รับส่วนลด 40%

SET INDEX อาจเริ่มติด แต่ไม่ตัน 

เผยแพร่ 15/03/2567 09:37
SETI
-

การดีดตัวขึ้นของ SET INDEX จาก 1352 จุด มาสู่ 1394 จุด ในมุม TECHNICAL ระยะสั้นอาจติดแนวต้านบริเวณ 1400 – 1410 จุด แต่ในมุม ปัจจัยพื้นฐานเรายังเห็นว่าเส้นทางที่เดินต่อไม่ใช่ทางตัน เนื่องจากเป้าหมาย SET INDEX ปลายปีกำหนดที่บริเวณ 1570 –1580 จุด บนสมมุติฐาน EPS ปี 2567 ที่ 91.4 บาท/หุ้น MARKET EARNING YIELD GAP 3.3%และเพิ่มความอนุรักษ์ นิยมโดยกำหนดให้ กนง. ไม่ปรับลดดอกเบี้ย ดังนี้นภาพของ SET INDEX ที่เรา เห็นจึงอยู่ในสภาพที่ ติด(ระยะสั้น) แต่ไม่ตัน กลยุทธ์ที่ใช้จึงยังเป็นการหาวังหวะสะ สะมหุ้นคุณภาพดีเพิ่ม และลดระดับเงินสดลง ส่วนกระแสที่เข้ามายังเป็นเรื่องของ ทิศทางอัตราดอกเบี้ย ล่าสุดตัวเลข PPI ก.พ.ของสหรัฐฯ สูงกว่าคาด ขณะที่ การ ขอรับสวัสดิการว่างงาน ต่ำกว่าคาด ทำให้คาดว่า FED คงดอกเบี้ยนานขึ้น หนุน BOND YIELD และ กดราคาหุ้น แต่ยังคงเห็นภาพกำหนดการปรับลดดอกเบี้ย เดือน มิ.ย.ตามเดิม

ในระยะสั้นมุมมองทาง TECHNICAL ส่งสัญญาณว่าอาจติดที่แนวต้านบริเวณ 1400 – 1410 จุด แต่ภาพในระยะยาวจนถึงสิ้นปียังเปิด UPSIDE วันนี้ประเมิน กรอบที่ 1388 –1405 จุด หุ้น TOP PICK เลือก MAJOR, PTTและ WHA

ความกังวลเงินเฟ้อยังไม่หมด อาจกดดัน FED คงดอกเบี้ยนานขึ้น

วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ย่อตัวลงมาราว -0.3% ถึง 2% ขณะที่ BOND YIELD 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นราว +2.4% ใกล้แตะ 4.3% หลังมีรายงานหลายๆ ตัวเลขสำคัญ ทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ

• จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (INITIAL JOBLESS CLAIMS) ล่าสุดอยู่ ที่ 209,000 ตำแหน่ง ทรงๆ ตัวใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ รวมถึงสัปดาห์ ก่อน สะท้อนตลาดแรงงานสหรัฐยังไม่ได้อ่อนแอลงอย่างมีนัยฯ

• ดัชนี PPI เดือน ก.พ. ขยายตัว +1.6%YOY สูงกว่าตลาดคาดที่ +1.1%YOY และยังปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ +1.0%YOY สะท้อน เงินเฟ้อในฝั่งผู้ผลิตเติบโตสูงขึ้น

• ยอดค้าปลีก (RETAIL SALES) เดือน ก.พ. ขยายตัว +1.5%YOY เพิ่มขึ้น จากเดือนก่อนที่ +0.04%YOY โดยหลักๆ มีแรงหนุนมาจากร้านวัสดุ ก่อสร้างและสวน อุปกรณ์ยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า

ตัวเลขที่ออกดูดีขึ้นเมื่อเทียบกับข้อมูลชุดก่อนหน้า บ่งชี้ถึงภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ได้ชะลอตัวลง และอาจสร้างแรงกระตุ้นให้เงินเฟ้อเข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2% ได้ ยากขึ้นด้วย ซึ่งถือเป็นเหตุผลเพิ่มเติมที่ทำให้ FED อาจเริ่มปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรก ของปี 2567 ช้ากว่าตลาดคาด ขณะที่ผลการสำรวจของ FED WATCH TOOL ล่าสุด ได้ปรับโอกาส FED คงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.5% ไปถึงเดือน มิ.ย. 67 มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 38.7% (1 เดือนก่อนคาดไว้ที่ 18%)

นอกจากนี้ ในระยะข้างหน้าอาจยังมีความกังวลมากขึ้นในเรื่องเงินเฟ้อชะลอตัวลงได้ ช้า เนื่องจากราคาสินค้า COMMODITY ขยับสูงขึ้นจากปีก่อนค่อนข้างมาก อีกทั้ง วานนี้ยังเห็นราคาน้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวขึ้นราว +1.6% หรือ 2%MTD ส่วนราคา ยางแผ่นโลกดีดตัวขึ้นราว +4.1% หรือ 30.4%MTD อย่างไรก็ตามยังมีหุ้นบางกลุ่มที่ น่าจะได้ประโยชน์ โดยหุ้นกลุ่มอิงราคาน้ำมัน อาทิ PTT (BK:PTT), PTTEP, PTTGC, TOP, SPRC, IRPC หุ้นกลุ่มอิงราคาน้ำมันราคายางพารา อาทิ STA, STGT, TRUBB, NER

สรุป หลายตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดูดี สะท้อนถึงแรงกระตุ้นเงินเฟ้อให้เข้าสู่ กรอบเป้าหมายได้ช้าลง อาจเป็นการเพิ่มเหตุผลให้ FED คงดอกเบี้ยนานกว่าคาด

ความเสี่ยงหุ้นกู้ผิดนัดชำระน่ากังวลแค่ไหน... มาดูกัน

หลังจากที่เกิดความกังวลว่าหุ้นกู้ในไทยสามารถชำระหนี้คืนได้หรือไม่ ฝ่ายวิจัยฯ จึง ได้ทำการรวบรวมข้อมูลของมูลค่าคงค้างของตลาดหุ้นกู้ทั้งหมด ซึ่งล่าสุดอยู่ที่ 4.4 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น ระดับ INVESTMENT GRADE 4.2 ล้านล้านบาท (96%) และ NON INVESTMENT GRADE 1.8 แสนล้านบาท (4%) ซึ่งหากนำตัวเลขดังกล่าว มาจำแนกเป็นรายปี จะเห็นได้ว่าในปีนี้มีมูลค่าคงค้างของหุ้นกู้ 8.88 แสนล้านบาท (สัดส่วน 20.2%) ที่ครบกำหนดชำระ

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

หากนำมาจำแนกในเชิงลึกต่อไปเป็นรายเดือน จะพบว่า เดือน เม.ย. หุ้นกู้หมดอายุ เยอะสุด 1.1 แสนล้านบาท แต่เป็นระดับ NON INVESTMENT GRADE เพียง 1.2 พันล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 1% เท่านั้น ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ทำให้นักลงทุนสบาย ใจได้ระดับหนึ่ง

หากนำรายชื่อหุ้นกู้ที่จะหมดอายุในเดือน เม.ย.67 มาจำแนก จะเห็นได้ว่ามีเพียง 4 บริษัทเท่านั้น ที่อยู่ระดับ NON INVESTMENT GRADE ขณะที่ส่วนที่เหลือเป็นระดับ INVESTMENT GRADE และส่วนใหญ่เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศ อาทิ SCC TIDLOR TPIPL MTC BAM KKP WHA LH SCCC เป็นต้น ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงต่ำ ที่จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้ได้และน่าจะมีการ ROLLOVER ได้ดีอยู่ ขณะที่เดือนต่อๆ ไปมีมูลค่าคงค้างของหุ้นกู้ลดลง อาจจะช่วยทำให้ความกังวลในการผิดนัดชำระใน ระยะต่อไปทยอยลดลงตามไปด้วยได้

สรุป ฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าประเด็นนี้จะกดดัน SET INDEX แค่ช่วงสั้นเท่านั้น เนื่องจากใน เดือน เม.ย.67 เป็นเดือนที่มีมูลค่าคงค้างจะหมดอายุมากสุดของปีนี้ ทำให้ช่วงนี้จะเห็น บริษัทออกหุ้นกู้เพื่อ ROLLOVER สูงเป็นพิเศษ แต่จะทยอยลดลงในเดือนถัดๆ ไป บวกกับรายชื่อหุ้นกู้ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ INVESTMENT GRADE อยู่แล้ว ยิ่งเป็นแรง เสริมให้นักลงทุนคลายความกังวลจากประเด็นดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้น

SET ติดๆ แต่ก็ไม่น่าจะตัน

วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.42 จุด มาอยู่ที่ 1394.93 จุด พร้อมกับเม็ดเงิน นักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าในตลาดหุ้น 3.6 พันล้านบาท และไหลเข้าตลาด TFEX อย่าง SET50 FUTURES สูงถึง 3.5 หมื่นสัญญา หนุนตลอดเดือน มี.ค. (MTD) ต่างชาติเหลือขายสุทธิเพียง 1.2 พันล้านบาท และซื้อสุทธิ SET50 FUTURES สะสม สูงถึง 9.89 หมื่นสัญญา ด้วยแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่สลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยบ้าง ในช่วง 1–2 เดือนที่ผ่านมา น่าจะช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ให้มี DOWNSIDE จำกัด

และหากกลับมาดู VALUATION จะพบว่า SET INDEX ที่ติดๆในช่วงสั้น ยังมีโอกาสที่ จะเดินหน้าต่อในช่วงถัดไป สะท้อนได้จาก สมมุติฐานในเชิงอนุรักษ์นิยมของฝ่ายวิจัยฯ คือ

• ประเมิน EPS67F แบบอนุรักษ์นิยมที่ 91.4 บาท/หุ้น ต่ำกว่า BLOOMBERG CONSENSUS ที่ 95 บาท/หุ้น

• อิงดอกเบี้ยนโยบายที่ไม่ลดลงทั้งปี2567 ที่ 2.5% (ซึ่งมีโอกาสลดลงได้ 1 –2 ครั้ง) ภายใต้ MEYG ที่ 3.3%

• กำไรปีนี้มีโอกาสเติบโตเด่นจากฐานที่ต่ำ ประเมิน EPS GROWTH 67F สูง ถึง 17% เพราะฐานกำไรปี 66 ต่ำเพียง 78.1 บาท/หุ้น เนื่องจากปีที่แล้ว เศรษฐกิจเติบโตช้าในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง และมีหุ้นที่ขาดทุนจาก รายการพิเศษหลายบริษัท

จากสมมุติฐานดังกล่าว ได้ผลลัพธ์ดัชนีเป้าหมายปี 2567 บริเวณ 1570 – 1580 จุด ซึ่งมี UPSIDE จากดัชนีปัจจุบันเกือบๆ 200 จุด ดังนั้น SET INDEX ภายใต้ต่างชาติ เริ่มสลับมาซื้อสุทธิ พร้อมกับ UPSIDE ที่เปิดกว้าง ก็ยังมีโอกาสทยอยเดินหน้าต่อได้

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย