รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

การประกาศอัตราเงินเฟ้ออย่างเป็นทางการของสหรัฐในคืนนี้จะส่งผลต่อตลาดอย่างไร

เผยแพร่ 10/08/2565 12:45
อัพเดท 09/07/2566 17:32

ในคืนนี้เวลา 19:30 จะถือเป็นคืนโลกแตกอีกคืนนะครับ เนื่องจากจะมีการประกาศอัตราเงินเฟ้ออย่างเป็นทางการของสหรัฐประจำเดือน ก.ค. หรือที่เรียกกันว่าดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ ดัชนี CPI ออกมานั่นเอง ซึ่งนับว่าเป็นการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดประจำเดือนนี้!!!

และการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในคืนนี้ อาจเปลี่ยนทิศทางของทั้งตลาดหุ้น ตลาดทองคำ และตลาดคริปโตได้เลย

และในคืนนี้ตลาดจะปั่นป่วนอีกครั้งอย่างแน่นอน ตั้งแต่เวลา 19:30 เป็นต้นไป

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคประจำเดือน ก.ค.ในคืนนี้ ซึ่งจะเป็นข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญต่อจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ค. โดยพุ่งขึ้นมากกว่า 2 เท่าจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 258,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6%

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ดีดตัวขึ้น 0.5% เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 5.2% เมื่อเทียบรายปี

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

จากตัวเลขตลาดแรงงานที่ออกมาแข็งแกร่ง รวมทั้งค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นนี่แหละครับคือตัวแปรสำคัญที่อาจทำให้เงินเฟ้อยังไม่ลดลงง่ายๆ เนื่องจากรายได้ของผู้บริโภคที่ออกมาแข็งแกร่งนั้นหมายถึงกำลังซื้อที่มากขึ้น และเป็นต้นเหตุที่ทำให้ราคาสินค้านั้นเพิ่มขึ้นด้วย หรือพูดง่ายๆว่า...การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดนั้นยังไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และยังกด demand ในประเทศไม่ลงนั่นเอง

ทีนี้เราไปมองกันอีกมุมหนึ่งกันบ้าง ที่เป็นตัวแปรสำคัญมากๆเช่นกันที่ทำให้เงินเฟ้ออาจลดลงมากกว่าที่คาดได้เช่นกัน นั่นคือ ราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆได้มีการร่วงลงอย่างชัดเจนในเดือนที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐ WTI ได้มีการร่วงลงถึง 6.8% ในเดือน ก.ค.

ราคาน้ำมันดิบ Brent ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานของราคาน้ำมันโลก ได้มีการร่วงลง 4.2% ในเดือน ก.ค.

การที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือน มิ.ย. เช่น น้ำมันดิบ Brent ได้ลดลงจากระดับ 124 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เหลือเพียง 94 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น่าจะมีส่วนช่วยลดแรงกดดันภาวะเงินเฟ้อลงในระยะต่อไป

นักลงทุนจะติดตามดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลต่อการคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายของเฟดและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ หลังจากการจ้างงานเพิ่มขึ้นชดเชยตำแหน่งงานที่หายไปในช่วงวิกฤติโรคระบาดได้ทั้งหมด และการประกาศประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในคืนนี้จะเป็นตัวตัดสินของตลาดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ตลาดทองคำ ตลาดคริปโต รวมไปถึงทิศทางของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในอนาคตอีกด้วย

และเหมือนกับทุกเดือนที่ผ่านมาครับ ในการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในคืนนี้จะมีตัวเลขสำคัญออกมา 4 ตัวนะครับ

1. ดัชนี CPI ทั่วไป เทียบปีต่อปี

ซึ่งตลาดคาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 8.7% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยชะลอตัวจากที่พุ่งขึ้น 9.1% ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี โดยตลาดคาดว่าเงินเฟ้อจะลดลงจากเดือนก่อนหน้านี้เนื่องจากราคาน้ำมันที่ได้ร่วงลงนั่นเอง

2. ดัชนี CPI ทั่วไป เทียบเดือนต่อเดือนตลาดคาดว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงในช่วงเดือนกรกฎาคม จะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในสหรัฐฯ ปรับตัวลงราว -8% และทำให้ดัชนี CPI ทั่วไปประจำเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลงเหลือ 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งลดลงอย่างมากจากเดือนก่อนหน้านี้ที่ 1.3%

3. ดัชนี Core CPI เทียบปีต่อปีตลาดคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะพุ่งขึ้น 6.1% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยดีดตัวขึ้นจากระดับ 5.9% ในเดือน มิ.ย. เนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้บริโภคนั้นมีกำลังซื้อมากขึ้น

4. ดัชนี Core CPI เทียบเดือนต่อเดือนตลาดคาดว่าตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังคงแข็งแกร่งและยังมีความตึงตัวอยู่มากนั้น ยังคงหนุนการเติบโตของรายได้ที่เร่งตัวขึ้น นอกจากนี้ แรงหนุนเงินเฟ้อจากค่าเช่าบ้านก็ยังคงมีอยู่ ทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน หรือ ดัชนี Core CPI อาจเพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งชะลอตัวลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้านี้ที่ 0.7%

และเราจะมาวิเคราะห์กันครับ

1. ในกรณีที่ตัวเลขทั้ง 4 ตัวออกมาสูงกว่าคาดการณ์ทั้งหมด หรือตัวเลขออกมาเขียวทั้งหมด แบบนี้จะส่งผลต่อตลาดดังนี้ครับ

ตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน และ BTC จะร่วงลงอย่างหนัก

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะพุ่งขึ้นเช่นเดียวกับ Bond Yield สหรัฐอายุ 2 ปีและอายุ 10 ปี

คู่สกุลเงิน EURUSD GBPUSD AUDUSD จะร่วงลง

คู่สกุลเงิน USDJPY USDCHF USDCAD จะพุ่งขึ้น

เนื่องจากเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มขาขึ้นและทำให้เฟดอาจยังคงจำเป็นต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง โดยมีโอกาสที่เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย 0.75% อีกครั้งในการประชุมเดือนกันยายน

2. ในกรณีที่ตัวเลขทั้ง 4 ตัวออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ทั้งหมด หรือตัวเลขออกมาแดงทั้งหมด แบบนี้จะส่งผลต่อตลาดดังนี้ครับ

ตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน และ BTC จะพุ่งขึ้นอย่างมาก

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะร่วงลงอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับ Bond Yield สหรัฐอายุ 2 ปีและอายุ 10 ปี

คู่สกุลเงิน EURUSD GBPUSD AUDUSD จะพุ่งขึ้น

คู่สกุลเงิน USDJPY USDCHF USDCAD จะร่วงลง

เนื่องจากเงินเฟ้อจะลดลงต่ำกว่าคาดการณ์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และทำให้เฟดอาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต โดยมีโอกาสที่เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในการประชุมเดือนกันยายน

ส่วนตลาดจะพุ่งขึ้นหรือร่วงลงมากแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับดัชนี CPI ทั่วไปเมื่อเทียบปีต่อปีเป็นหลักครับ เนื่องจากตลาดจะจับตาตัวเลขนี้เป็นพิเศษ

หรือในกรณีที่ตัวเลขทั้ง 4 ตัวไม่ได้ออกมาในทิศทางเดียวกัน คือไม่ได้ออกมาเขียวทั้งหมด หรือไม่ได้ออกมาแดงทั้งหมด เราก็จะจับตาตัวเลขดัชนี CPI ทั่วไปเมื่อเทียบปีต่อปีเป็นหลักนะครับ ซึ่งตัวเลขนี้จะเป็นตัวเลขที่ส่งผลต่อตลาดมากที่สุดครับ

1. ในกรณีที่ตัวเลขออกมาเท่ากับ 9.1% หรือออกมาสูงกว่า 9.1% คือ Worst Case ครับ ซึ่งหมายความว่า...นอกจากเงินเฟ้อจะไม่ลดลงแล้ว ยังเพิ่มขึ้นแบบ surprise ตลาดอย่างมาก เรียกได้ว่าช็อกโลกกันเลยล่ะครับ

ทั้งตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน และ BTC จะร่วงลงอย่างหนัก

คู่สกุลเงิน EURUSD GBPUSD AUDUSD จะร่วงลงอย่างหนักเช่นกันจากการพุ่งขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD

และคู่สกุลเงิน USDJPY USDCHF USDCAD จะพุ่งขึ้นครับ

2. ในกรณีที่ตัวเลขออกมาต่ำกว่า 8.7% แบบนี้คือ Best Case เลยครับ เพราะนอกจากเงินเฟ้อจะออกมาต่ำกว่าคาดการณ์แล้ว ยังถือว่าเงินเฟ้อมีการชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้านี้ที่ 9.1% พอสมควรเลยทีเดียว และจะให้ Best Case จริงๆ คือ ตัวเลขจะต้องออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ทั้งหมด หรือตัวเลขออกมาแดงทั้ง 4 ตัวนั่นเอง

ทั้งตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน และ BTC จะพุ่งขึ้นอย่างมาก

คู่สกุลเงิน EURUSD GBPUSD AUDUSD จะพุ่งขึ้นอย่างมากเช่นกันจากการร่วงลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD

และคู่สกุลเงิน USDJPY USDCHF USDCAD จะร่วงลงครับ

3. ถ้าตัวเลขออกมาที่ 8.7% ตามคาด

แบบนี้ตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน และ BTC จะพุ่งขึ้นเช่นกัน แต่จะไม่มากเท่ากรณี Best Case

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD จะร่วงลงเช่นกัน

ทำให้คู่สกุลเงิน EURUSD GBPUSD AUDUSD จะพุ่งขึ้น

และคู่สกุลเงิน USDJPY USDCHF USDCAD จะร่วงลง

4. ในกรณีที่ตัวเลขออกมาที่ 8.8% 8.9% 9.0% คือ ตัวเลขออกมาลดลงจากครั้งก่อน แต่สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

แบบนี้ทั้งตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน และ BTC จะร่วงลงนะครับ แต่จะไม่มากเท่ากรณี Worst Case

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD จะพุ่งขึ้นเช่นกัน

ทำให้คู่สกุลเงิน EURUSD GBPUSD AUDUSD จะร่วงลง

และคู่สกุลเงิน USDJPY USDCHF USDCAD จะพุ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เกี่ยวกับการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือน ก.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานพุ่งขึ้นเกินคาด

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 31.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือน ก.ย.จะสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด หลังการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 27 ก.ค. ซึ่งเขาส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือน ก.ย. หากการประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังไม่ลดลง

และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่พุ่งขึ้นเกินคาด รวมทั้งการลดลงของอัตราการว่างงาน และการดีดตัวขึ้นของตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน จะทำให้เฟดเดินหน้าเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อได้เต็มที่ โดยที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกต่อไป จากการที่ตัวเลขในตลาดแรงงานนั้นมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

การประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในคืนนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากครับ และสามารถเปลี่ยนทิศทางของตลาดได้เลย!!!

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ความคิดเห็นล่าสุด

เป็นประโยชน์มากค่ะ
🙏🙏🙏
โคตรแนน่ครับ บอกหลายทิศทางเป็นประโยชมากครับ
ต่ำกว่าการ
ขอบคุณมากที่ให้ข้อมูลและให้ความรู้ด้วย
น่าติดตาม ขอบคุณมากครับ
ความรู้เลยครับ
ความรู้เลยครับ
ความรู้เลยครับ
Thx kubb
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
วัดดวง555+
วัดดวง555+
ขอบคุณครับได้ความรู้สำหรับนักลงทุนจริงๆ
ขอบคุณครับได้ความรู้สำหรับนักลงทุนจริงๆ
ขอบคุณค่ะ
👍
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณครับกับบทวิเคราะห์
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย