รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

5 เหตุการณ์สำคัญ ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (3 - 7 ก.พ.)

เผยแพร่ 03/02/2563 09:57
อัพเดท 03/02/2563 10:50
© Reuters.

โดย Noreen Burke

Investing.com -- ภาพรวมของห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้

  1. ตลาดจีนเตรียมทรุดตัวลงจากการเทขาย

ตลาดการเงินจีนเตรียมเปิดทำการอีกครั้งในวันนี้ ผู้ลงทุนต่างก็เตรียมตั้งรับความผันผวนจากการเทขายตามรอยตลาดหุ้นทั่วโลก ท่ามกลางความหวาดหวั่นต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งทางธนาคารกลางจีนเองก็กำลังเตรียมใช้มาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจในวันนี้เพื่อหนุนสภาพคล่องและช่วยเหลือบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้

มาตรการควบคุมการระบาดของโรคได้ก่อให้เกิดผลกระทบครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจจีนและอาจกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างหนัก หลังจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนเมื่อปีที่แล้วได้ทำให้ GDP จีนในปี 2019 หดตัวลงถึง 6% และทำให้เศรษฐกิจโลกปีที่แล้วชะลอตัวลงเหลือ 3% จาก 3.6% ในปี 2018

  1. ผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลกต่อการระบาดของเชื้อไวรัส


ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับแรงกดดันจากการระบาด โดยเมื่อวันศุกร์ดัชนีหลักส่วนใหญ่ของวอลล์สตรีทต่างก็ทรุดตัวลงมากกว่า 1.5% ส่งมอบสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดในระยะเวลาหกเดือน

นักเศรษฐศาสตร์หลายท่านหวาดหวั่นว่าผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้อาจรุนแรงกว่าการระบาดของโรคซาร์ส (SARS) ซึ่งคร่าชีวิตผู้ติดเชื้อกว่า 800 รายระหว่างปี 2002 และ 2003 อีกทั้งยังสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกเป็นมูลค่าราว 3.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย

ทางด้านราคาน้ำมันก็ได้ส่งมอบขาลงรายเดือนที่ย่ำแย่ที่สุดในระยะเวลานานกว่าหนึ่งปีเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ ราคาทองคำ ปิดเดือนมกราคมในแดนบวก และเป็นเดือนที่ดีที่สุดในระยะเวลาห้าเดือน

  1. การรายงานผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ

เกือบ 100 บริษัทจากดัชนี S&P 500 เตรียมรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งหมายความว่าในวันศุกร์นี้จะมีการรายงานผลประกอบการของบริษัทถึงสองในสามจากบริษัททั้งหมดในดัชนี พร้อมทั้งสองบริษัทจากดัชนี Dow ได้แก่ Disney (NYSE:DIS) และ Merck (NYSE:MRK)

ผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ของ Disney ที่จะรายงานออกมาหลังเวลาตลาดปิดในวันพรุ่งนี้ จะประกอบไปด้วยยอดสมาชิกอย่างเป็นทางการเดือนแรกจากบริการสตรีมมิ่ง Disney+ ที่ได้มีการเปิดตัวบริการเมื่อช่วงกลางไตรมาสทีผ่านมา ทั้งนี้ผู้ลงทุนก็จะจับตาผลกระทบแง่ลบด้วยเช่นกันหลังจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้ทำให้ดิสนีย์แลนด์ที่เซี่ยงไฮ้ต้องปิดทำการอย่างไม่มีกำหนด

ทางด้าน Alphabet (NASDAQ:GOOGL) จะรายงานผลประกอบการในวันนี้ ส่วน Snap (NYSE:SNAP) จะรายงานผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ ตามมาด้วย Uber (NYSE:UBER) และ Twitter (NYSE:TWTR) ในวันพฤหัสบดี

  1. ตลาดแรงงานสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ประจำเดือนมกราคมที่จะรายงานออกมาในวันศุกร์นี้คาดว่าจะมีการเติบโตขึ้น 161,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราค่าจ้างคาดว่าจะสูงขึ้น 3% หลังจากเดือนธันวาคมขยายตัวขึ้นเพียง 2.9%

ส่วน ดัชนีภาคการผลิตจาก ISM ที่จะรายงานออกมาในวันนี้คาดว่าจะสูงขึ้นเล็กน้อย ข้อมูลทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่าง ๆ ของสหรัฐฯ เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากการทำข้อตกลงทางการค้าขั้นแรกระหว่างสหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้สมาชิกเฟดหลายท่านก็มีกำหนดการให้คำกล่าวในสัปดาห์นี้ภายหลังจากเฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิมในการประชุมนโยบายทางการเงินประจำเดือนมกราคม และประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็มีกำหนดการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ด้วยเช่นกัน

ทางฝั่งยูโรโซน ยอดค้าปลีก ประจำเดือนธันวาคมจะเผยแพร่ออกมาในวันพุธ ส่วนในวันพฤหัสบดีนี้ประธานธนาคารกลางยุโรป นางคริสทีน ลาการ์ด ก็จะให้คำกล่าวเกี่ยวกับภาพรวมทางเศรษฐกิจต่อหน้าคณะส.ส.ยุโรปอีกด้วย



  1. RBA จะลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่

ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะประกาศ ผลการประชุมปรับนโยบายทางการเงิน ในวันพรุ่งนี้ และผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่กับภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ได้รับแรงกดดันจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาทำให้มีแนวโน้มสูงมากที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุด แม้ว่าอัตราการว่างงานล่าสุดของประเทศจะออกมาลดลงก็ตาม

ถึงแม้ว่าคณะสมาชิกธนาคารกลางอาจมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิม แต่หากแถลงการณ์ของทาง RBA มีท่าทีเอนเอียงไปทางนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายนั่นก็หมายความว่าจะต้องมีการลดอัตราดอกเบี้ยภายในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน

อัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียขยายตัวขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 แต่ยังคงอยู่ภายใต้ระดับเป้าหมายของ RBA ที่ระหว่าง 2-3% และเนื่องด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอ่อนแออย่างต่อเนื่องจึงทำให้เมื่อปีที่แล้ว RBA ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.75%

--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย