🟢 ตอนนี้ตลาดกำลังทะยานขึ้น สมาชิกผู้ใช้บริการของเรากว่า 120K คน ต่างรู้ดีว่าควรทำอย่างไร คุณก็สามารถรู้ได้เช่นกันรับส่วนลด 40%

SET INDEX ยังไม่หมดแรง... เดินหน้าต่อ

เผยแพร่ 25/12/2566 10:04

ตัวเลขเศรษฐกิจกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วดูผสมผสาน แต่น้ำหนักโดยรวมค่อนไป ทางบวก โดยสหรัฐ รายงานตัวเลข PCE เดือน พ.ย. 2.6% ต่ำกว่าคาด เปิดทาง ให้FED ปรับลดดอกเบี้ยได้ง่ายขึ้น โดย FED WATCH TOOL แสดงความน่าจะ เป็นที่จะลดดอกเบี้ยเดือน มี.ค.67 ที่ 78% และลดต่อเนื่องรวม 5 ครั้ง ด้วยความ น่าจะเป็นสูงกว่า 50% อย่างไรก็ตามมีตัวเลข GDP GROWTH ของยุโรปที่ดูน่า กังวลล่าสุด UK แสดงตัวเลข GDP GROWTH งวด 3Q66 ที่ -0.1% QOQ ซึ่ง หากงวด 4Q66 ติดลบ QOQ อีก 1 ไตรมาส ก็จะเข้าสู่ภาวะ TECHNICAL RECESSION แต่องค์ประกอบดังกล่าวก็ยังสนับสนุนทิศทางดอกเบี้ยขาลง สำหรับในบ้านเรา ยังไม่เห็นปัจจัยใหม่ๆ ที่มีน้ำหนัก โดยในการประชุม ครม. พรุ่งนี้ ก็น่าจะมีบทสรุปเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ส่วนมุมมองในทาง QUANTITATIVE ANALYSIS แสดงถึงโอกาสที่ SET INDEX จะเป็นบวกได้ต่อเนื่องในเดือน ม.ค.67

โดยภาพรวมเชื่อว่า SET INDEX ยังมีแรงที่จะขยับตัวขึ้นต่อในช่วง สัปดาห์สุดท้าย ของปี 2566 ประเมินปลายทางอยู่ที่ 1415-1420 จุด ส่วนวันนี้อยู่ในกรอบ 1395 –1412 จุด หุ้น TOP PICK เลือก CPN, SIRI และ WHA

สภาพแวดล้อมเอื้อต่อการปรับลดดอกเบี้ยของFED

วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ มีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือน พ.ย. ออกมาอยู่ที่ +2.6%YOY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.8%YOY และชะลอตัวลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ 2.9%YOY ส่วน CORE PCE ชะลอตัวลงต่อเนื่องเช่นกันล่าสุดอนยู่ที่ +3.2%YOY ทำ ให้เกิดความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวแบบ SOFTLANDING และอาจเป็น แรงหนุนให้ FED ปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้ามากกว่า 3 ครั้ง

ขณะที่ในฝั่งยุโรปมีการปรับประมาณการ GDP ใน 3Q66 ของอังกฤษ -0.1%QOQ ทำ ให้เพิ่มความสี่ยงต่อการเกิด TECHNICAL RECESSION (GDP ติดลบต่อกัน 2 ไตร มาส) แต่ในอีกมุมหนึ่งเป็นการส่งสัญญาณได้ว่าวัฏจกร์ดอกเบี้ยขาขึ้นได้จบลงแล้ว

สัญญาณเศรษฐกิจข้างต้น สะท้อนภาพรวมที่ลดความร้อนแรงลง เป็นแรงกดดันราคา COMMODITY จากฝั่ง DEMAND ที่อาจลดความผันผวนของราคาน้ำมันดิบในระยะ ยาวได้ อย่างไรก็ตามในช่วงสั้นยังต้องเฝ้าระวังแรงกระตุ้นให้ราคา COMMODITY ดีด ตัวจากฝั่ง SUPPLY หลังความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐสาตร์ที่ทวีความรุนแรง และเสี่ยงต่อการ ขยายวงกว้าง โดยล่าสุดเรือบรรทุกน้ำมันที่เกี่ยวข้องกับอิสราเอลถูกโจมตีใน มหาสมุทรอินเดีย (ถูกโจมตีนอกทะเลแดงเป็นครั้งแรก) ขณะที่สหรัฐอ้างว่าเป็นการ โจมตีด้วยโดรนติดอาวุธที่ยิงมาจากอิหร่าน ขณะที่อิหร่านถือเป็นประเทศที่มีการขนส่ง เป็นอันดับต้นๆ ของโลก และอันดับ 2 ของ OPEC มีกำลังการผลิตราว 4 ล้านบาร์เรล ต่อวัน

สรุป ปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจ เอื้อต่อการที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่ใน อีกทางหนึ่ง การโจมตีเรือขนส่งสินค้าพาณิชย์นอกทะเลแดงอาจกดดันให้ราคาน้ำมัน ปรับตัวสูงขึ้นช่วงนี้ได้จากความกังวลในผลกระทบฝั่ง SUPPLY อย่างไรก็ตาม สัญญาณเศรษฐกิจที่ลดความร้อนแรงลง เป็นแรงกดดันราคาCOMMODITY จากฝั่ง DEMAND ที่อาจลดความผันผวนของราคาน้ำมันดิบในระยะยาวได้

คลังเตรียมต่ออายุลดค่าโอนฯ/จดจำนองอีก 1 ปี พร้อมแนะ ธปท. ผ่อนเกณฑ์ LTV

กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ต่ออายุมาตรการ ลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2% เหลือ 1% และจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% (เฉพาะการโอนแนะจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับราคาซื้อขายและราคาประเมิน ที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท สำหรับปี 2567 (จากเดิมที่จะสิ้นสุดในปี 2566) พร้อมยัง ต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนปรนเกณฑ์ LTV โดยผู้ซื้อสามารถกู้ได้ 100% ไม่ว่าจะเป็นบ้านหลังที่เท่าไร หรือ ราคาเท่าไร เนื่องจากมองว่าปัจจุบันสถานการณ์ อสังหาฯ ไม่ได้อยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง ยังไม่เห็นสัญญาณของฟองสบู่ และการเก็งกำไรใน ธุรกิจดังกล่าว

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางต่อแนวคิดดังกล่าว เนื่องจากเป็นการขยายอายุมาตรการลด ค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองเหมือนทุกปี กล่าวต่อไปอีก 1 ปีสำหรับปี 2567และยังคง กำหนดสิทธิสำหรับราคาที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งอาจไม่ได้ช่วยกระตุ้นตลาด อสังหาฯ ได้มากนัก เนื่องจากระดับราคาบ้านกลุ่มนี้ คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 30% ของมูลค่า ทั้งตลาดรวม โดยมุมมองของฝ่ายวิจัยประเมินว่าหากมีขยายเพดานสิทธิสู่บ้านราคาไปถึง 5 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย น่าจะครอบคลุมได้ในวงกว้างมากกว่า เนื่องจากบ้านระดับถึง 5 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 50-60% ของตลาดรวม

สำหรับการผ่อนปรนมาตรการ LTV ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ถูกกำหนดโดย ธปท. ดังนั้นการ ตัดสินใจจะผ่อนคลายหรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของธปท. โดยในมุมมองของฝ่าย วิจัย ให้น้ำหนักต่อประเด็นเรื่องการผ่อนปรน LTV ว่าจะมีผลต่อกลุ่มอสังหาฯ ในเชิงบวก มากกว่ามาตรการลดค่าโอนและจดจำนอง เนื่องจากเดิมการเกิดขึ้นของมาตรการ LTV ก็ เพื่อหวังสกัดกั้นการเก็งกำไร แต่ด้วยสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น และการให้ความสำคัญใน การฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก ทำให้ธปท. ผ่อนคลาย LTV ตั้งแต่ 20 ต.ค. 2564-สิ้นปี 2565 ก่อนกลับมาใช้เกณฑ์มาตรการ LTV แบบเดิมในปี 2566 หลังโควิด-19 คลี่คลายลง ซึ่งเมื่อมีการเกิดขึ้นของ LTV ทำให้ผู้ซื้อบ้านถูกจำกัดการกู้ลง โดยเฉพาะบ้านหลังที่ 2-3 กู้ ได้เพียง 70-90% (บ้านหลังแรกวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท คงกู้ได้ 100% และตกแต่งเพิ่มได้ อีก 10%) กอปรกับการเข้มงวดมากขึ้นของการปล่อยสินเชื่อของแบงค์, ปัญหาเงินเฟ้อ และ ทิศทางดอกเบี้ยระดับสูงในปีนี้ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทำให้ภาพรวม ตลาดอสังหาฯ ปีนี้ชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับโควิด-19โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลางล่าง ได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มกลาง-บน ดังนั้นมองว่าภายใต้ภาวะเศรษฐกิจไทยและ ภาคอสังหาฯ ที่ยังต้องการแรงสนับสนุน หากมีการปลดล็อกหรือลดความเข้มงวดของ มาตรการ LTV ย่อมเป็นผลบวกและมีโอกาสกระตุ้นภาคธุรกิจที่อยู่อาศัย ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่ สร้าง MULTIPLIER EFFECT ให้กับธุรกิจอื่นในวงจรเศรษฐกิจไทย

คงแนะนำลงทุนเท่าตลาดสำหรับกลุ่มฯ เลือกหุ้นเด่นที่มีพื้นฐานธุรกิจแข็งแรง มีสินค้า กระจายตัวทั้งแนวราบและคอนโดฯ รวมถึงพอร์ตลูกค้าหลากหลาย ตลอดจนปันผลจูงใจ ได้แก่ AP(FV@16.00), SPALI(FV@27.30), SC(FV@4.80), LH (FV@B10.00) และ SIRI (FV@2.20) (รายละเอียดบทวิเคราะห์กลุ่มฯ ฉบับเต็มวันที่ 12 ธ.ค. 2566

ท้ายปีเป็นช่วงน่าสะสมหุ้น หวังเร่งตัวขึ้นต่อต้นปีหน้า

SET INDEX ปรับตัวขึ้นมาติดต่อกัน 7 วันทำการ 47 จุด อยู่ที่ 1405 จุด แม้สัปดาห์นี้ จะเป็นเทศกาลหยุดยาวของต่างชาติ ทำให้มูลค่าซื้อขายเบาบางลงไปบ้าง แต่เชื่อว่า SET INDEX ยังมีโอกาสฟื้นขึ้นเด่นในช่วงต้นปี 2567 ด้วยปัจจัยต่างๆ ดังนี้

1. SET INDEX ในช่วงท้ายปีนี้ 1405 จุด ต่ำกว่าช่วงปลายปี 2565 และ 2566 อยู่ เกินกว่า 200 จุด ถือว่า LAGGARD กว่าในอดีตมาก

2. การเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยที่ย่อตัวลง สวนทางกับแนวโน้มการเติบโตของ กำไรบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มฟื้นขึ้นเรื่อยๆ EPS65 81.5 บาท/หุ้น, EPS66F 88.6 บาท/หุ้น และ EPS67F 99.8 บาท/หุ้น ซึ่งปีหน้าคาดว่าเติบโต ได้ถึง 12.6% (สูงสุดในรอบ 2 ปี)

3. หวังว่าจะเร่งตัวขึ้นได้ดีในช่วงต้นปีหน้า จากข้อมูลย้อนหลัง 49 ปี ตลาดหุ้น ไทยมักจะขึ้นได้ดีในเดือน ม.ค. เฉลี่ย 2.2% สูงกว่าเดือนอื่นๆ เฉลี่ย 0.6% และ หากดูการกระจายตัวของผลตอบแทน พบว่า มีลักษณะเบ้ซ้าย (SKEWED TO LEFT) คือ อ้วนในฝั่งขวาเยอะสุดเมื่อเทียบกับเดือนอื่นๆ (มีโอกาสให้ ผลตอบแทนเป็นบวกมากกว้าดือนอื่นๆ) และแคบในฝั่งซ้ายเป็นอันดับต้นๆ (มี โอกาสให้ผลตอบแทนเป็นเป็นลบน้อยกว่าดือนอื่นๆ)

กลยุทธ์แนะนำทยอยสะสมหุ้นให้ความสำคัญกับ ESG ที่แนวโน้มกำไรเติบโตเด่น หรือ ปันผลสูง

• หุ้น ESG RATING สูง กำไรเติบโตเด่น -> CK, GULF, CRC, BEM, CPALL (BK:CPALL), MINT

• หุ้น ESG RATING สูง ปันผลสูง -> SIRI, BRI, TISCO, ORI, SPALI, SC, LH, INTUCH, AP, TTCL, MAJOR, BBL, ADVANC

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย