เรามาสรุปภาพรวมของตลาดหุ้นในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมากันก่อนครับ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (2 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วงแรกขานรับการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานอาจเริ่มชะลอตัวลง ซึ่งลดแรงกดดันที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,318.44 จุด ลดลง 337.98 จุด หรือ -1.07%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,924.26 จุด ลดลง 42.59 จุด หรือ -1.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,630.86 จุด ลดลง 154.26 จุด หรือ -1.31%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 3%, ดัชนี S&P500 ร่วง 3.3% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 4.2% โดยดัชนีทั้ง 3 ตัวปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันแล้ว
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดปรับตัวลงรุนแรงขณะที่การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางก่อนวันหยุดยาวในสุดสัปดาห์นี้ โดยตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 5 ก.ย. เนื่องในวันแรงงาน
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงเปิดตลาด หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐบ่งชี้ว่า มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินคาด แต่อัตราการว่างงานที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.7% ได้คลายความวิตกที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงเพื่อลดเงินเฟ้อ
แต่ตลาดหุ้นสหรัฐได้พลิกกลับลงสู่แดนลบ หลังบริษัทก๊าซพรอมของรัฐบาลรัสเซียเปิดเผยว่า บริษัทอาจไม่สามารถเริ่มการส่งมอบก๊าซได้อย่างปลอดภัยจนกว่าจะซ่อมแซมเกี่ยวกับปัญหาการรั่วไหลของก๊าซที่พบ และไม่ได้ให้กำหนดเวลาใหม่ในการเริ่มส่งก๊าซ จากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มส่งออกก๊าซผ่านท่อส่งไปยังยุโรปในวันเสาร์ (3 ก.ย.)
หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มเดียวในดัชนี S&P500 ที่ปิดตลาดในแดนบวก ขณะนี้นักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนส.ค.ในช่วงกลางเดือนนี้ ก่อนที่เฟดจะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 20-21 ก.ย.
ความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกนั้นได้ฉุดราคาหุ้นลงหลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนในช่วงกลางเดือนส.ค. โดยดัชนี S&P500 ร่วงลงราว 4% แล้วนับตั้งแต่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ แสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่ผ่านมา
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 315,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 300,000 ตำแหน่ง และชะลอตัวจากระดับ 526,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.7% จากระดับ 3.5% ในเดือนก.ค.
ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ดีดตัวขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบรายปี โดยตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้น 2% ในวันศุกร์ (2 ก.ย.) โดยฟื้นตัวขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ชะลอตัวในสหรัฐทำให้นักลงทุนคลายความวิตกที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 415.97 จุด เพิ่มขึ้น 8.31 จุด หรือ +2.04% แต่ก็ยังคงลดลง 2% ในรอบสัปดาห์นี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,167.51 จุด เพิ่มขึ้น 133.20 จุด, +2.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,050.27 จุด เพิ่มขึ้น 420.04 จุด หรือ +3.33% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,281.19 จุด เพิ่มขึ้น 132.69 จุด หรือ +1.86%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังข้อมูลบ่งชี้ว่าการจ้างงานในสหรัฐสูงกว่าคาดในเดือนส.ค. แต่การขยายตัวของค่าแรงที่ชะลอตัว และอัตราการว่างงานที่ปรับตัวขึ้นนั้น อาจลดแรงกดดันที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ในเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังผู้กำหนดนโยบายแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเงินเฟ้อแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในเดือนส.ค.
ข้อมูลจากริฟินิทีฟ (Refinitiv) ระบุว่า ตลาดการเงินปรับตัวรับโอกาส 80% ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เมื่อเทียบกับโอกาส 50% ที่มีการคาดการณ์เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว
ตลาดหุ้นยุโรปยังคงปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ จากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป โดยบริษัทก๊าซพรอมของรัสเซียยุติการส่งออกก๊าซเป็นเวลา 3 วันเพื่อทำการซ่อมบำรุงตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. โดยในช่วงเช้าวันศุกร์ (2 ก.ย.) ก็ยังคงไม่มีการส่งก๊าซของรัสเซียผ่านท่อนอร์ดสตรีม 1 ให้กับเยอรมนี
สำหรับหุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้นนั้นได้แก่ หุ้นเครดิตสวิสซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดอันดับสองของสวิตเซอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 6.1% หลังมีรายงานว่า ธนาคารกำลังพิจารณาที่จะปรับลดการจ้างงาน 5,000 ตำแหน่งเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน
หุ้นไรอันแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของไอร์แลนด์ พุ่งขึ้น 2.0% หลังจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนส.ค.เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (2 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงแรงกดดันด้านค่าแรงที่ลดลงในสหรัฐ ซึ่งได้ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป แต่ตลาดยังคงปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และทิศทางของนโยบายภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ที่จะมีการประกาศชื่อในวันจันทร์ (5 ก.ย.)
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,281.19 จุด เพิ่มขึ้น 132.69 จุด หรือ +1.86% แต่ลดลงเกือบ 2% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการลดลงรายสัปดาห์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.
ผลสำรวจบ่งชี้ว่า นางลิซ ทรัสส์ รมว.ต่างประเทศมีคะแนนนำในการชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ โดยนางทรัสส์สัญญาที่จะปรับลดภาษี แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะจัดการอย่างไรกับราคาพลังงานที่พุ่งขึ้น
นักเศรษฐศาสตร์บางรายระบุว่า แผนการของนางทรัสส์จะกระตุ้นให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น และจะกดดันให้ธนาคารกลางอังกฤษต้องเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หุ้นรายตัวที่ปรับตัวขึ้นหนุนตลาดได้แก่ หุ้นเชลล์ ซึ่งพุ่งขึ้น 2.2% หลังเชลล์และเอ็กซอน โมบิลยืนยันการขายบริษัทแอรา (Aera) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนด้านน้ำมันในแคลิฟอร์เนียให้กับบริษัทอิคาฟ (IKAV) ของเยอรมนีในวงเงิน 4 พันล้านดอลลาร์
หุ้นบีพี พุ่งขึ้น 2.8% หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นขานรับการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มโอเปกพลัสจะหารือเรื่องการปรับลดผลผลิตในการประชุมวันจันทร์ที่ 5 ก.ย.นี้
และต่อไปเราไปดูการเปิดตลาดหุ้นเอเชียในช่วงเช้านี้กันบ้าง
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อวันศุกร์ (2 ก.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป ขณะที่นักลงทุนจับตาดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการประจำเดือนส.ค.ของจีนในช่วงเช้าวันนี้
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,567.29 จุด ลดลง 83.55 จุด หรือ -0.30%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,299.09 จุด ลดลง 153 จุด หรือ -0.78% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,183.95 จุด ลดลง 2.53 จุด หรือ -0.08%
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดลบเล็กน้อยในวันนี้ โดยตลาดปรับตัวตามดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อวันศุกร ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป
ดัชนีนิกเกอิเปิดที่ 27,567.29 จุด ลดลง 83.55 จุด หรือ -0.30%
หุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้นำโดยหุ้นกลุ่มขนส่งทางทะเล กลุ่มเวชภัณฑ์ และกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการขนส่ง
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดขยับลงเล็กน้อยในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการประจำเดือนส.ค.ของจีนในช่วงเช้าวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดที่ 3,183.95 จุด ลดลง 2.53 จุด หรือ -0.08%
มาร์กิตและไฉซินมีกำหนดเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนในช่วงเช้านี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 52.6 จากระดับ 53.8 ในเดือนก.ค.
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดลบในวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อวันศุกร์ (2 ก.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป
ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ 19,299.09 จุด ลดลง 153 จุด หรือ -0.78%
ก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซียประกาศว่า ทางบริษัทจะยังคงปิดท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ต่อไปโดยไม่มีกำหนด เนื่องจากพบการรั่วไหลของน้ำมันที่กังหันหลักของสถานีคอมเพรสเซอร์ปอร์โตวายาใกล้กับนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยกังหันดังกล่าวไม่สามารถเปิดใช้งานได้อย่างปลอดภัย หากไม่มีการซ่อมแซมรอยรั่วซึมของน้ำมัน
การประกาศปิดท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 โดยไม่มีกำหนดนี้ เป็นไปตามที่หลายฝ่ายกังวลก่อนหน้านี้ว่า ก๊าซพรอมจะยังคงปิดท่อส่งก๊าซต่อไป ขณะที่รัสเซียกำลังใช้อุปทานพลังงานเป็นอาวุธสงครามเพื่อตอบโต้ต่อการที่ชาติตะวันตกให้การสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย
มาร์กิตและไฉซินมีกำหนดเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนในช่วงเช้านี้
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 52.6 จากระดับ 53.8 ในเดือนก.ค.
สหรัฐเผยในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 315,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของดาวโจนส์เล็กน้อย ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวขึ้นเล็กน้อย
กลุ่มประเทศ G7 ประกาศบรรลุข้อตกลงจำกัดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในวันศุกร์ โดยมีผลบังคับใช้ต่อน้ำมันดิบจากรัสเซียตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. และมีผลบังคับใช้ต่อผลิตภัณฑ์กลั่นตั้งแต่วัที่ 5 ก.พ. 2566
ดัชนี PMI ภาคบริการจีนชะลอตัวในเดือนส.ค. จากผลกระทบมาตรการคุมโควิด
ผลสำรวจซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 55 ลดลงจากระดับ 55.5 ในเดือนก.ค. เนื่องจากวิกฤตพลังงานและมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในภาคบริการของจีน
ข้อมูลดังกล่าวของไฉซินสอดคล้องกับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ซึ่งระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 52.6 จากระดับ 53.8 ในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว
ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.ของจีนซึ่งสำรวจโดยมาร์กิตและไฉซินนั้น ปรับตัวลงสู่ระดับ 49.5 ในเดือนส.ค. จากระดับ 50.4 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.2
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัวลง นอกจากนี้ ปัญหาขาดแคลนพลังงานและการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของจีน
ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการประจำเดือนส.ค.ของจีนที่ปรับตัวลดลง
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 27,610.75 จุด ลดลง 40.09 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 19,203.24 จุด ลดลง 248.85 จุด หรือ -1.28% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ 3,189.54 จุด เพิ่มขึ้น 3.06 จุด หรือ +0.10%
ผลสำรวจซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 55 ลดลงจากระดับ 55.5 ในเดือนก.ค. เนื่องจากวิกฤตพลังงานและมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในภาคบริการของจีน
ข้อมูลดังกล่าวของไฉซินสอดคล้องกับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ซึ่งระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 52.6 จากระดับ 53.8 ในเดือนก.ค.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าลดงเล็กน้อยในวันนี้ โดยดัชนีดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในช่วงสั้น ๆ ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ 27,610.75 จุด ลดลง 40.09 จุด หรือ -0.14%
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าปรับตัวลง ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อวันศุกร์ (2 ก.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,203.24 จุด ลดลง 248.85 จุด หรือ -1.28%
สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นสู่กรอบล่าง 140 เยนเทียบดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเงินเยน หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปีที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยน เพราะต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หลังเกิดความวิตกกังวลเรื่องวิกฤตอุปทานพลังงานในยุโรป
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียวดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 140.29-140.30 เยน เทียบกับ 140.07-140.17 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 140.24-140.26 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น.ของวันศุกร์
ยูโรเคลื่อนไหวที่ 0.9912-0.9916 ดอลลาร์และ 139.06-139.12 เยน เทียบกับ 0.9951-0.9961 ดอลลาร์และ 139.55-139.65 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 0.9988-0.9989 ดอลลาร์และ 140.08-140.12 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อช่วงบ่ายวานศุกร์
และในช่วงบ่ายที่ผ่านมา เราไปดูกันครับว่าสุดท้ายแล้วตลาดหุ้นเอเชียได้มีการปิดตลาดในวันนี้อย่างไร
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบ 4 วันทำการติดต่อกัน ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอาจได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ 27,619.61 จุด ลดลง 31.23 จุด หรือ -0.11%
หุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้นำโดยหุ้นกลุ่มขนส่งทางบก, กลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการขนส่ง และกลุ่มขนส่งทางอากาศ
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดบวกในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลียในวันพรุ่งนี้
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 6,852.20 จุด เพิ่มขึ้น 23.50 จุด หรือ +0.34% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,074.50 จุด เพิ่มขึ้น 18.20 จุด หรือ +0.26%
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันพรุ่งนี้ เวลา 11.30 น.
นอกเหนือจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่แล้ว ตลาดหุ้นออสเตรเลียยังได้แรงหนุนจากรายงานของเอสแอนด์พี โกลบอลซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนส.ค.ของออสเตรเลียอยู่ที่ระดับ 50.2 ซึ่งแม้ว่าขยับลงจากระดับ 50.9 ในเดือนก.ค. แต่ดัชนีที่อยู่เหนือ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการของออสเตรเลียยังคงขยายตัว
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ จากความวิตกกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุก และเศรษฐกิจโลกถดถอย
ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดวันนี้ที่ 2,403.68 จุด ลดลง 5.73 จุด หรือ -5.73%
หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ โคปรับตัวลดลง 0.7% หุ้นเอสเค ไฮนิกซ์ อิงค์ร่วง 0.7% และหุ้นโคเรียน แอร์ไลน์ โคปรับตัวลง 2.3%
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากหุ้นพลังงานที่ดีดตัวขึ้น ก่อนที่การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 3,199.91 จุด เพิ่มขึ้น 13.43 จุด หรือ +0.42%
ราคาหุ้นบริษัทพลังงานของจีนดีดตัวขึ้นในวันนี้ ซึ่งรวมถึงหุ้นไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล, หุ้นปิโตรไชน่า และหุ้นซีนุค
การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยบดบังปัจจัยลบจากรายงานผลสำรวจของมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซินซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนอยู่ที่ระดับ 55 ลดลงจากระดับ 55.5 ในเดือนก.ค. เนื่องจากวิกฤตพลังงานและมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในภาคบริการของจีน
ข้อมูลดังกล่าวของไฉซินสอดคล้องกับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ซึ่งระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวลงสู่ระดับ 52.6 จากระดับ 53.8 ในเดือนก.ค.
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลดลงในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป หลังจากที่ก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย ได้ประกาศระงับการส่งก๊าซไปยังยุโรปผ่านท่อส่งนอร์ด สตรีม 1 อย่างไม่มีกำหนด
ดัชนีฮั่งเส็งปิดตลาดที่ระดับ 19,225.70 จุด ลดลง 226.39 จุด หรือ -1.16%
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ก.ย.) ก๊าซพรอมได้ประกาศระงับการส่งก๊าซไปยังยุโรปผ่านท่อส่งนอร์ด สตรีม 1 อย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าพบการรั่วไหลของน้ำมันที่กังหันหลักของสถานีคอมเพรสเซอร์ปอร์โตวายาใกล้กับนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยระบุว่ากังหันดังกล่าวไม่สามารถเปิดใช้งานได้อย่างปลอดภัย หากไม่มีการซ่อมแซมรอยรั่วซึมของน้ำมัน
การประกาศปิดท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 โดยไม่มีกำหนดนี้ เป็นไปตามที่หลายฝ่ายกังวลก่อนหน้านี้ว่า ก๊าซพรอมจะยังคงปิดท่อส่งก๊าซต่อไป ขณะที่รัสเซียกำลังใช้อุปทานพลังงานเป็นอาวุธสงครามเพื่อตอบโต้การที่ชาติตะวันตกให้การสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย
ในขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดลบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินความเสี่ยงทางเศรษฐกิจในภูมิภาค หลังเกิดความวิตกกังวลเรื่องอุปทานพลังงานจากรัสเซีย
ดัชนี STOXX 600 เปิดตลาดที่ระดับ 415.20 จุด ลดลง 0.77 จุด หรือ -0.19% โดยหุ้นกลุ่มยานยนต์นำตลาดร่วง 2.8% ขณะที่หุ้นเกือบทุกกลุ่มและดัชนีสำคัญเคลื่อนไหวในแดนลบ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซดีดตัวขึ้น 1.3% หลังราคาน้ำมันและก๊าซปรับตัวขึ้น
ส่วนดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดที่ระดับ 12,827.58 จุด ลดลง 222.69 จุด หรือ -1.71% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีเปิดที่ระดับ 6,048.22 จุด ลดลง 119.29 จุด หรือ -1.93%
การแห่เทขายสินทรัพย์เสี่ยงดังกล่าวมีขึ้น หลังก๊าซพรอม บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซียประกาศระงับส่งก๊าซให้กับยุโรปผ่านทางท่อนอร์ดสตรีม 1 แบบไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าต้องทำการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ส่งก๊าซเพิ่มเติม
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าหลุด 0.99 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี หลังจากก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย ได้ประกาศระงับการส่งก๊าซไปยังยุโรปผ่านท่อส่งนอร์ด สตรีม 1 อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าภาวะขาดแคลนพลังงานในยุโรปและราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ณ เวลา 13.30 น. ตามเวลาไทย ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ แตะที่ 0.9898 ดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลงแตะ 0.9881 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ก.ย.) ก๊าซพรอมได้ประกาศระงับการส่งก๊าซไปยังยุโรปผ่านท่อส่งนอร์ด สตรีม 1 อย่างไม่มีกำหนด โดยอ้างว่าพบการรั่วไหลของน้ำมันที่กังหันหลักของสถานีคอมเพรสเซอร์ปอร์โตวายาใกล้กับนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยระบุว่ากังหันดังกล่าวไม่สามารถเปิดใช้งานได้อย่างปลอดภัย หากไม่มีการซ่อมแซมรอยรั่วซึมของน้ำมัน
ก่อนหน้านั้น ก๊าซพรอมมีกำหนดเปิดท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 ในวันที่ 3 ก.ย. เวลา 08.00 น.ตามเวลาไทย หลังเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงในวันที่ 31 ส.ค.-2 ก.ย.
การประกาศปิดท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 โดยไม่มีกำหนดนี้ เป็นไปตามที่หลายฝ่ายกังวลก่อนหน้านี้ว่า ก๊าซพรอมจะยังคงปิดท่อส่งก๊าซต่อไป ขณะที่รัสเซียกำลังใช้อุปทานพลังงานเป็นอาวุธสงครามเพื่อตอบโต้การที่ชาติตะวันตกให้การสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย