รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 ประเด็นหลักที่น่าจับตาประจำวันนี้ (20 ธ.ค.)

เผยแพร่ 20/12/2562 09:42
อัพเดท 20/12/2562 10:01
© Reuters.

Investing.com - ภาพรวมของสามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้

1. ตัวเลขบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อ

แม้ในวันนี้จะมีการรายงานทั้งตัวเลข GDP และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมิชิแกน แต่ทั้งสองตัวเลขเป็นเพียงแค่การปรับตัวเลขเดิมที่เคยประกาศไปแล้วเท่านั้น

ดังนั้นในวันนี้ตลาดจะให้ความสนใจกับรายจ่ายและรายรับผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่จะรายงานออกมาในเวลา 10:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (15:00 GMT) รวมทั้งตัวเลขชี้วัดอัตราเงินเฟ้อด้วย

อ้างอิงจากผลคาดการณ์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่า รายรับผู้บริโภค ในเดือนพฤศจิกายนจะขยายตัวขึ้น 0.3% ส่วน รายจ่ายผู้บริโภค คาดว่าจะสูงขึ้น 0.4% นอกจากนี้ยังมีการรายงานตัวเลขบ่งชี้อัตราเงินเฟ้อผ่านดัชนีรายจ่ายผู้บริโภคที่ไม่รวมราคาด้านอาหารและพลังงานด้วย (ดัชนี PCE พื้นฐาน)

ดัชนี PCE พื้นฐาน ในเดือนตุลาคมค่อนข้างซบเซาเมื่อเทียบปีต่อปี 1.3%

ทั้งนี้การปรับตัวเลข GDP ประจำไตรมาสที่สามคาดว่าจะคงเดิมที่อัตรารายปีเท่ากับ 2.1% ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นจากมิชิแกนน่าจะคงเดิมที่ 99.2 เช่นกัน

2. Carnival รายงานผลประกอบการ

Carnival Corporation (NYSE:CCL) จะรายงานผลประกอบการรายไตรมาสก่อนเวลาตลาดเปิดในวันนี้

คาดว่าบริษัทจะ ทำกำไร ได้ 52 เซนต์ต่อหุ้นและคาดว่าจะมีรายได้ 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ

เมื่อเดือนที่แล้ว SunTrust ได้ลดการจัดอันดับหุ้น โดยบริษัทได้เล็งเห็นว่าอุปสงค์ในการใช้บริการ Carnival จากเอเย่นต์จัดการท่องเที่ยวเริ่มลดลงเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่น

3. Nike (NYSE:NKE) ผลประกอบการออกมาดี แต่ผลกำไรขั้นต้นน่าผิดหวัง

ผลประกอบการของ Nike (NYSE:NKE) อาจส่งผลกระทบในทางลบต่อกลุ่มหุ้นผู้ผลิตสินค้าฟุ่มเฟือยในวันนี้ แม้ผลประกอบการของบริษัทจะออกมาค่อนข้างดีก็ตาม

ตลาดเกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกำไรขั้นต้นของบริษัท ทำให้หุ้นของบริษัทย่อตัวลง 0.8% หลังเวลาการซื้อขาย
อ้างอิงจากข้อมูลของ Briefing.com พบว่าผลกำไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ที่ 44% ต่ำกว่าที่คาดไว้ 44.1%

ทางด้านผลประกอบการของบริษัทออกมาอยู่ที่ $0.70 ต่อหุ้นและมีรายได้ 1.033 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ต่างจากผลคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ Investing.com รวบรวมมา ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรต่อหุ้น $0.58 และคาดว่าจะมีรายได้ 1.008 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อน Nike (NYSE:NKE) เคยทำกำไรได้ 52 ต่อหุ้นและเคยมีรายได้ 9.37 พันล้านเหรียญสหรัฐ

เมื่อวานนี้ราคาหุ้นขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ที่ $101.27 และในปีนี้ได้ปรับขึ้นมาแล้ว 36.4%

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย