รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

5 เหตุการณ์สำคัญ ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (6 - 10 ม.ค.)

เผยแพร่ 06/01/2563 09:52
อัพเดท 06/01/2563 10:28
© Reuters.

Investing.com - ภาพรวมของห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้

  1. ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นต่อไปอีก

ราคาน้ำมันทะยานขึ้นเมื่อวันศุกร์หลังจากที่สหรัฐฯ ได้คร่าชีวิตผบ.อิหร่านผ่านการโจมตีทางอากาศ สร้างความหวาดหวั่นว่าความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางอาจส่งผลเสียต่ออุปทานน้ำมันโลก

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 3% ส่วน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ บวกขึ้น 3.6% สู่ระดับสูงกว่า $68 ต่อบาร์เรล โดยครั้งสุดท้ายที่ราคาสัญญาเบรนท์เคยอยู่ในระดับนี้คือเมื่อกลางเดือนกันยายน หลังจากเกิดเหตุการณ์การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันซาอุดิอาระเบียที่ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดภายในระยะเวลานานกว่า 30 ปี ทั้งนี้ราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับนี้ต่อไปหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าอิหร่านจะตอบโต้เอาคืนสหรัฐฯ อย่างไรและเมื่อใด

  1. ตลาดโลกท่ามกลางปัจจัยความเสี่ยงทางการเมือง

ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันในสัปดาห์นี้ โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่ากลุ่มหุ้นตั้งรับจะทำผลงานได้ดีเป็นพิเศษ, ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะมีแนวโน้มขาลง และสกุลเงินที่มีความปลอดภัยสูงคาดว่าจะปรับตัวขึ้น

เมื่อวันศุกร์ดัชนีหลักในวอลล์สตรีทพากันย่อตัวลงจากระดับสูงสุด โดยดัชนี S&P 500 ย่อตัวลง 0.7% จากที่ปรับตัวขึ้นมาห้าสัปดาห์ติดต่อกัน และตัวเลขจาก ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่หดตัวลงมากกว่าคาดการณ์ได้สร้างความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงอีกด้วย



  1. ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ

ตัวเลขตลาดแรงงานล่าสุดของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนชี้ว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 266,000 ตำแหน่งซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 10 เดือน ในขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ระดับ 3.5% ถือเป็นระดับที่ต่ำสุดในครึ่งศตวรรษ ทั้งนี้คาดว่าอัตราการเติบโตของตลาดแรงงานประจำเดือนธันวาคมน่าจะชะลอตัวลงเหลือ 160,000 ตำแหน่ง

ตัวเลขจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าสงครามทางการค้าของสหรัฐฯ กับจีนไม่ได้ส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างเป็นวงกว้างมากเท่าไรนัก เห็นได้จากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สามของสหรัฐฯ ที่ยังขยายตัว 2.1% ถึงแม้ว่าภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบ แต่ตลาดก็มีความเชื่อมั่นต่อข้อตกลงทางการค้าขั้นแรกที่จะมีการลงนามเกิดขึ้นในวันที่ 15 มกราคมนี้

  1. ข้อตกลงทางการค้าสหรัฐฯ-จีน

แม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศว่าจะมีการลงนามข้อตกลงทางการค้าขั้นแรกในวันที่ 15 มกราคมนี้ แต่ประเทศจีนยังคงเก็บตัวและยังไม่มีการเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงครั้งนี้แต่อย่างใด จึงทำให้ตลาดโลกยังคงไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ขณะนี้เสียทีเดียว

ไม่กี่วันมานี้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นหลังจากยอดค้าปลีกออกมาดี, ตัวเลขภาคอุตสาหกรรมแข็งแกร่ง และการใช้มาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจของธนาคารกลางจีนด้วยการลดอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง ดังนั้น ดัชนี PMI จีน ภาคกิจการบริการที่จะประกาศออกมาในวันนี้จะเป็นที่น่าจับตาเช่นเดียวกับ อัตราเงินเฟ้อ ในวันพฤหัสบดีนี้ และในวันพรุ่งนี้จะมีการเผยทุนสำรองของธนาคารกลางจีนด้วย

  1. ข้อตกลง Brexit

รัฐสภาสหราชอาณาจักรจะร่วมกันหารือในวันที่ 7 มกราคมนี้เกี่ยวกับข้อตกลงการถอนตัวที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน ได้ตกลงไว้กับสหภาพยุโรป

แต่ความกังวลต่อการเกิด Brexit แบบไม่มีข้อตกลงยังคงเป็นแรงกดดันสำคัญต่อ ค่าเงินปอนด์ ซึ่งย่อตัวลงมาต่ำกว่า $1.31 จากระดับสูงสุดเมื่อเดือนธันวาคมที่เหนือระดับ $1.35 โดยหากสภาเห็นชอบข้อตกลงแล้วก็จะเป็นการนับถอยหลังการทำข้อตกลงด้านความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ซึ่งหากไม่สามารถทำข้อตกลงทางการค้าดังกล่าวได้ทันสิ้นปี 2020 ก็จะทำให้สหราชอาณาจักรจำเป็นต้องถอนตัวจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลงทางการค้าใด ๆ มารองรับ

ทว่ากระบวนการพิจารณาข้อตกลงการถอนตัวน่าจะสิ้นสุดลงภายในสิ้นเดือนนี้ ดังนั้นค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงจึงอาจมีความเคลื่อนไหวต่อข้อมูลทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ภายในประเทศมากกว่าเมื่อปีที่แล้ว โดยในวันนี้จะมีการรายงาน ตัวเลขภาคกิจการบริการ ครั้งสุดท้ายประจำเดือนธันวาคมของสหราชอาณาจักรซึ่งคาดว่าจะสูงขึ้นเล็กน้อยแต่ยังคงอยู่ภายใต้ระดับ 50 ขณะที่ ราคาที่อยู่อาศัยในอังกฤษ ที่จะประกาศออกมาในวันพุธนี้ก็น่าจะแสดงให้เห็นถึงสภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ภายหลังจากที่สถานการณ์ Brexit เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเล็กน้อย

--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย