🟢 ตอนนี้ตลาดกำลังทะยานขึ้น สมาชิกผู้ใช้บริการของเรากว่า 120K คน ต่างรู้ดีว่าควรทำอย่างไร คุณก็สามารถรู้ได้เช่นกันรับส่วนลด 40%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 116.07 จุด หลังบอนด์ยีลด์ชะลอตัว-จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ

เผยแพร่ 29/09/2566 13:31
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 116.07 จุด หลังบอนด์ยีลด์ชะลอตัว-จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ
MU
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (28 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้ รวมทั้งติดตามความคืบหน้าในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวของสภาคองเกรส

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,666.34 จุด เพิ่มขึ้น 116.07 จุด หรือ +0.35%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,299.70 จุด เพิ่มขึ้น 25.19 จุด หรือ +0.59% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,201.28 จุด เพิ่มขึ้น 108.43 จุด หรือ +0.83%

แมทท์ สตัคกี นักวิเคราะห์จากบริษัท Northwestern Mutual Wealth Management กล่าวว่า การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 4.6% หลังพุ่งทำนิวไฮในรอบ 16 ปีนั้น ช่วยให้แรงกดดันในตลาดหุ้นผ่อนคลายลง และคาดว่าตลาดมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากร่วงลงเป็นเวลาหลายวัน

นักลงทุนซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุด ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 ที่ขยายตัว 2.1% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 204,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 214,000 ราย

ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณใด ๆ เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระหว่างการประชุมแบบทาวน์ฮอลล์ร่วมกับบรรดานักวิชาการเมื่อวานนี้ โดยเขากล่าวเพียงว่า การทำให้สาธารณชนมีความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจของเฟดนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญ และหนึ่งในเป้าหมายของเฟดในการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจก็คือ การให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจด้านการใช้จ่ายและการลงทุนทั้งในวันนี้และในอีกหลายเดือนข้างหน้า

ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ดัชนีหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุด โดยปรับตัวขึ้น 1.2% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุเพิ่มขึ้น 1% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลง 2.2%

หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 4.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นักลงทุนจับตาความคืบหน้าของสภาคองเกรสในการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ซึ่งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงภายในวันที่ 30 ก.ย. ก็จะทำให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ หรือชัตดาวน์ในวันที่ 1 ต.ค.

นายพีท บูติเจจ รัฐมนตรีกระทรวงการขนส่งของสหรัฐเตือนว่า หากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐถูกชัตดาวน์ ก็จะส่งผลให้การเดินทางทางอากาศต้องหยุดชะงักลง และอาจทำให้รัฐบาลต้องสั่งให้พนักงานของหอควบคุมการจราจรทางอากาศจำนวนมากหยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ขณะที่สมาคมการเดินทางแห่งสหรัฐ (U.S. Travel Association) ประเมินว่า การชัตดาวน์จะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเดินทางของสหรัฐเป็นจำนวนมากถึง 140 ล้านดอลลาร์ต่อวัน

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนส.ค.ของสหรัฐในวันนี้ เวลาประมาณ 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.3% ในเดือนก.ค. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 4.2% ในเดือนก.ค.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย