รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

เงินเฟ้อสหรัฐ ไม่กระทบแผนลดดอกเบี้ย 

เผยแพร่ 13/03/2567 10:05

เงินเฟ้อเดือน ก.พ.ของสหรัฐฯ ออกมาที่ 3.2% YOY สูงกว่าคาดที่ 3.1%แต่ไม่ได้ ส่งผลให้มุมมองเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยของ FED เปลี่ยนโดย FED WATCHTOOL ยังแสดงผลว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.67 ด้วยความ น่าจะเป็นเกือบ 60%ขณะที่ราคาสินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ ไม่เปลี่ยนแปลงอย่าง มีนัยสำคัญ สะท้อนว่าราคาได้ดูดซับปัจจัยดังกล่าวไว้แล้ว ในอีกมุมหนึ่ง จีน ยังคง เห็นมาตาการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาต่อเนื่องล่าสุดมีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ ระบบ 1 หมื่นล้านหยวน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.พ.ส่วนใหญ่ส่งสัญญาณ การฟื้นตัว สำหรับบ้านเรา กกต. มีมติเอกฉันท์ ให้ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณา ยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องมาจากการที่ ศาล รัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการหาเสียงด้วยนโยบายการแก้ ม.112 เป็นการล้มล้าง การปกครองฯ แต่เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวอยู่ในความคาดหมายของนักลงทุนแล้ว

ปัจจัยแวดล้อมทางพื้นฐานเช้านี้มีน้ำหนักค่อนไปทางบวก ซึ่งน่าจะทำให้ SET INDEX ผันผวนในทิศทางขบับขึ้น ประเมินกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ที่ 1374 – 1388 จุด หุ้น TOP PICK เลือก BCH, GULFและ SCCC

ปัจจัยแวดล้อมไม่น่ากังวล

คาดหนุนเม็ดเงินเข้าสินทรัพย์เสี่ยง วานนี้มีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ก.พ. ออกมา +3.2%YOY สูงกว่าตลาด คาดเล็กน้อยที่ +3.1%YOY ส่งผลให้มุมมองต่อทิศทางดอกเบี้ยไม่ได้เปลี่ยนแปลง มากนัก โดยผลการสำรวจของ FED WATCH TOOL ให้โอกาสปรับลดดอกเบี้ยในปี นี้ คาดว่าจะอยู่ที่3 ครั้งซึ่งอาจเห็น FED ปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วง 2Q67 นี้ ด้วย ความน่าจะเป็นที่มากกว่าครึ่ง

ขณะที่ผลตอบแทนของตลาดหุ้นโลกส่วนใหญ่ดีดตัวขึ้นแรง เฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่ม เทคฯ หนุนให้ดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้นราว 1.5% สะท้อนมุมมองตลาดการเงินมี ความกังวลต่ำเกี่ยวกับประเด็นทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในปีนี้

ส่วนในฝั่งเอเชีย ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวขึ้นได้ค่อนข้างดีในช่วงที่ผ่านมา โดยหุ้นกลุ่มเทคฯ จีนดีดตัวกว่า 20% จากจุด BOTTOM ในเดือน ม.ค. หลังรัฐบาลจีนเร่งอัดนโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ต่อเนื่อง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ขณะที่ มาตรการล่าสุดวานนี้ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศอัดฉีดเงิน 1 หมื่นล้าน หยวน เข้าสู่ระบบการเงินผ่านข้อตกลง REVERSE REPO ประเภทอายุ 7 วัน โดย กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ 1.8% หนุนให้ดดัชนี HSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงราว 3%

สรุป เงินเฟ้อสหรัฐฯ ก.พ. 67 สูงกว่าคาดเพียงเล็กน้อย ส่งผลให้มุมมองต่อทิศทาง ดอกเบี้ยไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก ขณะที่แนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนมีความ เป็นได้มากขึ้น หลังรัฐบาลจีนอัดมาตรการกระตุ้นต่างๆ ต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยข้างต้นมีผล ต่อระดดับความกังวลที่ลดลง คาดเป็นแรงหนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

ประเด็นยุบพรรคก้าวไกล ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย

กกต.มีมติเอกฉันท์ เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค ก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการ กระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ที่เสนอแก้ไขประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข ซึ่งประเด็นที่ต้องติดตามหลังจากนี้ คือ ระยะเวลาในการพิจารณาของศาล ฯ เนื่องจากวันที่ศาลตัดสิน จะเป็นวันที่สร้างแรงกดดันต่อ SET INDEX อีกระลอกหนึ่ง อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าว ไม่ได้สร้างความประหลาดใจต่อ SET INDEX มากนัก เนื่องจาก ในช่วงปลาย ม.ค.67 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าปมการหาเสียงโดยใช้เรื่อง แก้ ม.112 เป็นการล้มล้างการปกครองฯ

ส่วนประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจ และเป็นเหมือนแรงกระตุ้นให้ SET INDEX ดู สดใสในระยะถัดไป คือ ประมาณการ GDP ของไทยที่ BLOOMBERG คาดว่า GDP 1Q67 จะต่ำสุดอยู่ที่ระดับ +1.5%YOY แต่หลังจากนั้นในไตรมาส 2-4 จะทยอย เพิ่มขึ้นเป็นขันบันได จนทำให้ GDP ทั้งปี 2567 คาดอยู่ในช่วง 2.7%-2.8% ซึ่งส่วนที่ ฟื้นตัวเด่น คือ การลงทุน-ใช้จ่ายของภาครัฐฯ และภาคส่งออกที่ฟื้นตัวเด่นในปีน

สรุป ประเด็นการยุบพรรคก้าวไกลไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย (หลังศาลตัดสิน ว่าพรรคก้าวไกลเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง) ดังนั้น SET INDEX ไม่น่าจะตอบรับ ประเด็นนี้มากนี้ ขณะที่ปัจจัยบวก คือ การคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ที่ คาดจะโตเป็นขับบันไดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 จนทั้งปีคาดเติบโตราว 2.7%-2.8% ส่วนวันนี้วางกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX 1374-1388 จุด

ตลาดหุ้นไทยเป็นลักษณะเก็งกำไรซึมๆ ช่วงสั้น แต่ยังคาดหวังจะ ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น

ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในโหมดซึมๆ สะท้อนได้จากมูลค่าซื้อขายในเดือน มี.ค. 67 (MTD) อยู่ที่ 4.06 หมื่นล้านบาทต่อวันเท่านั้น (คิดเป็น TURNOVER 58% ต่อปี) อาจต้องรอ วันที่ 25 มี.ค. ที่มีการเพิ่มชั่วโมงซื้อขาย 30 นาที น่าจะช่วยให้มูลค่าซื้อขายเพิ่มขึ้นได้ บ้าง

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ช่วงที่มูลค่าซื้อขายเบาบางทำให้เห็นการเก็งกำไรในตลาดหุ้นมากขึ้น อาทิ วานนี้ SET INDEX มีมูลค่าซื้อขาย 4.1 หมื่นล้านบาท เป็นการซื้อขาย DW ถึง 7.9 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 19.4% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมด และสัดส่วนหลักเป็นการซื้อขาย DW ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นตลาดหุ้นฮ่องกง (HANGSENG) จนติดมูลค่าซื้อขาย สูงสุดในตลาดถึง 3 ตัวใน 10 อันดับแรก เพราะหุ้นฮ่องกงวานนี้ขึ้นได้แรงเกือบ 3%

ขณะที่ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีSET INDEX ยังติดลบอยู่ -2.5% (YTD) และตามหลัง ตลาดหุ้นอื่นๆ อยู่มาก อาทิ ตลาดหุ้นฮ่องกงช่วง 1 เดือนกว่าๆ ฟื้นขึ้นแรงเกิน 10% จนผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีพลิกกลับมาเป็นบวก +1.8%(YTD) ส่วนหุ้นญี่ปุ่นเคยขึ้นไป แรง 22%(YTD) ช่วงนี้ย่อลงมาเหลือ 18%(YTD) เนื่องจากกังวลว่า BOJ อาจลดการ ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายลง

ดังนั้นเชื่อว่า SET INDEX ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะถัดไป ขณะที่การเคลื่อนไหวของ ดัชนียัง LAGGARD กว่าตลาดหุ้นอื่นๆ มาก ส่วนระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่ได้ กระแสเชิงบวกสนับสนุนจากหุ้นจีนเริ่มฟื้นขึ้นมาแรง อย่าง กลุ่ม ETRON (KCE, HANA), PKG (SCGP), PETRO (PTTGC, IVL), AGRI (STA, NER)

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย