รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

5 เหตุการณ์สำคัญ ปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ (1-5 ก.ค.)

เผยแพร่ 30/06/2562 17:21
อัพเดท 30/06/2562 17:21
© Reuters.

Investing.com - สิ่งที่คุณควรทราบในสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้

1. การเจรจาทางการค้า

สหรัฐฯ และจีนได้ตกลงกันเมื่อวันเสาร์ว่าจะดำเนินการเจรจาทางการค้าใหม่อีกครั้ง โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอที่จะผ่อนปรนด้วยการไม่ขึ้นภาษีศุลกากรครั้งใหม่ และลดหย่อนข้อจำกัดต่อบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Huawei เพื่อลดความขัดแย้งทางการค้ากับจีน

ทั้งนี้ยังไม่มีการกำหนดเส้นตายในการสร้างข้อตกลงและทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้บางเรื่อง สืบเนื่องมาจากการเจรจาที่ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่าเมื่อเดือนพฤษภาคม

ที่ผ่านมาทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างก็ขึ้นภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าของอีกฝ่าย และทำท่าจะชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เดิมทีก็เชื่องช้าอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้นภาษีศุลกากรที่ได้เรียกเก็บไปแล้วก็จะยังคงเดิมในระหว่างที่การเจรจาทางการค้าดำเนินต่อไป

2. ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

รายงานตลาดแรงงานประจำเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ มีแนวโน้มว่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมครั้งหน้าเดือนกรกฎาคม

คาดว่าตลาดแรงงานเดือนมิถุนายนจะมีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นมา 164,000 ตำแหน่ง ขณะที่ เครื่องมือติดตามอัตราดอกเบี้ยเฟด ชี้ว่ามีโอกาสถึง 100% ที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงไปราว 25 จุดในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้

ถึงกระนั้นผู้ลงทุนก็อาจตีตนไปก่อนไข้เสียเองก็เป็นได้ เนื่องจากประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ ก็ได้ออกมาปัดแรงกดดันต่อการลดอัตราดอกเบี้ยออกไปให้พ้นตัว และภาพรวมทางเศรษฐกิจในขณะนี้ก็ค่อนข้างแข็งแกร่ง เห็นได้จากอัตราว่างงานล่าสุดที่ 3.6% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษ และคาดว่าในเดือนมิถุนายนอัตราว่างงานก็จะยังคงเดิมอีกเช่นกัน

นอกจากนี้ในปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้จะมีการรายงานตัวเลข ภาคการผลิต และ ภาคกิจการบริการ ล่าสุดจากสถาบันการจัดการอุปทานสหรัฐฯ รวมถึง ยอดคำสั่งซื้อโรงงาน และ ดุลการค้า อีกด้วย

3. เฟดให้คำกล่าว

รองประธานเฟด นายริชาร์ด คลาริดา มีกำหนดการให้คำกล่าวในวันนี้ โดยเมื่อต้นเดือนเขาได้กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ เตรียมตัวที่จะลดอัตราดอกเบี้ยหากมีความจำเป็น แต่ก็ได้เน้นย้ำว่าภาพรวมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะนี้ยังคงเป็นไปในแง่บวก

ประธานเฟดประจำนิวยอร์ค นายจอห์น วิลเลียมส์ มีกำหนดการร่วมอภิปรายแบบหมู่คณะเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก และภาพรวมนโยบายทางการเงินในวันพรุ่งนี้ที่กรุงซูริค

ประธานเฟดประจำคลีฟแลนด์ นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ มีกำหนดการให้คำกล่าวในวันพรุ่งนี้เช่นกัน

4. การประชุมโอเปก

กลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกจะรวมตัวกันที่กรุงเวียนนาในวันนี้ และประชุมกับประเทศที่ไม่ได้อยู่ในเครือโอเปกหรือที่รู้จักกันในนามโอเปก+ ในวันพรุ่งนี้ เพื่อหารือกันเรื่องการยืดเวลาข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตด้วยอัตรา 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันเพื่อหนุนราคาน้ำมัน ซึ่งข้อตกลงฉบับล่าสุดมีกำหนดการสิ้นสุดในวันอาทิตย์นี้

ทว่าการแถลงการณ์ของประธานาธิบดีรัสเซีย นายวลาดิมีร์ ปูติน เมื่อวานนี้ว่าเขากับเจ้าชายโมฮัมเม็ด บิน ซัลมาน จากซาอุฯ ได้ตกลงกันแล้วว่าจะยืดเวลาข้อตกลงการลดกำลังการผลิตฉบับปัจจุบัน ทำให้ดูเหมือนว่าการประชุมครั้งนี้ค่อนข้างที่จะไม่จำเป็นสักเท่าไรนัก

นอกจากนี้ตลาดก็ยังถกเถียงกันถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากผลการพิจารณาของการประชุมครั้งนี้อีกด้วย เพราะข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ ล่าสุดได้ระบุว่า กำลังการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ เคยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 11 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2018 และกำลังมุ่งหน้าขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อทำสถิติครั้งใหม่ กลับกลายเป็นการชดเชยกำลังการผลิตน้ำมันของโอเปกเสียอย่างนั้น

อย่างไรก็ดี ราคา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ได้ทะยานขึ้นมาแล้วมากกว่า 25% นับตั้งแต่ต้นปี แต่ขณะนี้ราคาก็ยังอยู่ที่ระดับต่ำกว่าราคาสูงสุดที่เคยทำได้ในปี 2018

5. ดัชนี PMI ของสหราชอาณาจักร

ผลสำรวจจาก ภาคการผลิต, ภาคกิจการบริการ และ ภาคการก่อสร้าง ของสหราชอาณาจักรจะเป็นปัจจัยที่ช่วยบ่งชี้การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สองว่าจะออกมาซบเซาหรือไม่ ซึ่งจะลดแนวโน้มที่ธนาคารกลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

สาเหตุส่วนใหญ่ของแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยนั้นมาจากความอ่อนแอในภาคการผลิต เนื่องจากตัวเลขคำสั่งซื้อใหม่และผลผลิตอังกฤษกำลังอ่อนแอลง และบรรดาบริษัทต่าง ๆ ก็พากันตุนสินค้าเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ Brexit แบบไม่มีข้อตกลงอีกด้วย

ING ให้ความเห็นไว้ว่า “ครั้งนี้ดัชนี PMI ภาคการผลิตน่าจะออกมาต่ำกว่า 50 อีกครั้ง แม้ว่าสถานการณ์ในภาคกิจการบริการก็ไม่ได้ดูดีไปกว่ากันสักเท่าไร และเนื่องจากความสุ่มเสี่ยงของ Brexit กำลังจะปะทุขึ้นมาอีกครั้งในช่วงฤดูร้อนนี้ ฉะนั้นเราจึงเชื่อว่าธนาคารกลางอังกฤษคงไม่น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้”

--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากสำนักข่าวรอยเตอร์

ความคิดเห็นล่าสุด

ขอบคุณครับ
ขอบคุณสำรับข้อมูลครับ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมาก
ขอบคุณมากค่ะ
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย