ไมเคิล ลูวอิส (Michael Lewis) นักเขียนและนักข่าวการเงิน เริ่มต้นอาชีพของเขาที่ Salomon Brothers ธนาคารเพื่อการลงทุนข้ามชาติในช่วงทศวรรษ 1980 และทำงานเป็นพนักงานขายพันธบัตรอีกสองสามปีหลังจากนั้น ผลงานตีพิมพ์ที่ประสบความสำเร็จครั้งแรกของเขามีชื่อว่า Liar's Poker เป็นหนังสือที่เล่าประสบการณ์ของเขาในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท (Wall Street) ในช่วงเวลานั้น เขาได้เน้นย้ำถึงข้อบกพร่องในระบบการเงินมากมาย
ตั้งแต่นั้นมาเขาเขียนหนังสือออกมาอีกหลายเล่ม โดยส่วนใหญ่มักจะเน้นที่ความผิดพลาดและความผิดปกติในระบบการเงิน หรือระบบการเมืองของสหรัฐฯ หนังสือขายดีเช่น Boomerang, The Blind Side, The Big Short และ Moneyball ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของเขา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไมเคิล ลูวอิสได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัล หลังจากดูการโต้วาทีที่เดือดดาลระหว่างผู้สนับสนุนระบบการเงินเสรีและผู้ที่ต่อต้านมัน เขาก็สามารถคลายความคลางแคลงใจในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้สำเร็จ ลูวอิสมีมุมมองเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลที่น่าสนใจและตรงไปตรงมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาเป็นเพียงผู้ชมอยู่ข้างสนาม
ลูวอิสเข้าใจตลาดคริปโตฯ เป็นอย่างดี
ไม่แปลกใจเลยที่นักเขียนคนนี้ ซึ่งมีพื้นฐานด้านการเงินที่มั่นคง ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ในพอดคาสต์ของเขาที่ตั้งหัวข้อว่า "การต่อต้านกฎ" เขาพูดว่า:
“การลงทุนในคริปโตฯ เป็นเรื่องของศรัทธา เหมือนความเชื่อมั่นในทองคำ และดอลลาร์”
ทองคำเป็นรูปแบบการแลกเปลี่ยนมูลค่าที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ย้อนหลังไปถึงสมัยพระคัมภีร์ มูลค่าของทองคำมาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของความเชื่อที่ว่าโลหะสีเหลืองทองนั้นเป็นแหล่งสะสมมูลค่า และเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ธนาคารกลางและรัฐบาลต่างๆ ในระบบการเงินทั่วโลก ต่างเคยตรวจสอบ ยอมรับ และพยายามเอาชนะบทบาทของทองคำแล้ว แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จึงทำได้แต่เพียงอ้างอิงมูลค่าจากทองคำ
ดังนั้นพวกเขาจึงถือโลหะนั้นเป็นองค์ประกอบสำหรับการถือครองมูลค่า และแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ซื้อทองคำสุทธิเข้าเก็บเป็นสินทรัพย์สำรองอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ราคาที่เพิ่มขึ้นจาก 252.50 ดอลลาร์ในปี 1999 ขึ้นมามีมูลค่ามากกว่า 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปัจจุบัน
ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินเฟียตมาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1970 เมื่อประธานาธิบดีริคชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) นำดอลลาร์ออกจากมาตรฐานทองคำ มูลค่าของสกุลเงินเฟียต ที่มาจากความเชื่อมั่นและเครดิตในประเทศอเมริกาจึงเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามากที่สุดแทนทองคำ เสถียรภาพของระบบการเมืองและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้ดอลลาร์เป็นสกุลเงินสำรองของโลก ซึ่งลูวอิสมองว่าสิ่งที่ทองคำ ดอลลาร์ และเงินดิจิทัลอยู่ในมีเหมือนกันคือ “ศรัทธา”
คริปโตฯ อาจสูญสลายกลายเป็นอากาศ
ความถูกต้อง ความศรัทธา ความเชื่ออย่างแรงกล้า ความวางใจในพระเจ้าหรือหลักคำสอนของศาสนาขึ้นอยู่กับปัจจัยทางจิตวิญญาณมากกว่าการพิสูจน์เชิงประจักษ์ ลูวอิสเตือนว่าสกุลเงินดิจิทัล ที่อิงตามศรัทธา “ทั้งหมดอาจพังทลายลงได้” เนื่องจากความศรัทธานั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
เรย์ ดาลิโอ (Ray Dalio) นักเศรษฐศาสตร์และผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชื่อดัง นิยามถึงการเติบโตของสินทรัพย์เงินดิจิทัลว่า “น่าประทับใจมาก” อย่างไรก็ตาม เขายังกล่าวเตือนว่า:
“ถ้าคริปโตฯ ประสบสำเร็จจริง ๆ พวกเขา (รัฐบาล) จะฆ่ามันทันที และพวกเขามีวิธีที่จะทำเช่นนั้นแน่นอน”
ลูวอิสเข้าใจ และเห็นด้วยกับสิ่งที่เรย์ ดาลิโอพูด เขาเข้าใจว่าทั้งสองคนกำลังเตือนในสิ่งเดียวกัน เพียงแต่มองในมุมที่ต่างกันเพียงเล็กน้อย
“เป็นการยากที่จะตัดสินเรื่องอนาคตของสกุลเงินดิจิทัล และก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะไม่ตัดสิน ไม่ว่าศรัทธานั้นจะยั่งยืนหรือไม่ก็ตาม แต่ยิ่งสกุลเงินดิจิทัลเติบโตนานเท่าไร ก็ยิ่งเป็นภัยคุกคามต่อต่อรัฐมากขึ้นเท่านั้น”
เงินที่ถือคือเงินของใคร
สิ่งที่ลูวอิสพูดมานั้นไม่ผิดเลย อำนาจของรัฐบาลมาจากกองทัพ ซึ่งสนับสนุนความเป็นผู้นำและการควบคุมปริมาณเงินในระบบ และเป็นหัวใจสำคัญของความมั่นคงในรัฐบาล ด้วยอำนาจนี้ทำให้ผู้นำสามารถขยายหรือทำสัญญาพิมพ์เงินเพื่อให้ได้รับอำนาจทั้งทางบริหาร และทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม
การถือกำเนิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลได้บีบให้รัฐบาลที่เป็นเจ้าของเงินอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หากรัฐบาลคืนอำนาจของการจัดหาเงินให้กับประชาชน สกุลเงินดิจิทัลก็จะกลายเป็นทางเลือกใหม่ทันที และความโกลาหลก็จะเกิดขึ้น เมื่อใครก็ตามก็สามารถสร้างสกุลเงินด้วยตัวเองได้
รัฐบาลจึงเป็นท่าทีต่อต้านเสรีภาพ มาเป็นการสนับสนุนเทคโนโลยีบล็อคเชนอย่างกว้างขวาง ด้วยเหตุผลที่ว่ามันสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บบันทึกข้อมูล และมีความเร็วในการทำธุรกรรมมากกว่าระบบการเงินในปัจจุบัน ทำให้สกุลเงินดิจิตอล ที่มีบุคคลที่สามเป็นเจ้าของชัดเจนมีน่าเชื่อถือน้อยลง แม้ว่าจะใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนแบบเดียวกันก็ตาม ในความเห็นของลูวอิส ความเสี่ยงของการลงทุนกับสกุลเงินดิจิทัลแบบนี้เป็นเหมือนการลงทุนกับศรัทธาความเชื่อของนักลงทุนเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเห็นข้อดีบางอย่างในสกุลเงินดิจิทัล:
“ สกุลเงินดิจิทัลสามารถกำจัดพ่อค้าคนกลางไปได้ หากคุณมีบัญชีกับการแลกเปลี่ยนในแพลตฟอร์มเดียวกัน คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับนายหน้า ที่จะช่วยย้ายเงินดิจิทัลเข้าออกเลย ไม่มีเทรดเดอร์คนไหนที่จ่ายเงินให้กับแพลตฟอร์มคริปโตฯ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เร็วขึ้น ตลาดแห่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาเล่นๆ”
แม้ว่าบิทคอยน์ (BTC) จะเป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรก แต่วันนี้ก็ได้มีสกุลเงินดิจิทัลอีกมากกว่า 19,100 เหรียญเกิดขึ้นมาบนโลกแล้ว แต่จากวันที่บิทคอยน์มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากห้าเซ็นต์ในปี 2010 เป็นเกือบ $69,000 ในเดือนพฤศจิกายน 2021 และวันที่สกุลเงินดิจิทัลอื่นเติบโต ยังคงเกิดขึ้นจากปัจจัยเดียวกัน อุดมการณ์และการเก็งกำไร