🟢 ตอนนี้ตลาดกำลังทะยานขึ้น สมาชิกผู้ใช้บริการของเรากว่า 120K คน ต่างรู้ดีว่าควรทำอย่างไร คุณก็สามารถรู้ได้เช่นกันรับส่วนลด 40%

BAY คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 36.50-37.00 จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ

เผยแพร่ 13/05/2567 21:53
© Reuters.  BAY คาดกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 36.50-37.00 จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ
USD/JPY
-
USD/THB
-

InfoQuest - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินกรอบเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 36.50-37.00 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 36.71 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 36.68-37.03 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินยูโร แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่สมาชิกธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แสดงมุมมองที่แตกต่างกันเรื่องจังหวะเวลาในการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรก ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงเกินไป

อย่างไรก็ดี ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือน ส่งผลให้ตลาดคาดหวังว่าภาคแรงงานที่ลดความร้อนแรงลง อาจทำให้เฟดลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) คงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี แต่ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลง โดยส่งสัญญาณว่า บีโออีอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่นักลงทุนคาดไว้

ส่วนเงินเยนอ่อนค่าลง แม้ทางการญี่ปุ่นแสดงความกังวลมากขึ้นต่ออัตราแลกเปลี่ยน และผลกระทบต่อเงินเฟ้อ โดยปูทางไปสู่โอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หลังจากญี่ปุ่นยุติการใช้ดอกเบี้ยติดลบเมื่อเดือนมีนาคม ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 1,597 ล้านบาท แต่มียอดซื้อพันธบัตรสุทธิ 436 ล้านบาท

สถานการณ์ตลาดในสัปดาห์นี้ จะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อ และยอดค้าปลีกเดือนเมษายนของสหรัฐฯ รวมถึงความเห็นประธานเฟด โดยกรณีที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ สูงเกินคาด จะทำให้ผู้ร่วมตลาดตั้งคำถามอย่างจริงจังมากขึ้นว่า เฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยปีนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรายังคงเชื่อว่า ตลาดได้ลดความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ไปไกลเกินไป ดังนั้นหากตัวเลขออกมาใกล้เคียง หรือต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดไว้ จะเปิดความเสี่ยงด้านขาลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์ สนับสนุนการฟื้นตัวของสกุลเงินภูมิภาค รวมถึงเงินบาทในระยะข้างหน้า

นอกจากนี้ อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์เข้าสู่ช่วงพักฐาน คือ สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจนอกสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลจากฝั่งยุโรป และจีน โดยในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิต และบริโภคเดือนเมษายนของจีน หลังจากที่จีนรายงานว่ายอดส่งออกขยายตัว 1.5% ในเดือนเมษายน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากส่งออกหดตัว 7.5% ในเดือนมีนาคม ขณะที่ยอดนำเข้าของจีนพุ่งขึ้นเกินคาดที่ 8.4% ในเดือนเมษายน

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย