Investment Ideas:
โอกาสผันผวน โดยมีแรงกดดันจาก (1) การฟื้นตัวของ Bond Yield และ (2) ความกังวลต่อการดําเนิน นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ของธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลก เพื่อลดผลกระทบจากเงินเฟ้อ โดยล่าสุด BoE มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยตามคาด พร้อมประกาศลดขนาดงบดุล กระทบการซื้อขายใน ตลาดหุ้น ยุโรปและสหรัฐฯ ช่วงค่ําที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม Downside ของ SET จะถูกจํากัดจากแรง เก็งกําไร หุ้นในกลุ่ม Oil play หลังราคาน้ํามันดิบปรับเพิ่ม ขณะที่กลยุทธ์หลักเรายังแนะนํา ทยอยสะสม หุ้นที่ถูกคาดหมายกําไรสุทธิ 4Q64 เติบโตโดดเด่น ได้แก่ BEC BH T และ SPALI รวมไปถึงหุ้นในกลุ่ม หุ้น Domestic และหุ้นที่อิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ อย่างกลุ่มธนาคาร กลุ่มท่องเที่ยว อุปโภคบริโภค ค้าปลีก ICT และขนส่ง ตามพอร์ต Core Investment ของเรา วันนี้ (4 ก.พ.) ติดตาม การรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (4 ก.พ.) โดย Market Consensus คาดว่าจะ เพิ่มขึ้น 178,000 ตําแหน่ง ในเดือน ม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงาน จะทรงตัวที่ระดับ 3.9% แนะนําเก็งกําไร หุ้นในกลุ่ม Oil play หลังมีปัจจัยบวกใหม่หนุน เลือก PTTEP และ BCP เป็นหุ้นเด่น - สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ปิดที่ 90.27 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.01 เหรียญ (+2.3%) ตอบรับเชิงบวกจากการคาดการณ์สภาพอากาศที่หนาวเย็น อันเนื่องมาจากพายุฤดูหนาวในสหรัฐฯ มีแนวโน้ม ที่จะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ํามัน รวมทั้งโรงกลั่นน้ํามันหลายแห่งต้องปิดทําการ เนื่องจากสภาพอากาศที่ หนาวเย็นจะกระทบกระบวนการกลั่น สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ความต้องการใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ระยะสั้นราคาน้ํามันดิบมีโอกาสเกินกรอบราคาน้ํามันดิบที่เราประเมินไว้ที่ 85-90 เหรียญต่อบาร์เรล ทําให้เรา ยังแนะนํา เก็งกําไร หุ้นในกลุ่ม Oil play ได้แก่ PTTEP PTT (BK:PTT) TOP SPRC และ BCP ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ย แม้รายงานเงินเฟ้อยังปรับเพิ่ม และจะยุติโครงการ PEPP เดือน มี.ค. - ธนาคาร กลางยุโรป (ECB) มติคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ําสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ที่ระดับ 0.259% ตามคาด โดย ECB ระบุว่า ทางธนาคารจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) วงเงิน 1.85 ล้านล้านยูโร ในเดือน มี.ค. โดยมุมมองเงินเฟ้อ ของ ECB ยังคงให้น้ําหนักเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว และจะชะลอตัวลงในระยะต่อไป แม้ล่าสุดสํานักงานสถิติ แห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท),รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซน ในเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 5.1%YoY (คาดเพิ่มขึ้น 4.4%YoY) เพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค. อยู่ที่ 5.0%YoY
BoE มีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยตามคาด พร้อมประกาศลดขนาดงบดุล - ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 0.50% ตามคาด เป็นการขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นทําจุดสูงสุดในรอบ 30 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้ง ติดต่อกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2547 โดยการประชุม BOE รอบเดือน ธ.ค. มีการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรก จาก 0.1% เป็น 0.25% ส่งผลให้ BOE เป็นธนาคารกลางขนาดใหญ่แห่งแรกของ โลกที่ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563 รวมไปถึงยังมีมติเอกฉันท์ให้ลดขนาดงบดุลจากวงเงิน 8.95 แสนล้านปอนด์ โดยจะปล่อยให้พันธบัตรที่ซื้อมา ก่อนหน้านี้ ภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หมดอายุลงโดยไม่มีการนํารายได้ดังกล่าวมาลงทุน ซื้อพันธบัตรใหม่ ขณะที่มุมมองต่อภาวะเงินเฟ้อ BoE คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในอังกฤษ จะทําจุดสูงสุดใน เดือน เม.ย. 65 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.25%YoY เรามองว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ํามันดิบที่ปรับเพิ่ม และผลจาก Low base effect เมื่อเทียบ YoY ที่ราคาน้ํามันดิบอยู่ที่ระดับ 40-45 เหรียญต่อบาร์เรล ขณะที่ สํานักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้ จ่ายของผู้บริโภคในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.4%YoY (คาดเพิ่มขึ้น 5.2%YoY) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือน พ.ย. ที่เพิ่มขึ้น 5.1% YoY โดยรายงาน CPI จาก ONS สูงกว่า เป้าหมายเงินเฟ้อของ BoE ที่กําหนดไว้ที่ 2% อย่างมีนัยสําคัญ คาดรายงานตัวเลขการจ้างงานรอบเดือน ม.ค. ไม่มีผลต่อการดําเนินนโยบายการเงินของเฟด - ติดตาม รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งมีกําหนดเปิดเผยในวันนี้ (4 ก.พ. รู้ผลเช้าวันที่ 5 ก.พ. ตามเวลาไทย) โดย Market Consensus คาดตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ประจําเดือน ม.ค. จะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตําแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9% โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 199,000 ตําแหน่ง ต่ํากว่า ที่ Market Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 422,000 ตําแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.9% (คาดอยู่ที่ระดับ 4.1%) เราประเมินว่าการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ จะไม่มีผล ต่อการดําเนินนโยบายที่เข้มงวดมากขึ้นของเฟด ในการประชุม March Meeting ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 มี.ค. แม้ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา การรายงานสถิติดังกล่าวจะต่ํากว่าคาดต่อเนื่องก็ตาม มุมมองทางเทคนิค - หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก ROJNA MBK และ AEONTS
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities