รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ดอลลาร์ ทองคำ ผันผวน

เผยแพร่ 13/09/2564 10:32

ในสัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็นพิเศษ พวกเขาต้องการที่จะมองไปข้างหน้าให้ไกลจากสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ หลังจากสิ่งที่พวกเขาได้ยินจากคนวงในธนาคารกลางสหรัฐฯ กับภาพความเป็นจริงที่มีความขัดแย้งกันอยู่พอสมควร 

หากยังจำกันได้ ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่แจ็คสัน โฮลเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐได้ออกมากล่าวว่าพวกเขา (ธนาคารกลาง) มีแผนที่จะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในสิ้นปีนี้ แต่หลังจากนั้นตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนสิงหาคมกลับออกมาน้อยที่สุดในระยะเวลาเจ็ดเดือนล่าสุด ทำให้นักลงทุนคิดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะต้องเลื่อนระยะเวลาการลด QE ออกไปอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามถ้อยแถลงจากคนในของธนาคารกลางสหรัฐฯ กลับเศรษฐกิจสหรัฐฯยังเติบโตตามเป้าของธนาคารกลาง มิชเชล โบว์แมน หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า

“พวกเรา (ธนาคารกลางสหรัฐฯ) กำลังเข้าใกล้เป้าหมายระดับการจ้างงานที่ต้องการแล้ว หากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่กำลังจะออกมาเป็นไปตามที่เราคาด การลดวงเงินเพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์จะต้องเกิดขึ้นภายในปีนี้อย่างแน่นอน”

นอกจากมิชเชล โบว์แมน นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางแห่งคลีฟแลนด์ก็ออกมาพูดเมื่อวันศุกร์ที่แล้วในทำนองเดี่ยวกันว่า “ดิฉันเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มลดวงเงินการซื้อสินทรัพย์ภายในปีนี้” คำพูดของลอเรตตาเกิดขึ้นวันเดียวหลังจากการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ได้ข้อสรุปว่าจะปรับแผนโครงการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลใหม่ แทนที่จะใช้คำว่าปรับลดวงเงิน QE คริสตีน ลาการ์ด ประธาน ECB เข้าใจเลือกใช้คำในแถลงการณ์ครั้งนี้มาก เพราะไม่ต้องการให้นักลงทุนตั้งความหวังมากเกินไป

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ตลาดลงทุนในตอนนี้ดูจะค่อนข้างสับสน และมีโอกาสปรับตัวลดลงมากกว่าขึ้น เพราะในขณะที่คนจากธนาคารกลางออกมาพูดเองว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโต แต่รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจที่พึ่งออกมาล่าสุด ก็ระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งก็สอดคล้องกับตัวเลขการจ้างงานฯ ในเดือนสิงหาคม แต่ทำไมคนในถึงกลับบอกว่าเศรษฐกิจเติบโตได้ดี?

ความคลาแคลงใจนี้ทำให้วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีหลักของสหรัฐฯ พากันร่วงเร็วที่สุดนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายน ไมว่าจะเป็นดาวโจนส์ เอสแอนด์พี 500 แนสแด็กและรัสเซล 2000 มีเพียงรัสเซลเท่านั้นที่ปิดตลาดติดลบน้อยที่สุด (-0.7%) ส่วนแนสแด็กนั้นถือว่าลงมากที่สุด (0.9%) 

แต่เพราะตลาดยังถือว่าอยู่ในภาวะ reflation จึงยังมีหุ้นบางกลุ่มของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่สามารถปรับตัวขึ้นได้ หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี วัสดุก่อสร้างและพลังงานเกือบปิดติดลบ กลุ่มเทคโนโลยีสามารถปิดบวกได้ 0.02% ในขณะที่อีกสองกลุ่มที่เหลือสามารถปิดบวกได้ตัวละ 0.04% นอกเหนือจากนี้ หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลดลง 1.4% กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ - 1.25% และเฮลท์แคร์ติดลบมากกว่า 1%

นักวิเคราะห์บางกลุ่มให้เหตุผลว่าสาเหตุที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ถูกเทขายออกมาเป็นเพราะนักลงทุนเริ่มเตรียมตัวหนีการลดวงเงิน QE ของเฟด ตั้งแต่แรกที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์สามารถปรับตัวขึ้นมาได้เป็นเพราะนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลาง เมื่อพิจารณาด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะเห็นว่ากราฟดัชนีเอสแอนด์พี 500 รายสัปดาห์สร้างรูปแบบดาวตก (Evening Star) สำเร็จแล้ว

SPX Weekly

ในสัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับหุ้นของบริษัทแอปเปิล (NASDAQ:AAPL) เป็นพิเศษ เพราะก่อนปิดสัปดาห์ที่แล้ว มีข่าวที่ออกมาและสร้างผลกระทบเชิงลบให้กับหุ้นแอปเปิลจนร่วงลงไป 3.3% ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางสหรัฐสั่งให้บริษัทเปลี่ยนวิธีการทำงานของ App Store ที่จะทำให้นักพัฒนา App ต่างๆสามารถนำผู้ใช้งานไปซื้อของหรือจ่ายเงินกับทางเจ้าของแอปได้ตรง ไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่าง App StoreAAPL Daily

การปรับตัวลงมาของหุ้นแอปเปิลเมื่อวันศุกร์สร้างความเป็นไปได้ที่อาจจะทำให้เกิดรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมว่าวันพรุ่งนี้แอปเปิลจะมีอีเวนต์เปิดตัวโทรศัพท์ iPhone 13 ที่อาจจะทำให้หุ้นบริษัทปรับตัวกลับขึ้นมาได้บ้าง และอาจจะนำไปสู่การสร้างไหล่ขวาของรูปแบบหัวไหล่

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวกลับขึ้นมา แต่โดยรวมแล้วกราฟก็ยังคงไซด์เวย์อยู่ในกรอบพักฐาน ที่ค่อยๆ ยกจุดต่ำสุดขึ้นทีละเล็กละน้อยUST 10Y Daily

จากรูปในตอนนี้ให้ประเมินเอาไว้ก่อนว่าแนวโน้มหลักยังคงเป็นขาลง ส่วนพฤติกรรมที่กำลังพักฐานนั้นเป็นไปได้ทั้งหมดสามรูปแบบ หนึ่งคือหัวไหล่ฝั่งขาขึ้น สองคือสามเหลี่ยมสมมาตร และสามเหลี่ยมลู่ขึ้น 

ดอลลาร์สหรัฐผันผวนเช่นเดียวกับกราฟอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลDollar Daily

แต่สิ่งที่ต่างออกไปสำหรับกราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐกับกราฟอัตราผลตอบแทนฯ คือกราฟดัชนีดอลลาร์กำลังสร้างรูปแบบหัวไหล่ฝั่งขาลงใต้เส้น neckline ความเป็นไปได้ในระยะสั้นจึงยังอยู่ที่แนวโน้มขาลง

การผันผวนของดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนทองคำมีความหวังGold Daily

จากรูปภาพรายวันตรงนี้จะเห็นว่าตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมมาจนถึงปัจจุบัน มีโอกาสที่ราคาทองคำจะกลายเป็นรูปแบบหัวไหล่สำหรับฝั่งขาขึ้น แต่เมื่อมองภาพกว้างออกไปยิ่งกว่านั้น และนำช่วงจุดต่ำสุดของเดือนมีนาคมมาร่วมพิจารณาด้วยแล้ว จะเห็นว่าทองคำกำลังพยายามสร้างรูปแบบ double-bottom การหลุดกรอบเทรนด์ไลน์ขาลงสีแดงขึ้นไปได้ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับขาขึ้นในระยะยาวเป็นอย่างมาก

สัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าเป็นสัปดาห์ที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลสามารถเรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควร เมื่อราคาบิทคอยน์ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วจากจุดสูงสุด $52,000 ลงมายัง $42,000 เมื่อวันอังคารที่ 7 กันยายน  ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาวิ่งอยู่ที่ $46,000 โดยประมาณ BTC/USD Weekly

การร่วงลงมาของราคาบิทคอยน์เมื่อวันอังคารที่แล้ว สร้างความเป็นไปได้อาจจะเกิดจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดแรก และทำให้บิทคอยน์เข้าสู่การเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลงในระยะยาว

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ (เวลาทั้งหมดคำนวณเป็น EDT)

วันอาทิตย์

19:50 (ญี่ปุ่น) ดัชนีราคาผู้ผลิต: คาดว่าจะคงที่ 5.6% YoY

 

วันอังคาร

02:00 (สหราชอาณาจักร) รายงานจำนวนคนว่างงานที่ใช้สิทธิประโยชน์จากการว่างงาน: ตัวเลขในเดือนกรกฎาคม -7.8K

08:30 (สหรัฐฯ) ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน: คาดว่าตัวเลขในเดือนสิงหาคมจะคงที่อยู่ที่ 0.3%

22:00 (ประเทศจีน) รายงานตัวเลขผลผลิตจากภาคอุตสาหกรรม: คาดว่าจะลดลงจาก 6.4% เป็น 5.8%

 

วันพุธ

02:00 (สหราชอาณาจักร) ดัชนีราคาผู้บริโภค: คาดว่าตัวเลขในเดือนสิงหาคมจะเพิ่มขึ้นจาก 2.0% เป็น 2.9% YoY

08:30 (แคนาดา) ดัชนีราคาผู้บริโภค: คาดว่าตัวเลขในเดือนสิงหาคมจะลดลงมายัง 0.1% จาก 0.6%

10:30 (สหรัฐฯ) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง: ตัวเลขครั้งก่อนปรับตัวลดลงจาก -1.529M

21:30 (ออสเตรเลีย) รายงานตัวเลขการจ้างงาน: คาดว่าจะลดลงจาก 2.2K เป็น -70.0K

 

วันพฤหัสบดี

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขยอดค้าปลีกพื้นฐาน: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก -0.4% เป็น -0.1%

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 310K เป็น 318K

08:30 (สหรัฐฯ) ดัชนีภาคการผลิตจากเฟดฟิลาเดเฟีย: คาดว่าจะลดลงจาก 19.4 จุดเป็น 19.0 จุด

 

วันศุกร์

02:00 (สหราชอาณาจักร) รายงานตัวเลขยอดค้าปลีก: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก -2.5% เป็น 0.5%

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

05:00 (ยูโรโซน) ดัชนีราคาผู้ผลิต: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2.2% เป็น 3.0%

ความคิดเห็นล่าสุด

Thak you👍👍👍
Thank you
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย