Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน: คาด SET เคลื่อนไหว Sideway ต่อเนื่อง - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวใน กรอบ 1,545-1,565 จุด บรรยากาศการซื้อขายวันนี้ ไม่ต่างจากเมื่อวาน เราคาดว่า SET จะยังมีปริมาณ การซื้อขายที่ไม่มาก เคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ในแดนลบ โดยมีปัจจัยจํากัด Downside อยู่เล็กน้อย จากมาตรการของภาครัฐฯ ทั้งมาตรการสนับสนุนธุรกิจ EV ด้านภาษีเพิ่มเติม รวมทั้งอนุมัติโครงการ “คน ละครึ่ง เฟส 5” เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Domestic play โดยประเด็นที่ยังคงต้องติดตามอยู่ที่ (1) การ ประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระหว่างวันที่ 26-27 ก.ค. โดย FedWatch Tool ของ CME Group โดยนักลงทุนยังคงให้น้ําหนัก 77.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการ ประชุมครั้งนี้ และ (2) การรายงานตัวเลข GDP (ประมาณการครั้งที่ 1) ของสหรัฐฯ ในช่วง 2Q65 วันที่ 28 ก.ค. โดยก่อนหน้านี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา รายงานแบบจําลองคาดการณ์ GDPNow คาด GDP สหรัฐฯ หดตัว 1.6% เพิ่มขึ้นจากประมาณการรอบก่อนที่คาดว่าจะหดตัว 1.5% ขณะที่ GDP สหรัฐฯ ในช่วง 1Q65 หดตัว 1.6% อย่างไรก็ตามเรายังเชื่อว่าตลาดจะกลับมาฟื้นตัวใน เดือน ก.ย. เนื่องจากเราเชื่อว่าตลาดสะท้อนความเสี่ยงต่อประเด็นที่ต้องติดตามดังกล่าวไปพอสมควร แม้ ในกรณีที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบียมากกว่าที่ตลาดคาดหมาย เราเชื่อว่าอาจจะทําให้ SET ปรับลดลงได้อีก เล็กน้อย ก่อนฟื้นตัวจากความเชื่อมั่นว่าการดําเนินนโยบายการเงิน รวมไปถึงความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นต่อ การคาดหมายเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว เราคาดว่า SET ในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวใน กรอบ 1,520-1,575 จุด (แนวรับ 1530-1520 จุด แนวต้าน 1,565-1,575 จุด) SET วานนี้ (26 ก.ค.) เคลื่อนไหวในกรอบ sideway ตามคาด - SET วานนี้ ปิดที่ระดับ 1,553.18 จุด ลดลง 7.13 จุด (-0.46%) มูลค่าการซื้อขายราว 58,698.22 ล้านบาท (สูงสุด 1,563.84 จุด และตําสุดที่ 1,551.96 จุด) ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway และปริมาณการซื้อขายที่เบาบางตามคาด โดย SET ที่ปรับลดลง สะท้อนการขายเพื่อลดความเสียง ก่อนเข้าวันหยุดยาว (28-29 ก.ค.) รวมไปถึง Event สําคัญ อย่างการ ประชุม FOMC ที่จะทราบผลคืนวันที่ 27 ก.ค. และการรายงาน GDP สหรัฐฯ ในช่วง 2Q65 ซึ่งจะรายงานคืน วันที่ 28 ก.ค. ตจามเวลาไทย ขณะที่ตลาดถูกกดดันจากแรงขายหุ้นจากปัจจัยลบเฉพาะตัว โดยเฉพาะ BDMS IVL TL SCGP และ DELTA ซึ่งกระทบ SET รวมเกือบ 4 จุด กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในพอร์ต 50% แนะนําหุ้น Defensive - กลยุทธ์การลงทุน เราปรับเพิ่มน้ําหนักการ ลงทุนในหุ้นจาก 40% เป็น 50% ของพอร์ต เรายังคงให้น้ําหนักหุ้นในกลุ่ม Defensive Stock เราเลือก EGCO RATCH GULF BDMS BH INTUCH AOT (BK:AOT) ADVANC หุ้นในกลุ่มอาหารต้นน้ําที่ได้ประโยชน์จากภาวะ ขาดแคลนอาหาร เราเลือก GFPT TU TFG ASIAN CFRESH CPE หุ้นในกลุ่มค้าปลีกและอุปโภคบริโภค เรา เลือก CRC CPN MBK MAKRO GLOBAL HMPRO หุ้นในกลุ่ม Anti-Commodity อย่าง BGRIM GPSC PTG SUSCO EPG และหุ้นใน Theme เปิดเมือง AOT BAFS SHR MINT MAJOR BEM AMATA
สัปดาห์นี้ติดตาม การประชุม FOMC (26-27 ก.ค.) รายงาน GDP 2Q65 ของสหรัฐฯ และยูโรโซน รายงาน เงินเฟ้อ (PCE) สหรัฐฯ - 27 ก.ค. -,เยอรมนี: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีจากสถาบัน GfK เดือน ส.ค. / สหรัฐฯ: รายงานปริมาณสํารองน้ํามันดิบประจําไตรมาสจาก API ยอดคําสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือน มิ.ย. คําสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) เดือน มิ.ย. ดุลการค้าสินค้า เดือน มิ.ย. สินค้าคงคลังใน กิจการค้าปลีกไม่รวมธุรกิจยานยนต์ เดือน มิ.ย. ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย เดือน มิ.ย. และรายงาน ปริมาณสํารองน้ํามันดิบ และปริมาณสํารองน้ํามันดิบที่เมือง Cushing // 28 ก.ค. - ไทย: SET หยุดทําการ ซื้อขาย เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว / อังกฤษ: ดัชนีราคาบ้านจากสถาบัน Nationwide / เยอรมนี: ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเยอรมนี เดือน ก.ค. / สหรัฐฯ: การแถลงข่าวต่อ สื่อมวลชนของคณะกรรมการกําหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของสหรัฐฯ คาดการณ์ GDP สหรัฐฯ ในช่วง 2Q65 (คาดเพิ่มขึ้น 0.496QoQ และเพิ่มขึ้น 8.0%YoY) และจํานวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (คาด 2.53 แสนตําแหน่ง) // 29 ก.ค. - ไทย: SET หยุดทําการซื้อขาย เนื่องในวันหยุดพิเศษ / เยอรมนี้: รายงาน GDP ในช่วง 2Q65 (เพิ่มขึ้น 0.1%QoQ และเพิ่มขึ้น 1.89%YoY) และ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ก.ค. / ยูโรโซน: รายงาน GDP ในช่วง 2Q65 (สหรัฐฯ: ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) เดือน มิ.ย. (เพิ่มขึ้น 0.59%MoM และเพิ่มขึ้น 4.7%YoY) ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - ผลสํารวจของ Conference Board รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของ ผู้บริโภคสหรัฐฯ ลดลง 2.7 จุด สู่ระดับ 95.7 จุด ในเดือน ก.ค. เป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากผู้บริโภคมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วง ครึ่งหลังของปี 2565 / กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) โดยคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.2% ในปี 2565 (เดิม 3.6%) ก่อนที่จะ ชะลอตัวสู่ 2.9% ในปี 2566 (เดิม 3.56) เป็นการปรับลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ ในเดือน เม.ย. โดย IMF ประเมินเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอย ท่ามกลางความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น การชะลอตัวของ เศรษฐกิจจีนที่รุนแรงกว่าคาด รวมทั้งผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกําลังทหารบุกโจมตี๋ยูเครน
ปัจจัยทางเทคนิค - หุ้นแนะนําทางเทคนิค ได้แก่ G BAFS (แนวต้าน 28.25-29.75 / แนวรับ 27.5027.00 / Stop loss 26.25) G SUSCO (แนวต้าน 3.56-3.72 / แนวรับ 3.40-3.36 /Stop loss 3.30) © HMPRO (แนวต้าน 13.8-14.3/ แนวรับ 13.3-13.0/ Stop loss 12.4)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities