หากพูดคำว่าโซเชียลมีเดีย ชื่อแรกที่ทุกคนจะเอ่ยขึ้นมาย่อมหนีไม่พ้น เฟซบุ๊ก (NASDAQ:FB) ที่ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อบริษัทกลายเป็น “เมต้าแพลตฟอร์ม” ไปเรียบร้อยแล้ว เฟซบุ๊กอยู่คู่กับมนุษยชาติมาแล้วประมาณ 18 ปี ใครก็ตามที่ได้ซื้อหุ้นเฟซบุ๊กมาตั้งแต่เปิดให้ลงทุนครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมปี 2012 จะได้ลงทุนในเงินมูลค่า $42.05 แต่การลงทุนนั้นจะเติบโตแปดเท่า มีราคาปิดในช่วงสิ้นปี 2021 ที่ $336.35
Facebook กลายเป็นแพลตฟอร์มที่น่าใช้สำหรับผู้ใช้งาน แต่ความยอดเยี่ยมของธุรกิจคือความสามารถในการสร้างรายได้ผ่านการฝากโฆษณา การเข้าถึงข้อมูลของเฟซบุ๊ก ทำให้เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่มีค่ามากที่สุดทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกัน ตำแหน่งดังกล่าวยังสร้างปัญหาที่ไม่มีกำหนดในกฎระเบียบและความเป็นส่วนตัวอยู่บ่อยครั้ง
ก่อนเข้าสู่ปี 2022 เฟซบุ๊กได้ประกาศในสิ่งที่ทำให้โลกต้องตะลึง นั่นคือการเปิดตัวจักรวาลโลกเสมือน (metaverse) บัญญัติใช้คำนี้เป็นครั้งแรก และกลายเป็นโปรเจ็คที่ตอนนี้มีแต่คนพูดถึงเต็มไปหมด บริษัทคิดไปไกลถึงการเปลี่ยนชื่อ เพื่อสะท้อนถึงการมุ่งเน้นทำสิ่งใหม่ เพื่อการเป็นผู้นำในเครือข่ายโลกเสมือนจริง 3 มิติ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอนาคตของการเชื่อมต่อสังคมออนไลน์ของทั้งโลกเข้าด้วยกัน
หุ้นเฟซบุ๊กยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น
จากการวิเคราะห์ระยะยาว จะเห็นว่าในช่วงปลายเดือนมกราคมปี 2022 หุ้นเฟซบุ๊กก็ยังวิ่งอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น
ที่มา: Barchart
หุ้นเฟซบุ๊กปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุด $17.55 ขึ้นมาเป็น $384.33 ในเดือนกันยายนปี 2021 ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมา 20% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $309 แต่ถึงกระนั้น ราคาหุ้นก็ยังคงอยู่สูงกว่าจุดต่ำสุดปี 2012 มากถึง 16 เท่า 
ที่มา: Yahoo Finance
อย่างที่ภาพรูปนี้ได้แสดงให้เห็น รายงานผลประกอบการของบริษัทเมต้าสามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ไปได้สี่ไตรมาสติดต่อกัน บริษัทเมต้าจะรายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ในวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ หลังจากตลาดหลักทรัพย์ปิด ณ ตอนนี้หุ้นเฟซบุ๊กมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $3.84 ต่อหุ้น
ผลสำรวจจากนักวิเคราะห์ของ Investing.com 54 คนให้ระดับราคาเป้าหมายของหุ้นเฟซบุ๊กโดยเฉลี่ยเอาไว้ที่ $396.46 มีกรอบการวิ่งของราคาอยู่ระหว่าง $147 - $466 ระดับราคาเป้าหมายนั้น ถือว่าสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ 32%
ที่มา: Investing.com
การโอบรับเมต้าเวิร์สในปี 2022
เฟซบุ๊กเชื่อว่าเมต้าเวิร์สคืออนาคต และได้วางตำแหน่งบริษัทให้เป็นผู้นำในโลกเสมือนจริง 3 มิติ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและ CEO ของเมต้าแพลตฟอร์มเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอให้เปลี่ยนชื่อบริษัท เพื่อให้ เมต้ากลายเป็นศูนย์กลางของการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ในโลกเมต้าเวิร์ส
เขากำลังเดิมพันว่าเมต้าเวิร์สจะเป็นก้าวต่อไปสำหรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีโซเชียลมีเดีย นอกเหนือจากเมต้าเวิร์ส เฟซบุ๊กกำลังทำการบ้านอย่างหนักเพื่อเจาะตลาดสกุลเงินดิจิทัล และ NFT ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปี 2022
บริษัทเมต้ากับการงัดข้อทางกฎหมาย
ที่ผ่านมา บริษัทเฟซบุ๊กและมาร์กมีความขัดแย้งกับหน่วยงานกำกับดูแลของวอชิงตันมาหลายปีแล้ว เมื่อบริษัทพยายามที่จะปล่อยสกุลเงินดิจิทัลที่มีชื่อว่า ‘ลิบรา’ (Libra) สภาคองเกรสคัดค้านโครงการนี้ ในแถลงการณ์ที่สรุปแผนการของสมาชิกสภานิติบัญญัตินาย Richard Blumenthal วุฒิสมาชิกคอนเนตทิคัตกล่าวว่า:
“ผมไม่เถียงว่าการเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เรากำลังให้ความสำคัญคือวิธีการที่จะไปถึงการเปลี่ยนแปลงนั้น นี่คือสาส์นที่ผมจะส่งไปถึงมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ความยิ่งใหญ่ของคุณที่มาจากการรุกล้ำความเป็นส่วนตัว การสร้างพื้นที่ที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์ไร้สาระ และการทำให้เด็กๆ ต้องตกเป้นทาสของคุณนั้นได้มาถึงจุดจบแล้ว ถึงเวลาที่สภาจะต้องออกโรงจัดการด้วยตัวเอง”
ในสภาของสหรัฐฯ ที่ซึ่งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่เคยตกลงอะไรกันได้เลย มีข้อตกลงที่กำหนดระดับอำนาจที่เฟซบุ๊กสามารถเติบโต และการเข้าถึงข้อมูล ที่อาจก่อให้เกิดการขัดขวาง การแข่งขันที่อาจจะก่อให้เกิดผลที่ตามมาอื่นๆ เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางได้ปูทางให้คณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐดำเนินการฟ้องร้องเพื่อขอให้เฟซบุ๊กเลิกละเมิดความเป้นส่วนตัว อัยการหลายคนกำลังสืบสวนโลกเสมือนจริง Oculus ของเมต้าว่าเกี่ยวกับข้อกับเรื่องการต่อต้านการผูกขาดหรือไม่
เราเชื่อว่าวิบากกรรมนี้ของมาร์กและเมต้ายังไม่จบ สภาคองเกรสสามารถมีคำสั่งให้ยกเลิกในสิ่งที่เมต้ากำลังทำอยู่ได้ หากมีเหตุผลให้เชื้อได้ว่าโลกเสมือนจริงอาจจะกลายเป็นโทษมากกว่าเป็นเรื่องดี
เมต้ากับเพื่อนในกลุ่ม “FAAMG”
ที่ราคาหุ้น $309 ปัจจุบันมูลค่าตลาดของบริษัทเฟซบุ๊ก ณ จุดสูงสุดในช่วงปลายปี 2021 มีตัวเลขอยู่ที่ $859,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่ก้าวข้ามหลัก $1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เข้าไปร่วมกับกลุ่มเพื่อนๆ สังคมคนชั้นสูงอย่างเช่น แอปเปิล (NASDAQ:AAPL) ไมโครซอฟต์ (NASDAQ:MSFT) ซาอุดิ อารัมโก (SE:2222) แอมาซอน (NASDAQ:AMZN) อัลฟาเบต(NASDAQ:GOOGL) (NASDAQ:GOOG) และเทสลา (NASDAQ:TSLA) ได้สำเร็จ
บริษัทส่วนใหญ่ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดมากกว่าล้านล้านดอลลาร์เป็นธุรกิจเทคโนโลยี แต่เฟซบุ๊กอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เพราะโซเชียลมีเดียเป็นธุรกิจที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้คน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากสิ่งที่เฟซบุ๊กทำ มักจะดึงดูดการตรวจสอบกฎระเบียบจากสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกเข้ามาเสมอ
ยิ่งมูลค่าตามราคาตลาดของเฟซบุ๊กสูงขึ้น หน่วยงานกำกับดูแลที่เข้มงวดก็จะยิ่งต้องการผูกมัดกับบริษัทมากขึ้น ในหลาย ๆ ด้าน บริษัทเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อผู้คนมากกว่ารัฐบาล ซึ่งเป็นรากเหง้าของปัญหาที่มาร์กมีต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในแง่ของคนทำธุรกิจ พวกเขาก็ไม่สามารถทิ้งการฝากโฆษณาบนเฟซบุ๊กไปได้ เนื่องจากเฟซบุ๊กได้สร้างตลาด ที่สามารถระบุตำแหน่งกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคได้ในวงกว้าง จากความสามารถด้านข้อมูลและ AI ที่ไม่มีใครเทียบได้
การลงทุนสวนทางกับหุ้นเฟซบุ๊กถือเป็นความผิดพลาดมหันต์
การที่เฟซบุ๊กถูกเพ่งเล็งจากรัฐบาลไม่ใช่เรื่องใหม่ ถึงจะต้องโต้เถียงมานานหลายปี แต่ผลกำไรและราคาหุ้นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าบริษัทจะทำการประชาสัมพันธ์ผิดพลาด มีภาพลักษณ์ในหน้าสื่อไม่ดี และโจมตีจากรัฐบาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่การเดิมพันสวนทางกับทิศทางหุ้นเฟซบุ๊ก ถือเป็นความผิดพลาดที่น่าสลดใจในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ถึงท้ายที่สุดรัฐจะสามารถสั่งยุบบริษัทเฟซบุ๊กได้ แต่สิ่งที่เฟซบุ๊กได้ทำมา ก็จะมีคนสานต่ออยู่ดี และอาจจะไปไกลมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ด้วย
ในช่วงต้นปี 2022 ความเป้นไปได้ในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อหุ้นเทคโนโลยีทั้งหมด และหุ้นของเมต้าแพลตฟอร์มก็ไม่มีข้อยกเว้น อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีคืออนาคต และเมต้าเวิร์สเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้มหาศาล การย่อตัวครั้งใดก็ตามของหุ้นเฟซบุ๊กในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ หุ้นเฟซบุ๊กเคยสร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $224.20 ก่อนจะร่วงมาสร้างจุดต่ำสุดที่ $137.10 จากภัยโรคระบาด แต่จากจุดต่ำสุดนั้นจนถึงตรงนี้ หุ้นเฟซบุ๊กก็ยังปรับตัวขึ้น 2.8 เท่าอยู่ดี
ถึงเฟซบุ๊กและหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงต้นปี 2022 อย่างไรก็ตาม พลังในการสร้างรายได้ที่เฟซบุ๊กสามารถสร้างได้ ยังคงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมหุ้นของพวกเขาจึงยังมีโอกาสที่จะปรับตัวกลับขึ้นไปได้อีกในอนาคต