รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 391.16 จุด หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบวกแรงหนุนตลาด

เผยแพร่ 11/11/2566 13:32
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 391.16 จุด หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีบวกแรงหนุนตลาด
US500
-
MSFT
-
NVDA
-
META
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (10 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเติบโตที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทรงตัวหลังพุ่งขึ้นอย่างมากในวันพฤหัสบดี ขณะที่บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ ในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,283.10 จุด เพิ่มขึ้น 391.16 จุด หรือ +1.15%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,415.24 จุด เพิ่มขึ้น 67.89 จุด หรือ +1.56% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,798.11 จุด เพิ่มขึ้น 276.66 จุด หรือ +2.05%

ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นวันเดียวมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. และดัชนี S&P500 ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวกขึ้นราว 0.7%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.3% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 2.4%

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 2.6% โดยหุ้นอินวิเดีย พุ่งราว 3%, หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส พุ่ง 2.6% และหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่ง 2.5%

ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นในวันศุกร์หลังจากร่วงลงในวันพฤหัสบดี ซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นที่เป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ตลาดได้แรงหนุนจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 4.62% หลังจากพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดีจากการที่ผลการประมูลพันธบัตร 30 ปีออกมาต่ำกว่าคาด

บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรซึ่งลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี และประเมินว่าเฟดอาจเสร็จสิ้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อแล้ว รวมถึงกำหนดเวลาที่เฟดอาจจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และยอดค้าปลีก ซึ่งจะช่วยคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ได้แก่ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 60.4 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 63.7 จากระดับ 63.8 ในเดือนต.ค. ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.4% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค.ที่ระดับ 4.2%

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย