รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

นักลงทุนตลาดน้ำมันควรทราบอะไรเพื่อรับมือกับความเสี่ยงจากโอไมครอน?

เผยแพร่ 03/12/2564 16:52
อัพเดท 09/07/2566 17:31
LCO
-
CL
-

ถึงนาทีนี้เราเชื่อว่านักลงทุนส่วนมากบนโลกน่าจะรู้จักกับโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีนามว่า “โอไมครอน” กันไปแล้ว นี่คือเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ล่าสุดที่ถูกค้นพบในทวีปแอฟริกา มีความสามารถในการกระจายตัวได้เร็วกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้หลายเท่า และเข้าโจมตีมนุษยชาติอย่างไม่ทันตั้งตัว

WTI Weekly TTM

สาเหตุที่เราใช้คำว่า “ไม่ทันตั้งตัว” นั้นเพราะข่าวนี้พึ่งจะเริ่มมาเป็นที่พูดถึงกันในโลกตะวันตกหลังจากวันขอบคุณพระเจ้า ในวันนั้น ตลาดลงทุนปิดทำการ ทุกคนกำลังใช้เวลาอยู่กับครอบครัวอย่างสบายใจ ถึงแม้ว่าบางแพลตฟอร์มจะมีปริมาณการซื้อขายอยู่บ้าง แต่ก็เป็นระดับที่เบาบางมากๆ จึงไม่มีใครได้ทันสังเกตในยามที่โควิดสายพันธุ์โอไมครอนเข้าตีกรุง

ทันทีที่ตลาดลงทุนฝั่งสหรัฐอเมริกากลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 26 พฤศจิกายน ราคาน้ำมันดิบ WTI ก็ได้ปรับตัวลดลงมากกว่า 13% มีราคาซื้อขาย ณ ตอนนั้นอยู่ที่ $68.15 ต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ก็ได้ปรับตัวลดลง 11.6% มีราคาซื้อขาย ณ ตอนนั้นอยู่ที่ $72.72 ต่อบาร์เรล

การเทขายน้ำมันดิบอย่างรวดเร็วในวันศุกร์นั้นเกิดขึ้นจากความกังวลในความไม่รู้ของตลาด สำหรับโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนั้น จนถึงตอนนี้มนุษยชาติก็ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าจะเป็นภัยมากน้อยแค่ไหน เพื่อเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม เราจึงได้เห็นข่าวรัฐบาลของหลายๆ ประเทศอย่างเช่นสหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น และอิสราเอล ตัดสินใจสั่งปิดชายแดนและห้ามการเดินทางเข้ามาของชาวต่างชาติ บางประเทศถึงขั้นเจาะจงว่าห้ามชาวแอฟริกาเข้าประเทศเลยทีเดียว หากนับตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายนมาจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้มี 56 ประเทศแล้วที่ตัดสินใจห้ามการเข้ามาของชาวต่างชาติ เพื่อหวังจะสกัดกั้นเจ้าไวรัสโอไมครอน

ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ประกอบกับสภาวะเงินเฟ้อ และเกมการเมืองระหว่างประเทศ จะยิ่งส่งผลให้ตลาดน้ำมันยังคงผันผวนต่อไป แต่มีสิ่งใดบ้างที่นักลงทุนควรรู้ หรือมีคำถามใดที่นักลงทุนควรประเมินความเสี่ยง ในบทความนี้เราจะพาไปดูสามคำถามที่ควรถามตัวเองก่อนลงทุนกับตลาดน้ำมันในเดือนสุดท้ายของปี 2021

คำถามที่ 1: ขาลงครั้งนี้เป็นเพียงการย่อเพื่อปรับตัวขึ้นต่อหรือไม่?

ที่จริงแล้วหลังจากมีข่าวการค้นพบโอไมครอน ราคาน้ำมันในวันจันทร์ได้พยายามฟื้นตัวกลับขึ้นมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สามารถปรับตัวขึ้นมาจนแตะ $77 ต่อบาร์เรล ก่อนที่ร่วงลงไปยัง $73.44 ต่อบาร์เรล ในขณะที่น้ำมันดิบ WTI ได้ขึ้นมาแตะ $72 ต่อบาร์เรล ก่อนที่จะลดระดับลงไปยัง $69.95 ต่อบาร์เรล สาเหตุที่ราคาน้ำมันสามารถกลับขึ้นมาได้เล็กน้อยเป็นเพราะมีบางสำนักข่าวเล่นประเด็นที่ว่าโอไมครอนแม้จะระบาดเร็ว แต่ก็อาจจะไม่ได้รุนแรงอย่างที่กังวลกัน

แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีข่าวพบโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นออสเตรเลีย อิสราเอล และหลายๆ ประเทศในยุโรป ถึงกระนั้นตลาดลงทุนก็ยังพยายามจะเชื่อว่าคงไม่รุนแรงถึงขนาดต้องกลับมาคุมเข้มการเดินทาง จนกระทั่งสหรัฐอเมริกาประกาศพบโอไมครอนในประเทศของตัวเองเป็นรายแรก หลังจากที่โจ ไบเดนประกาศเรื่องนี้ให้ทั้งโลกได้ทราบ ราคาน้ำมันดิบในวันอังคารและพุธก็กลับเข้าสู่ขาลงทันที 

ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะบอกว่าเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น แต่เขาก็ได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มชาวต่างชาติที่เดินทางมาเพื่อเข้าประเทศ ทำให้การเดินทางไปสหรัฐอเมริกานั้นยากลำบากมากขึ้นไปอีก การดำเนินการเช่นนี้ยิ่งทำให้ตลาดลงทุนเชื่อว่าความต้องการน้ำมันเพื่อเดินทางจะยิ่งลดลง ทั้งๆ ที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลที่มีการเดินทางมากที่สุดอยู่แล้วแท้ๆ

คำถามที่ 2: ควรคาดการณ์ตลาดน้ำมันจากข่าวเหล่านี้อย่างไร?

ภายใต้สถานการณ์ที่ทั้ง WTI และเบรนท์ในวันที่ 1 ธันวาคมยังคงวิ่งอยู่ต่ำกว่า $70 ต่อบาร์เรล ดูเหมือนว่าการคาดการณ์ของกลุ่ม OPEC และ IEA จะมีความแม่นยำกว่าการคาดการณ์ของธนาคารชื่อดังหลายแห่ง จากระยะเวลาที่เราเหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนจะสิ้นปี 2021 ความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นน้ำมันดิบวิ่งขึ้นแตะ $90 ต่อบาร์เรลในตอนนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม ธนาคารชื่ิอดังที่เคยหน้าแตกไปก่อนหน้านี้อย่างโกลด์แมน แซคส์ก็พยายามออกรายงานอธิบายเหตุผลว่าทำไมนักวิเคราะห์ของตนถึงเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ในสถานการณ์แบบนี้

คำถามที่ 3: ความผันผวนในตลาดน้ำมันปัจจุบันจะส่งผลกระทบต่อผลการประชุม OPEC+ หรือไม่?

ใช่ว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนจะไม่ทำให้กลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน (OPEC) ไม่รู้สึกหวั่นไหว มิเช่นนั้นเราคงไม่ได้เห็นข่าวกลุ่ม OPEC และชาติพันธมิตรขอเลื่อนการประชุมออกไปกลายเป็นช่วงดึกของเมื่อวานนี้ตามเวลาประเทศไทย ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสได้พูดคุยกันตั้งแต่วันพุธ แต่ทางกลุ่มก็ยังไม่ขอสรุปจนกว่าจะถึงการประชุมเมื่อวาน 

และแล้วผลการประชุมของกลุ่ม OPEC และชาติพันธมิตร (OPEC+) ก็ได้ข้อสรุปออกมาว่าที่ประชุมมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงปัจจุบันในการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันไปจนถึงเดือนมกราคมปี 2022 ตามเดิม สยบข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ว่า OPEC+ อาจระงับแผนการเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนมกราคมปีหน้า เพื่อรับมือกับความต้องการน้ำมันที่คาดว่าจะลดลงเพราะผลกระทบจากโควิดสายพันธุ์โอไมครอน

หลังจากการประชุมจบลงตามเวลา 14:30 GMT ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์สได้ปรับตัวลดลง 1.7% มีราคาซื้อขาย ณ ตอนนั้นอยู่ที่ $67.66 ต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ก็ปรับตัวลดลง 1.8% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $64.33 ต่อบาร์เรล

ความคิดเห็นล่าสุด

คาดการณ์ว่าจะถึง 70$
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย