• ภาพรวมการลงทุนวันนี้ - เราคาดว่า SETวันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,575-1,605 จุด ตลาดหุ้น
จะยังเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ถึง Sideway Up แม้มีความเสี่ยงจากปัจจัยภายในหลังจํานวน ผู้ติดเชื้อในประเทศยังคงปรับเพิ่ม แต่ความคาดหวังต่อการดําเนินการฉีดวัคซีน ที่เริ่มทยอยฉีดให้กับ บุคคลทั่วไปตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เป็น Sentiment เชิงบวกต่อภาพรวมการลงทุน เป็นปัจจัยหนุน Core Investment ของเรา (หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเพิ่มจากวัคซีนทางเลือก) ติดตามการประชุม OPEC+ วันนี้ (1 มิ.ย.) โดยเฉพาะประเด็นด้านอุปทาน กลยุทธ์การลงทุนเรายังคง แนะนํา Selective เน้นลงทุนหุ้นตาม Core Investment ที่เราแนะนํา โดยเราให้สัดส่วนหุ้นใน พอร์ต 60%
เรายังเชื่อว่าราคาน้ํามันดิบจะอยู่ในระดับสูง ติดตามการประชุม OPEC+ วันนี้ (1 มิ.ย.) โดยเฉพาะ ประเด็นการจัดการด้านอุปทาน - ติดตามการประชุม OPEC+ (Ministerial Meeting) วันนี้ (1 มิ.ย.) โดยประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่แผนการผลิตซึ่งเดิม OPEC+ จะเพิ่มกําลังผลิต 350,000 บาร์เรลต่อวัน ใน เดือน มิ.ย. และเพิ่มอีก 441,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ค. แต่อาจต้องพิจารณาความเป็นไปได้ในการ กลับมาส่งออกน้ํามันดิบเพิ่มของอิหร่าน หากสามารถเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่าง สหรัฐฯ และอิหร่าน ในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม เรายังเชื่อว่าราคาน้ํามันดิบจะยังคงยืนในระดับสูง โดย WTI จะ เคลื่อนไหวในกรอบ 60-65 เหรียญต่อบาร์เรล จากความต้องการใช้น้ํามันดิบที่เพิ่มขึ้น จากปัจจัยฤดูกาล (Driving Season ในสหรัฐฯ) และการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ จากการกลับมาทยอยเปิดประเทศ ของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หลังการดําเนินการฉีดวัคซีนมีความคืบหน้า ขณะที่รายงานล่าสุด คณะกรรมการ JTC ของกลุ่ม OPEC+ คาดว่าความต้องการใช้น้ํามันดิบในปี 2564 จะอยู่ที่ 96.5 ล้าน บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน (+6.69%YoY) และในปี 2564 JTC คาดว่าตลาดน้ํามันดิบจะ เกิดภาวะขาดดุลยภาพจากอุปสงค์ส่วนเกิน (Excess Demand) ลดความกังวลต่อภาพรวมอุปทานที่ อาจจะปรับเพิ่มจากแผนการเพิ่มกําลังผลิตของ OPEC+ รวมทั้งอิหร่าน
อินเดีย รายงาน GDP ในช่วง 1Q64 ขยายตัว 1.6%YoY - กระทรวงสถิติแห่งชาติอินเดีย รายงาน GDP ในช่วง 1Q64 ขยายตัว 1.6%YoY ดีกว่าที่ Market Consensus คาดไว้ที่ 16YoY และดีกว่า GDP ในช่วง 4Q63 ที่ขยายตัวเพียง 0.59%YoY ขณะที่ประมาณการ GDP ปี 2564 คาดว่าจะหดตัว 7.3%YoY (เดิมคาดหดตัว 8%YoY) อย่างไรก็ตาม Market Consensus ยังคงกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจอินเดียใน 2Q64 หลังเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 โดยเฉพาะในช่วง เม.ย. ถึง พ.ค. ที่ผ่านมา โดย ผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่รุนแรงกว่าเดิม กระทบความเชื่อมั่นและความเคลื่อนไหวของ ผู้บริโภค อีกทั้งแผนดําเนินการฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างล่าช้า ขณะที่มาตรการล็อกดาวน์ ยังคงส่งผลกระทบ ต่อภาคธุรกิจค้าปลีก การขนส่ง และการก่อสร้าง กระทบกําลังซื้อในประเทศ รวมไปถึงการว่างงานที่ เพิ่มขึ้น ขณะที่โครงสร้างเศรษฐกิจของอินเดียมาจากอุปสงค์จากผู้บริโภคมากกว่า 5596 เกิดชะลอตัวลง
ติดตามรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญวันนี้ - รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของญี่ปุ่น ได้แก่ ดัชนี ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของจีน ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตจากสถาบัน Caixin (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. (คาด ขยายตัวอยู่ที่ 51.7 จุด) / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของยุโรป ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. (คาดขยายตัวอยู่ที่ 62.896) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน เม.ย. (คาดเพิ่มขึ้น 1.99%YoY) และอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) เดือน เม.ย. (คาดอยู่ที่ 8.196) / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของเยอรมนี้ ได้แก่ ดัชนียอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือน เม.ย. (คาดลดลง 0.39%YoY และ 1.56MoM) การเปลี่ยนแปลงอัตราการว่างงาน (Unemployment Change) เดือน พ.ค. (คาดลดลง 5,000 คน) อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) เดือน พ.ค. (คาดอยู่ที่ 6.096) และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. (คาดขยายตัวอยู่ที่ 64.0 จุด) / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของอังกฤษ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. (คาตขยายตัวอยู่ที่ 66.196)/รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการ ฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตจากสถาบัน ISM (ISM Manufacturing PMI) เดือน พ.ค. (คาดขยายตัวอยู่ที่ 60.8 จุด)
• บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ – Company Update: CK
มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,575-1,605 จุด หุ้นแนะนําทาง เทคนิควันนี้ได้แก่ UV STI STEC AMATA และ SPA
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities