญวันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของญี่ปุ่น ได้แก่ ดัชนี ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของจีน ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตจากสถาบัน Caixin (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. (คาด ขยายตัวอยู่ที่ 51.7 จุด) / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของยุโรป ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. (คาดขยายตัวอยู่ที่ 62.896) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน เม.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 1.99%YoY) และอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) เดือน เม.ย. (คาดอยู่ที่ 8.196) / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของเยอรมนี้ ได้แก่ ดัชนียอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือน เม.ย. (คาดลดลง 0.39%YoY และ 1.56MoM) การเปลี่ยนแปลงอัตราการว่างงาน (Unemployment Change) เดือน พ.ค. (คาดลดลง 5,000 คน) อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) เดือน พ.ค. (คาดอยู่ที่ 6.096) และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. (คาดขยายตัวอยู่ที่ 64.0 จุด) / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของอังกฤษ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. (คาตขยายตัวอยู่ที่ 66.196)/รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการ ฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตจากสถาบัน ISM (ISM Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. (คาดขยายตัวอยู่ที่ 60.8 จุด)

• บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ – Company Update: CK

มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,575-1,605 จุด หุ้นแนะนําทาง เทคนิควันนี้ได้แก่ UV STI STEC AMATA และ SPA

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย