หาดทิพย์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าของโคคาโคล่า เช่น โค้ก แฟนต้า น้ำทิพย์ สำหรับ 14 จังหวัดภาคใต้
เป็น #1 ในตลาดน้ำอัดลมภาคใต้ ส่วนแบ่งการตลาด 82.2% (ตลาดหดตัว 8% แปลว่า ยอดขาย HTC ลดน้อยกว่า และไปกินแชร์คนอื่นมาได้)
ถ้าเราดูยอดขาย Q1 จะพบว่า -5% หายไปเพราะร้านอาหาร โรงแรม นักท่องเที่ยวลดลง การดื่มน้ำอัดลมก็ลดลงตาม แต่ หาดทิพย์ จำกัด (BK:HTC) ก็พยายามปรับกลยุทธ์เช่น ออกขนาดใหญ่ขึ้นให้เหมาะกับกินที่บ้าน ขยายร้านค้าไปที่ร้านโชว์ห่วย เพิ่มตู้แช่มากขึ้น และมีน้ำทิพย์ไปขายที่ร้านสะดวกซื้อมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีรับจ้างผลิตให้ไทยน้ำทิพย์ด้วยในบางสินค้าบางขนาด (ไทยน้ำทิพย์ก็มีให้ HTC ผลิต) บางครั้งเราพลิกขวดโค้กในร้านที่กรุงเทพฯ จะเขียนว่าผลิตทีหาดทิพย์
ถึงแม้ยอดขายจะลดลง แต่ GPM ดีขึ้นจาก 39.7% เป็น 41.5% เหตุผลก็เพราะว่า
1. ทยอยย้ายสายการผลิตจากโรงงานที่หาดใหญ่ ไป พุนพิน สุราษฎร์ธานี ทำให้ต้นทุนการผลิตดีขึ้น ค่าขนส่งก็ลดลง เพราะอยู่ตรงระหว่างภาคกลางกับภาคใต้
2. สินค้าสูตรใหม่ทั้งลดน้ำตาล หรือไม่มีน้ำตาล และ product mix ที่มาทางนี้มากขึ้น ช่วยให้กำไรดีขึ้น รวมไปถึงการเลื่อนขึ้นภาษีน้ำตาลออกไปอีก 1 ปี ก็จะช่วยได้อีก
SG&A -7.3% ก็มาจากต้นทุนค่าขนส่งที่ลดลง และแคมเปญการตลาดต่างๆ ที่ลดลง บวกกับปีที่แล้วมีค่าใช้จ่ายย้ายโรงงานด้วย แต่ถ้าเปิดเมืองแล้ว SG&A อาจจะกลับมาเพิ่มได้จากแคมเปญการตลาด
ยอดขายที่ลดลง แต่ GPM ดี ค่าใช้จ่ายลด ส่งผลให้กำไรสุทธิเพิ่มจาก 120 ล้านบาท เป็น 147 ล้านบาท +22.7%
ถ้าดูจากตรงนี้ก็พอเห็นแสงสว่างรำไรว่า ถ้าเปิดเมือง เปิดประเทศ แล้วผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติมากันเยอะขึ้น โอกาสที่ ยอดขายจะกลับมาบวกก็มีความเป็นไปได้สูง แต่คำว่าสูงสำหรับตลาดน้ำอัดลมก็ไม่ได้แปลว่าหลายสิบเปอร์เซ็นต์นะ อาจจะเป็นเลขหลักเดียวปลายๆ อะไรแบบนี้
และเชื่อว่า GPM ยังมีโอกาสเพิ่มได้จากสายการผลิตโรงงานพุนพิน กับสูตรไม่มีน้ำตาล (มีออกมาใหม่ด้วย มีใครได้ชิมยังครับ อยากรู้ว่ารสชาติดีมั้ย) ส่วน SG&A ภาพใหญ่ก็น่าจะคุมได้ ยกเว้นจะเร่งทำการตลาดมากขึ้นในช่วงแรก
ในแง่ของธุรกิจอื่นๆ ก็มีทำหลายอย่างแต่ต้องติดตามว่าจะไปได้ดีแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็น
รับจัดจำหน่ายสินค้าให้หลายแบรนด์ อันนี้เวิร์คแน่นอน เพราะเป็นจุดแข็งของตัวเอง มี network ร้านค้าอยู่แล้วด้วย แต่ร้านค้าส่วนมากก็จะเป็นร้านที่ขายอาหาร ขนม เครื่องดื่ม เป็นส่วนใหญ่ (สำหรับแบรนด์ที่เอาของมาให้ HTC จัดจำหน่ายต้องดูด้วยว่าสินค้าเราเหมาะกับร้านค้าประเภทนี้หรือเปล่าครับ)
- มีเปิดร้านเขียง น่าจะเปิดไม่เยอะ ขึ้นอยู่กับทำเลว่าหาได้มากแค่ไหน
- มีแผนไปทำธุรกิจอสังหา อันนี้ยังเพิ่มเริ่มต้น
- มีออกสินค้า skin care แบรนด์ตัวเอง ชื่อว่า เอ็มก้า มิราเคิล เซรั่ม ขนาด 30 มล. ราคา 959 บาท (ตอนนี้ลดราคาอยู่เหลือ 495 บาท) เพิ่งขายอาทิตย์เดียว ใน oppday บอกว่า feedback ดี แต่แบรนด์ตัวเองทำไม่ง่าย และต้องใช้เงินการตลาดพอสมควรเลยถ้าจะหวังยอดขายเยอะ
โดยสรุป HTC แนวโน้มระยะสั้น Q2 น่าจะไม่ดีเพราะ COVID รอบใหม่ แต่ถ้าเปิดประเทศได้เมื่อไหร่ ยอดขายก็น่าจะกลับมาได้ (คำถามคือ เมื่อไหร่มากกว่า) P/E 12-13 เท่า ปันผล 5%
..
ใครสนใจลองทำการบ้านกันต่อได้เลยครับ วิตามินหุ้นเพียงให้ข้อมูลประกอบการลงทุนเท่านั้น การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนการลงทุนทุกครั้ง
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins - วิตามินหุ้น