1. สถานการณ์ทางการค้าเริ่มยุ่งเหยิงมากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความสั่นสะเทือนในตลาดหุ้นและหนุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ด้วยการประกาศว่าสหรัฐฯ อาจพักการทำข้อตกลงทางการค้ากับจีนไปจนถึงการเลือกตั้งปีหน้า
ทว่าการกระทำมักเสียงดังกว่าคำพูดเสมอ เห็นได้จากล่าสุดที่สภาสหรัฐฯ ได้ผ่านร่างกฎหมายอีกฉบับที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนในจีน ซึ่งก็คือกฎหมายว่าด้วยชนชาวอุยกูร์ปี 2019 ที่มีความคล้ายคลึงกับกฎหมายของฮ่องกง และส่งผลกระทบที่คล้ายกันต่อการเจรจาทางการค้าเช่นกัน
2. ผู้ก่อตั้ง Google ลาออกจากตำแหน่ง
ผู้ก่อตั้งบริษัท Google นาย Sergey Brin และนาย Larry Page ประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารของเครือบริษัทแพลตฟอร์มออนไลน์ Alphabet (NASDAQ:GOOGL) และส่งมอบตำแหน่งซีอีโออย่างเต็มตัวให้กับนาย Sundar Pichai โดยทั้งสองจะยังคงมีชื่ออยู่ในคณะกรรมการผู้บริหารและจะยังสามารถควบคุมการตัดสินใจของบริษัทได้ภายใต้โครงสร้างการถือหุ้นสองระดับของ Alphabet
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ตามมาหลังจากธุรกิจของ Google ถูกตรวจสอบจากหน่วยงานทางกฎหมายอย่างหนักหน่วง
มีรายงานว่าในอีเมลร่ำลาของทั้งสองได้ยืนยันว่าจะมีการติดต่อ Pichai อย่างเป็นระยะ ๆ
ในปีนี้ราคาหุ้นของบริษัทได้ทะยานขึ้นมากว่า 24% แล้ว และค่อนข้างคงตัวในช่วงเวลาหลังตลาดปิดเมื่อวานนี้
3. ตลาดหุ้นเตรียมเด้งกลับขึ้นมาเล็กน้อย
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมเด้งกลับขึ้นมาไม่ถึงครึ่งหนึ่งของขาลงเมื่อวานนี้ ขณะที่สื่อฝั่งตะวันตกก็ได้ออกมายืนยันมากขึ้นถึงปฏิกิริยาของจีนที่ไม่พอใจสหรัฐฯ อย่างมาก
เมื่อเวลา 6:15 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้า ปรับขึ้น 125 จุดหรือราว 0.5% ขณะที่ สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ดีดขึ้น 0.4% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ปรับขึ้น 0.6%
บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ Salesforce และ Workday ต่างก็รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดเมื่อคืนนี้หลังเวลาตลาดปิด ทว่าราคาหุ้นกลับปรับลงหลังเวลาการซื้อขาย โดยวันนี้จะมีการรายงานผลประกอบการของ Peloton (NASDAQ:PTON) หลังจากมีปัญหาเกี่ยวกับโฆษณาที่ส่อเค้าเหยียดเพศ ซึ่งทำให้ราคาหุ้นดิ่งลงมากกว่า 9% เมื่อวานนี้
4. ผลสำรวจกิจการบริการจาก ISM, ตัวเลขตลาดแรงงานเอกชนจาก ADP
หลังจากเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ผลสำรวจภาคการผลิตออกมาอ่อนแอเกินคาด ในวันนี้สถาบันการจัดการอุปทาน (ISM) จะรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ นอกภาคการผลิตในเวลา 10.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก ซึ่งเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงให้หลังจาก IHS Markit รายงาน ดัชนี PMI ภาคกิจการบริการ
ดัชนีของ IHS Markit จากทั่วโลกออกมาหลายทิศทางเมื่อคืนนี้ ดัชนี PMI ของจีนสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่งในขณะที่ ดัชนี PMI ฝั่งยูโรโซน ออกมาดีกว่าผลคาดการณ์เล็กน้อย
และก่อนหน้าที่จะมีการรายงานดัชนี PMI ก็จะมีการรายงาน ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชน จาก ADP ในเวลา 8:15 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก โดยตัวเลขการจ้างงานในเดือนพฤศจิกายนน่าจะสูงขึ้น 140,000 ราย จากเมื่อเดือนตุลาคม 125,000 ราย
5. ราคาน้ำมันพลิกฟื้นหลังการประกาศตัวเลขของ API
ราคาน้ำมันดิบ พลิกฟื้นขึ้นมามากกว่าตลาดหุ้นในวันนี้ เนื่องด้วยสัญญาณจากอิรักซึ่งที่ผ่านมาเป็นประเทศที่ให้ความร่วมมือน้อยที่สุดต่อการลดกำลังการผลิตน้ำมันกับ OPEC+ ล่าสุดอิรักได้ส่งสัญญาณถึงความคาดหวังให้ซาอุดิอาระเบียลดกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่าเดิมเมื่อถึงการประชุม ณ กรุงเวียนนาในอีกสองวันข้างหน้านี้
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับขึ้น 1.6% จากช่วงครึ่งหลังของเมื่อวานนี้ที่ $56.97 ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 6:15 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ขยับขึ้น 1.7% อยู่ที่ $61.88 ต่อบาร์เรล
ในเวลา 10:30 น. EIA จะรายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ของสัปดาห์ที่แล้ว โดยรายงานจาก สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) เมื่อวานนี้ชี้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ลดลงเกินคาด