2022 เป็นปีที่ตลาดลงทุนมีพฤติกรรมที่แตกต่างออกไป หลังจากที่มีการระบาดใหญ่ ที่เคยส่งให้ตลาดหุ้นและดัชนีเติบโต ตอนนี้ปัจจัยหลายประการได้ทำให้ตลาดชะลอตัวลง ปัจจัยหลักๆ เหล่านั้นเชื่อว่านักลงทุนคงได้ยินกันมาจนคุ้นหูแล้วไม่ว่าจะเป็น:
- ภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และกำลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
- สงครามในยูเครนทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น
- “อาการเมาค้างจากโควิด” จากบริษัทต่างๆ ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด
- การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐฯ
- กลุ่มนักลงทุนใหม่ส่วนใหญ่ที่พึ่งเคยเห็นสัมผัสความผันผวนของตลาดเป็นครั้งแรก
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ชีวิตของนักลงทุนยากขึ้น หุ้นถูกขายออกไปอย่างหนักในช่วงต้นปี ก่อนที่จะสวิงขึ้นลงเป็นรถไฟเหาะมาจนถึงปัจจุบัน สินทรัพย์ดิจิทัลยังคงผันผวน สินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น แทนที่จะต้องกังวล นักลงทุนสามารถใช้ความผันผวนนี้เป็นโอกาสในการตั้งหลัก และไตร่ตรองผลงานการเทรดของตน ไม่ว่าตลาดจะผันผวนเพียงใด เราก็ต้องอยู่ใน "ระบอบการลงทุน" ใหม่ ที่สามารถสร้างผลกำไรได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเติบโตแ ทดสอบ ทนทานต่อรูปแบบธุรกิจใหม่และการวิเคราะห์การลงทุนที่ไม่เหมือนเดิม แม้แต่นักลงทุนระยะยาวก็ต้องการการรีเซ็ตและปรับตัวใหม่
เพื่อการรีเซ็ตที่ดีที่สุดคือเอาอารมณ์ออกจากการลงทุน เพื่อทำให้กระบวนการวิเคราะห์พอร์ตลงทุนของตัวเองง่ายขึ้น วิธีการหนึ่งในการทำเช่นนั้นคือการใช้งานเครื่องมือ และข้อมูลพื้นฐาน เครื่องมือ InvestingPro+ ถูกสร้างขึ้นจากเครื่องมือและข้อมูลพื้นฐาน ในบทความนี้ ผมจะอธิบายคุณลักษณะและเครื่องมือบางอย่างที่มีให้ใน Investing Pro+ เพื่อขจัดอารมณ์ในการลงทุน ลดความซับซ้อนของกระบวนการวิจัยค้นหาตัวเอง และเพิ่มความเร็วในการเลือกหุ้น หรือพัฒนาระบบทางความคิด
เช็คสุขภาพพอร์ตลงทุนของคุณ
ขั้นตอนแรกในการรีเซ็ตตัวเองคือการทำความเข้าใจว่าตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่ ผมมีรายชื่อหุ้นที่เฝ้าดูอยู่บน Investing.com ซึ่งฉันสามารถส่งต่อข้อมูลนี้ไปยัง Investing Pro+ ได้ นี่คือส่วนหนึ่งของรรายชื่อหุ้น ที่ฉันดูอยู่ในปัจจุบัน
สิ่งแรกที่ฉันดูคือข้อมูลมูลค่าหุ้นที่ควรจะเป็น ซึ่งมีด้วยกันสองแบบ รูปแบบที่หนึ่งคือแบบจำลองทางการเงินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Investing Pro+ และอีกแบบหนึ่งคือราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์ฝั่งขาย ฉันจะอธิบายมูลค่าหุ้นที่ควรจะเป็นของ Pro+ อีกที แต่เอาเป็นว่าค่าทั้งสองช่วยให้ฉันเข้าใจว่าราคาหุ้นที่ผมมีในมือสอดคล้องกับค่าพื้นฐาน และความเชื่อมั่นของนักวิเคราะห์อย่างไร
นอกจากนี้ยังมีอินดิเคเตอร์พื้นฐานอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งอยู่นอกภาพหน้าจอนี้ ข้อมูลเหล่านั้นมีตั้งแต่มูลค่าบริษัทเทียบอัตราส่วน P/E อัตราเงินปันผลตอบแทน หนี้ทั้งหมด/ทุนทั้งหมด ไปจนถึงดอกเบี้ยระยะสั้น ฯลฯ นี่เป็นแค่ตัวอย่างเบื้องต้น แต่หากคุณมีข้อมูลใดที่คุณสนใจมากกว่านี้ ก็สามารถเพิ่มลงในส่วนนี้ได้
ในลิสต์หุ้นที่ดูอยู่จะมีแท็บความเสี่ยง แท็บประสิทธิภาพ และแท็บการคาดการณ์ เป็นการดูอย่างรวดเร็วโดยอิงจากตัวชี้วัดการลงทุน ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ซึ่งช่วยให้คุณเห็นว่าหุ้นตัวไหนเริ่มจะไม่เข้าท่า และหุ้นตัวไหนควรถือต่อไป
มองหาหุ้นตัวใหม่ๆ
เมื่อผมรู้แล้วว่าหุ้นตัวไหนควรถือ หุ้นตัวไหนควรทิ้ง ต่อไปที่จะต้องทำคือหาแนวคิดใหม่ๆ การสร้างไอเดียอาจมาจากบทความ จากการสังเกตส่วนตัว ข้อมูลข่าวสาร และอีกหลายวิธี Investing Pro+ มีวิธีใหม่ๆ ในการช่วยคุณค้นหาไอเดีย
เริ่มต้นด้วยการคัดกรองหุ้น เครื่องมือคัดกรองหุ้นเป็นเครื่องมือคลาสสิกในการกรองหุ้น ตามอินดิเคเตอร์พื้นฐานของแต่ละกลุ่มหุ้น หน่วยการแลกเปลี่ยน และตัวชี้วัดอื่นๆ เพื่อค้นหากลุ่มหุ้นที่อาจมีค่าควรแก่การสำรวจ เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างพอร์ตใหม่ ไม่ใช่จุดสิ้นสุด และสามารถสร้างโอกาสอันควรค่าแก่การศึกษา
ตัวคัดกรองหุ้นใน Investing Pro+ ใช้ข้อมูลพื้นฐานเหล่านั้นและขยายวงกว้างการค้นหา โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรมาก นี่คือหน้าจอที่ผมใช้เพื่อหาหุ้น ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดที่สูงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ มีหนี้สินสุทธิติดลบ อัตราส่วนราคาต่อรายได้ระหว่าง 0 ถึง 20 การเติบโตของรายได้มากกว่า 10% และมีส่วนต่างของราคาหุ้นที่ควรจะเป็นอย่างน้อย 30%
ผู้ช่วยคัดกรองหุ้นคนนี้ให้สิ่งจำเป็นทั้งหมด ที่เราต้องการ เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์พื้นฐานของหุ้นอย่างรวดเร็ว มีตัววัดมากกว่า 1,000 รายการในตัวคัดกรอง ดังนั้นหากผมต้องการปรับแต่งอินพุตใดๆ ผมก็จะได้สิ่งที่ต้องการอย่างแน่นอน และอย่างที่คุณเห็นที่ด้านบนของภาพหน้าจอนั้น มีคุณลักษณะพิเศษสองประการที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว
1. ผมสามารถค้นหาหุ้นได้ทั่วโลก โดยมีตัวเลือกในการเพิ่มบริษัทจากภูมิภาคใดก็ได้
2. ผมสามารถปรินท์ข้อมูลออกมา เพื่อที่ฉันจะได้กลับมาจัดการกับข้อมูลภายหลังได้
มีการปรับแต่งมากมายที่ผมอาจจะกล่าวถึงไม่หมด ยกตัวอย่างเช่นข้อมูลระดับมืออาชีพเกี่ยวกับบริษัทจากทั่วทุกมุมโลก และที่สำคัญคือเข้าใจง่าย
และหากทั้งหมดนี้ทำให้เกิดความสับสน คุณยังสามารถใช้ตัวคัดกรองตัวอย่าง ที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าเพื่อค้นหาแนวคิดตามสไตล์ที่แตกต่างกันได้
ทั้งหมดนี้สามารถช่วยให้คุณค้นหาไอเดีย ในสไตล์หรือแนวทางใดก็ได้ที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นผ่านหน้าจอเหมือนของผม หรือหน้าจอในแบบที่คุณออกแบบเอง ตอนนี้ผมเป็นเจ้าของหุ้น Berkshire Hathaway (NYSE:BRKa) (NYSE:BRKb), (B shares ไม่ใช่ A shares) Deckers (NYSE:DECK), Regeneron (NASDAQ:REGN) และ Meta Platforms (NASDAQ:FB)
มองหาไอเดียใหม่ๆ
อีกแนวทางหนึ่งในการค้นหาไอเดียการทำพอร์ตคือการศึกษาจากนักลงทุนที่เก่งที่สุดในโลก ซึ่ง InvestingPro+ มีคำตอบให้กับคุณ ยกตัวอย่างเช่น ฉันเป็นแฟนตัวยงของ Joel Greenblatt ผมอ่านหนังสือของเขาสองสามเล่ม ผู้จัดการกองทุนในตำนานได้โพสต์ผลตอบแทนที่ดีเป็นประวัติการณ์ และการถือครองของเขาให้ผลตอบแทนแซงหน้าดัชนี S&P 500 ในช่วง 1, 3 และ 5 ปีที่ผ่านมา
ด้วย InvestingPro+ ผมสามารถไปที่พอร์ตของเขา ซึ่งดึงข้อมูลรายไตรมาสมาจากเอกสารที่ยื่นต่อ กลต. สหรัฐฯ (SEC) และดูสถิติการลงทุนในเชิงลึกได้ ยกตัวอย่างเช่น รายละเอียดที่พูดถึงไปก่อนหน้านี้ การโฟกัสไปที่หุ้นแต่ละตัว สัดส่วนหุ้นที่ถือครองมากที่สุด แม้แต่ส่วนต่าง ที่เป็นไปได้สำหรับการถือครองของเขา มูลค่าของหุ้นที่ควรจะเป็น Investing Pro+ ก็มีให้
ในส่วนนี้ ผมได้ลองคัดกรองหุ้นตามผลงานของ Greenblatt ในสมัยที่เคยเป็นนักลงทุนที่เป็นเจ้าของหุ้นเพียงไม่กี่ตัว ตอนนี้เขาถือหุ้นมากกว่า 1,000 หุ้น ซึ่งหมายถึง กลยุทธ์ที่จำเป็นจะต้องมีความแตกต่างกันมากมาย หุ้นบางตัวที่โดดเด่น Investing Pro+ ก็ยังสามารถคัดมาได้ ได้แก่ Children’s Place (NASDAQ:PLCE) Mohawk Industries (NYSE:MHK) Thor Industries (NYSE:THO) และเฟซบุ๊ก เมื่อเทียบกับพอร์ตของผม ผมมี Thor อยู่ในพอร์ตการลงทุน จึงเป็นเรื่องดีที่ได้เห็น Thor อยู่ในพอร์ตของเราและนักลงทุนในดวงใจ
เจาะลึกเข้าไปในหุ้นแต่ละตัว
จากรายชื่อหุ้นที่ได้มา Mohawk Industries ถือว่าโดดเด่นที่สุด ดังนั้นผมจึงตั้งใจจะค้นคว้าเพิ่มเติม ซึ่ง Pro+ สามารถช่วยให้ผมในเรื่องนี้ได้
สิ่งแรกที่ Pro+ ให้ผมคือข้อมูลเชิงลึกสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ เช่น
จากนั้น Pro+ จะให้ข้อมูล ซึ่งอ้างอิงมาจากสถานะทางการเงินของแต่ละบริษัท ผมสามารถดูภาพรวมของ Mohawk Industries ได้อย่างรวดเร็ว
จากรูประบุว่าข้อมูลนั้นไม่ได้มีอะไรที่ผมสนใจมาก แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับโมเมนตัมของราคามากนัก สมดุลของราคาอยู่ในระดับที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
Pro+ ยังมีข้อมูลทางการเงินฉบับสมบูรณ์ของบริษัทย้อนหลังไปถึง 10 ปี ไม่ว่าจะเป็น หน้าใบเสนอราคาให้ภาพรวมอย่างรวดเร็วของการเงินล่าสุด (กระแสเงินสดอิสระมีแนวโน้มลดลงซึ่งไม่ดี) จากนั้นฉันสามารถเจาะลึกข้อมูลการเงินได้โดยตรงบน InvestingPro+
มีคุณสมบัติอื่นๆ มากมายที่น่าสนใจเช่น การเปรียบเทียบกับหุ้นบริษัทอื่น การเปรียบเทียบเงินปันผลและประวัติรายได้ ข่าวด่วนเกี่ยวกับหุ้นในช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับบริษัท แต่สิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องการเน้นคือการคำนวณมูลค่าหุ้นที่ควรจะเป็นการคำนวณของ InvestingPro+ นั้นเข้าใจง่าย เป็นราคาเป้าหมายของหุ้น ตามรูปแบบทางการเงินที่แตกต่างกัน 13 กลุ่มหุ้น ในกรณีของ Mohawk Industries ผมตั้งแบบจำลองตามรายได้ ไปจนถึงการประเมินมูลค่ากระแสเงินสด (DCF) และรายได้หรือทวีคูณตาม EBITDA เมื่อมีข้อมูลทุกอย่างชัดเจน คุณจึงสามารถเห็นสิ่งที่ดึงค่าเฉลี่ยให้สูงขึ้นหรือต่ำลงได้
หากต้องการเจาะลึกลงไปกว่านี้ ผมสามารถคลิกดูโมเดลเหล่านี้และดูข้อมูลที่ Investing Pro+ ได้ ผมชอบทำข้อมูลด้วยตัวเองมากกว่าการไปเอาข้อมูลของคนอื่นมาอ้างอิง ด้วย Pro+ ผมสามารถใช้ตัวเลขและส่งงานเบื้องหลังไปยัง Excel ทำให้ผมสามารถสร้างแบบจำลองของตัวเอง หรือทดสอบปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับราคาหุ้นได้ด้วยตัวเอง
โดยสรุปแล้ว
แม้ว่าตลาดจะฟื้นตัวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ปี 2022 ก็เป็นเครื่องเตือนใจว่ามีความผันผวนเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่จะไตร่ตรองพอร์ตการลงทุนของตัวเอง เป้าหมายของผมคือการไตร่ตรองและ InvestingPro+ แสดงให้เห็นว่าสามารถช่วยให้เราขจัดอารมณ์ในการลงทุน และความผันผวนออกจากการคำนวณได้อย่างไร
ด้วยวิธีการที่รวดเร็วและโปร่งใส ผมสามารถตรวจสุขภาพพอร์ตลงทุนของฉัน และระบุทั้งปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากและแนวคิดใหม่ ๆ ที่ควรเพิ่มลงในพอร์ตโฟลิโอ ด้วย InvestingPro+ ผมสามารถเปลี่ยนหุ้นเดิมๆ เป็นหุ้นที่มีอแนวคิดใหม่ เพื่อทำการวิจัยเชิงลึกเพียงไม่กี่ขั้นตอน