รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดบวก 1.54 จุด แกว่งแคบวอลุ่มบางขาดปัจจัยบวกใหม่ Fund Flow ชะลอเข้า

เผยแพร่ 02/04/2567 00:11
© Reuters.  ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดบวก 1.54 จุด แกว่งแคบวอลุ่มบางขาดปัจจัยบวกใหม่ Fund Flow ชะลอเข้า

InfoQuest - SET ปิดวันนี้ที่ 1,379.48 จุด เพิ่มขึ้น 1.54 จุด (+0.11%) มูลค่าซื้อขาย 27,472.77 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบวอลุ่มบาง ขาดปัจจัยบวกใหม่หนุน ซ้ำเวิลด์แบงก์หั่น GDP ไทย ต้องรอติดตามประชุม กนง.10 เม.ย. และงบการเงิน บจ.ไตรมาส 1/67 แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดยังแกว่งแคบต่อไป ให้กรอบแนวต้าน 1,385 จุด แนวรับ 1,370-1,365 จุด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,379.48 จุด เพิ่มขึ้น 1.54 จุด (+0.11%) มูลค่าซื้อขาย 27,472.77 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวกรอบแคบทั้งบวก-ลบ ดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,374.24 จุด และสูงสุด 1,384.32 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 244 หลักทรัพย์ ลดลง 223 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 192 หลักทรัพย์

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทยเอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ภาพรวมแกว่งในกรอบแคบๆ เช้าปรับขึ้นบ่ายปรับลง วอลุ่มการซื้อขายเบาบาง โมเมมตัมหลักยังรอปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน โดยที่ผ่านมาในไตรมาสแรกตลาดหุ้นไทยก็ไม่ได้ปรับขึ้นตามหุ้นโลก และล่าสุดธนาคารโลกยังปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยลงมาก็ยิ่งทำให้ตลาดหุ้นไทยไม่น่าสนใจ

หากตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน อาทิ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เชื่อว่าจะยังคงซึมตัวสลับการเล่นเก็งกำไรหุ้นรายตัว โดย 1 เดือนที่ผ่านมาตลาดแกว่งตัวในกรอบ 1,350-1,390 จุด นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาซื้อ เพราะไม่มี catalyst ทำให้ Fund Flow ก็ไม่กล้าเข้าด้วย

ขณะที่ตลาดยีงรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 10 เม.ย.นี้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่อย่างไร รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ในไตรมาส 1/67

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ก็คาดว่าจะเคลื่อนไหวคล้ายวันนี้ แกว่งกรอบแคบวอลุ่มซื้อขายบางรอปัจจัยใหม่ ให้กรอบแนวต้าน 1,385 จุด และแนวรับ 1,370-1,365 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

PTT (BK:PTT) มูลค่าการซื้อขาย 1,347.48 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท ลดลง 0.25 บาท

CPALL (BK:CPALL) มูลค่าการซื้อขาย 1,197.98 ล้านบาท ปิดที่ 54.50 บาท ลดลง 0.25 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,056.28 ล้านบาท ปิดที่ 16.90 บาท ลดลง 0.10 บาท

IVL มูลค่าการซื้อขาย 820.53 ล้านบาท ปิดที่ 24.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 686.16 ล้านบาท ปิดที่ 205.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย