หาดทิพย์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า Coca-Cola 14 จังหวัดภาคใต้ เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์หลาย theme ทั้งเรื่องเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว หน้าร้อน และเป็นหุ้น Domestic Play
สินค้าที่ขาย
น้ำอัดลม ประมาณ 90-95% คือ Coke 65% Fanta 20% Sprite 7% โดย HTC เป็นเบอร์ 1 ภาคใต้ในตลาดน้ำอัดลม มี market share 81%
น้ำไม่อัดลม ประมาณ 5-10% คือ Minute Maid และน้ำทิพย์ (ตลาดน้ำเปล่า คริสตัล ขายดีให้ไปดูหุ้น SSC ส่วนน้ำส้ม Tipco มีปรับโครงสร้างกระจายสินค้าและ CEO ใหม่จาก Mondelez (Hall’s, Oreo) ส่วน MALEE ก็ได้ CEO ใหม่มาจาก Foremost)
สินค้าที่ขาย 80% เป็นขวด PET 12% กระป๋องอลูมิเนียม ที่เหลือเป็นขวดแก้วที่ขายตามร้านอาหารแบบขวดคืน
ช่องทางการจัดจำหน่าย
38% เป็น Direct Sell ร้านโชว์ห่วย ร้านน้ำ ใช้ระบบลูกค้าสั่งของเข้ามาก่อน เรียกว่า Pre-Sell จากนั้นก็ให้รถขนของจากคลังสินค้าไปส่งตามร้าน ต่างจากสินค้า FMCG หลายเจ้าที่ให้ Cash Van Sale ขนของขึ้นรถวิ่งไปขายตามร้าน
40% Indirect คือ ค้าส่ง ที่กระจายไปร้านรอบนอกที่รถตัวเองวิ่งไม่ถึง และรวมถึง HORECA ที่มาซื้อของผ่าน Makro ด
22% Modern Trade เช่น Lotus, Big C, Tops, 7-11 ใช้ระบบโทรสั่งเข้ามาก่อนเช่นกัน แล้วก็ให้รถส่งเข้าไปที่ DC ลูกค้า
ต้นทุนสินค้า
32% หัวน้ำเชื้อ (ซื้อตรงจากสิงคโปร์)
18% น้ำเชื่อม น้ำตาล (ซื้อในประเทศ)
48% บรรจุภัณฑ์ เช่น ฝา กระป๋อง ขวด หลอด ถาดรอง (ซื้อในประเทศ)
2% อื่นๆ เช่น CO2 สารเคมี
เป้าหมาย
รายได้โต 6-8% คิดคร่าวๆ ก็ 7,500 ล้านบาท และจะโตเท่าตัวเป็น 15,000 ล้านบาท ในปี 2032
เป้า GPM 40%
สตอรี่บวก
ปรับราคาเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว 5% ปีนี้รับรู้เต็มปี และจะปรับอีกบางรายการเดือนเมษายนปีนี้ 1-1.5%
ยอดขาย Q1 ขายดีมาก ผู้บริหารบอก High Double Digit ถ้าคิดแค่ +10% ยอดขายก็ 1,855 ล้านบาท ATH แล้ว
ต้นทุนขวด PET ลดลงตามราคาน้ำมัน แต่อาจจะมีสต๊อกเก่าอยู่บ้าง ยาวๆ คงดีกับกำไร
ทำอสังหาขายมูลค่าโครงการ 300 ล้านบาท ตอนนี้มี backlog แล้ว 65 ล้านบาท ทั้งปีคาดว่าจะได้ 100 ล้านบาท
เลิกกิจการ 3 บริษัทย่อย เช่น ร้านเขียง สินค้า skin care ปกติขาดทุนปีละ 50-60 ล้านบาท
สตอรี่ลบ
ภาษีน้ำตาลเริ่มเมษายน กระทบเยอะ แต่บริษัทก็จะปรับสูตร และขึ้นราคาน่าจะช่วยได้บ้าง (คนที่ปรับตัวได้ไว คือ ICHI, SAPPE)
โรงงานใหม่ speed line ขวด PET มี 3 line ผลิต ลงทุนเยอะ 1,200 ล้านบาท ข้อดี คือ เพิ่มกำลังการผลิตได้ 50% แต่ค่าเสื่อมทั้งหมดประมาณ 100 ล้านบาท ต้องดูว่าของจริงจะผลิตกี่เครื่องและตัดค่าเสื่อมมากแค่ไหน
SG&A ต้องดูว่าจะเพิ่มมั้ย เพราะปีนี้ออกสินค้าใหม่เยอะ แค่ Q1 ก็มี 4 อันแล้ว
เรื่องที่นักลงทุนสงสัย
ก่อนหน้านี้หลายคนสงสัยว่าทำไม CEO พลตรี พัชร รัตตกุล ขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง บางคนก็คิดว่างบจะไม่ดีหรือเปล่า หรือว่าจะกังวลภาษีน้ำตาล แต่สุดท้ายได้คำตอบจากปากเจ้าตัวในวัน Oppday ว่า ที่ขายไปเพราะจำเป็นต้องนำเงินไปรักษาภรรยาคุณหญิงแมงมุมที่ไม่สบายนั่นเอง
สรุป HTC แนวโน้มดีมีทั้งธุรกิจหลักที่ดูแล้วโตดีจากนักท่องเที่ยวและเข้าหน้าขายพอดี ธุรกิจรองอสังหาก็มาช่วยเพิ่มเติม ถ้าจะติดก็คงเป็นเรื่องต้นทุนกับค่าเสื่อมที่ต้องมาดูกันว่าจะมากแค่ไหน ส่วนเรื่องผู้บริหารขายหุ้น อันนี้เข้าใจและนับถือในหัวใจมาก
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกทาง Stock Vitamins - วิตามินหุ้น