โดย Noreen Burke
Investing.com - บทความตลาดหุ้น 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องการ ก่อนเริ่มลงทุนสัปดาห์นี้
ชัยชนะของโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเหมือนจะช่วยบรรเทาความกระวนกระวายในตลาดสัปดาห์นี้ แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์จะปฏิเสธผลการเลือกตั้งและมีการใช้ทีมกฏหมายเข้าสู้ แต่เนื่องจากอำนาจในการควบคุมวุฒิสภายังไม่เป็นที่แน่ชัด และความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ทำให้ความคาดหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในเดือนมกราคมไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้น นักลงทุนยังคงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจากธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงประธานธนาคารกลางอย่างเจอโรม พาวเวล(Jerome Powell) ในขณะเดียวกันฤดูเห็นการกอบโกยผลกำไรก็เริ่มต้นที่จะจบลง แต่ยังมีอีกหลายสิบบริษัทมีแผนที่จะเปิดรายงาน และ Brexit กำลังเข้าสู่ช่วงทดเวลา นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์นี้ของคุณ
1.ไบเดนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
สำนักข่าวรายใหญ่ประกาศชัยชนะของโจไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ลั่นวาจาว่าเค้าจะนำเรื่องนี้ไปสู้ต่อในศาล แต่ความเป็นไปได้ที่ผลการตัดสินจะพลิกกลับนั้นมีน้อยมาก
ตลาดหุ้นสหรัฐเผยผลกำไรรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายนในสัปดาห์ที่แล้ว อิงอยู่บนความคาดหวังว่าไบเดนจะชนะ และพรรครีพับลิกันจะดำรงตำแหน่งวุฒิสภา สถานการณ์ดังกล่าวจะสร้างความมั่นคงให้ทำเนียบขาวและสภาคองเกรส ป้องกันไม่ให้ไบเดนออกนโยบายดำเนินการขึ้นภาษีหรือกฏรูปแบบใหม่ๆ
ด้วยเหตุนี้เองทำให้นักลงทุนมุ่งเป้าไปที่การชิงตำแหน่งวุฒิสภา 2 ตำแหน่งในจอร์เจียในช่วงต้นมกรา
ความสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้อาจะทำให้พรรคเดโมแครตควบคุมทำเนียบขาวแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดด้วยตำแหน่งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฏร หมายความว่าในเดือนมกราคม สถานการณ์จะกลับมาเหมือนเดือนพฤศจิกายนใหม่ ในแง่ของความผันผวนในตลาด Michael Purves ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Tallbacken Capital กล่าวในบันทึกถึงลูกค้า
2.การกลับมาของไวรัส
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันโดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างน้อย 131,420 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสุทธิอยู่ที่ 9.91 ล้านคน ล้านคน จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วประเทศมากกว่า 1,000 คนเป็นวันที่ห้าติดต่อกันในวันเสาร์ จากการรายงานของรอยเตอร์ส
แม้ว่าจะมีแนวโน้มที่ไวรัสจะฟื้นกลับมา ความคาดหวังของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ก่อนเดือนมกราคมยังคงดูริบหรี่
พรรคเดโมแครตอาจรอจนการการเลือกตั้งที่จอร์เจียในเดือนมกราคมจบลงเพื่อชิงอำนาจวุฒิสภา ทำให้สามารถผลักดันงบประมาณก้อนใหญ่ของตนเองได้
ในส่วนนี้เอง วุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันสามารถเข้าสกัดการใช้งบประมาณก้อนใหญ่ของเดโมแครต Mitch McConnell ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสภาสหรัฐกล่าวว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจรวมถึงอัตราการว่างงานที่ลดลงแสดงให้เห็นว่าสภาคองเกรสควรออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่น้อยลง
3.วอลล์สตรีทโอบรับชัยชนะของไบเดน
นักลงทุนในวอลล์สตรีทกล่าวในวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า พวกเขามีความสุขกับการเลือกตั้ง และความไม่แน่นอนสิ้นสุดลงเสียที แม้ว่าทรัมป์จะอ้างซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งแบบไม่มีหลักฐาน
"ตอนนี้เป็นเวลาแห่งความสามัคคี" Jamie Dimon ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ JPMorgan กล่าวในแถลงการณ์ " เราต้องเคารพผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา เคารถทุกเสียงโหวตและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติ
Bill Ackman นักลงทุนมหาเศรษฐีเขียนไว้ใน Twitter ว่า “บางเวลาในสงครามที่เราต้องยอมแพ้บ้าง” และเรียกร้องให้มีการยอมรับผลอย่างสันดิ
“Biden เป็นข่าวดีสำหรับตลาด” Christopher Stanton ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Sunrise Capital Partners กล่าวเมื่อวันเสาร์ "เราทุกคนเบื่อความผันผวนที่มาพร้อมกับทวีตของทรัมป์"
ในส่วนของผลประกอบการบางบริษัทที่จะมีการรายงานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ได้แก่ McDonald's Corporation (NYSE:MCD), Softbank Group Corp. (T:9984), Beyond Meat Inc (NASDAQ:BYND)และ Tilray Inc (NASDAQ:TLRY)จะมีการประกาศในวันจันทร์และ Walt Disney Company (NYSE:DIS), Applied Materials Inc (NASDAQ:AMAT) และ Cisco Systems Inc (NASDAQ:CSCO)ในวันพฤหัสบดี
4.ข้อมูลเงินเฟ้อจากวิทยากรของเฟด
ปฏิทินเศรษฐกิจคนว่างงานของสหรัฐฯมีข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคพร้อมกับรายงานเกี่ยวกับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในวันพฤหัสบดี
รายงานการจ้างงานในวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐสร้างงานในเดือนตุลาคมน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน และชาวอเมริกันจำนวนมากทำงานพาร์ทไทม์มากขึ้นซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนที่สุดว่าการฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดจากการระบาดใหญ่กำลังสูญเสียโมเมนตัม เนื่องจากขาดการกระตุ้นทางการคลังลงและกรณีไวรัสเกิดใหม่
วิทยากรของเฟดหลายคนมีกำหนดจะปรากฏตัวในสัปดาห์นี้รวมถึง Loretta Mester ประธานเฟดของคลีฟแลนด์,Robert Kaplan ประธานเฟดดัลลัส, Charles Evans ประธานเฟดชิคาโก John Williams ประธานเฟดนิวยอร์ก, Randal Quarle รองประธานเฟด และ Lael Brainard ผู้ว่าการเฟด
Jerome Powell ประธานเฟด มีกำหนดจะพูดในการอภิปรายฟอรัม ECB ประจำปีเกี่ยวกับธนาคารกลางในวันพฤหัสบดี
5.Brexit endgame
อังกฤษและสหภาพยุโรปมีเวลาจนถึงวันที่ 15 พฤศจิกายนเพื่อพยายามบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับข้อตกลงการค้า Brexit อีกครั้ง แต่ครั้งนี้อาจมีความสำคัญเนื่องจากการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ อังกฤษจะยังคงอยู่ในสหภาพยุโรปและตลาดเดี่ยวจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม
ทั้งสองฝ่ายบอกว่าสามารถบรรลุข้อตกลงได้ แต่หัวหน้าฝ่ายเจรจาของสหภาพยุโรปเตือนว่า "เสียงอาจแตกได้"
สิ่งนี้ตอกย้ำความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรที่กำลังเผชิญอยู่ หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษประกาศเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่กว่าที่คาดไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อรองรับเศรษฐกิจจากความหายนะของการปิดกั้นโคโรนาไวรัสและ Brexit
เมื่อมีการเจรจากันในช่วงต่อเวลาพิเศษตลาดต่างๆก็จะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจจากตัวเลข GDP ในไตรมาสที่สามในวันพฤหัสบดีพร้อมกับข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตภาคอุตสาหกรรม