Investing.com - ต่อไปนี้เป็นการวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประจำสัปดาห์นี้
สมาชิกจะได้รับความคิดเห็นจากนักวิเคราะห์ด้าน AI ก่อนใครเพียงสมัครเลยที่ InvestingPro
วอลล์สตรีทคาดหวังรายได้ที่แข็งแกร่งจาก Microsoft
Microsoft (NASDAQ:MSFT) จะเปิดเผยรายงานผลประกอบการในวันที่ 25 เมษายน โดยวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจะประกาศผลกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 2.83 ดอลลาร์ และรายรับที่ 60.77 พันล้านดอลลาร์
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ของ Bank of America คาดว่ารายรับจะเพิ่มขึ้นที่ 1% จากประมาณการไตรมาสที่สามที่ 60.5 พันล้านดอลลาร์สำหรับ Microsoft ซึ่งจะเท่ากับการเติบโต 14.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือ 14% ตามสกุลเงินคงที่
หากไม่รวม Activision อัตราการเติบโตคาดว่าจะอยู่ที่ 11% ตามสกุลเงินคงที่เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่ง "เกิดจากความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของ Azure และ M365" ตามข้อมูลของ BofA
“เราคาดหวังอัพไซด์ที่ 1% จากประมาณการของเราสำหรับการเติบโตของ Azure อยู่ที่ 28.0% หลังได้รับข้อเสนอแนะเชิงบวกหลายประการเช่น (1) การโยกย้ายปริมาณงานใหม่ที่มีความเสถียรและเหมาะสมไปยังแพลตฟอร์มคลาวด์ (2) ความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ในด้านความปลอดภัยของ Microsoft และ (3) การใช้งาน Azure AI และบริการข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เช่น Open AI Services กับ Azure AI และ Fabric”
ในเวลาเดียวกัน นักวิเคราะห์ของ Evercore ISI ก็คาดการณ์การเติบโตของ Azure ที่ 28% ตามสกุลเงินคงที่สำหรับไตรมาสปัจจุบัน
พวกเขายังมองเห็นศักยภาพในการเติบโตที่สูงขึ้นเมื่ออุปสงค์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เติบโต จากข้อมูลของ Evercore อัตราการเติบโตที่ 30% สำหรับ Azure นั้นถือว่าเป็นไปได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีการลงทุนเพิ่มเติม
“เราคิดว่าการเติบโตในช่วง 29-30% นั้นดีเพียงพอ และผลลัพธ์ที่สูงกว่า 30% ก็ถือว่าเป็นเชิงบวกอย่างแน่นอน” พวกเขากล่าว
“สายตามากมายจะจับจ้องไปที่ผลกระทบของ AI ต่อ Azure (~ 6pt ในไตรมาสก่อน) หากธุรกิจมีความเสถียร” นักวิเคราะห์ของ Evercore กล่าวเสริม
Lynx: กลยุทธ์ AI ของ Apple's ล้ำหน้ากว่าที่วอลล์สตรีทคาด
ในวันนี้ นักวิเคราะห์จาก Lynx Equity Strategies กล่าวว่ากลยุทธ์ AI ของ Apple (NASDAQ:AAPL) “ก้าวหน้ากว่าที่วอลล์สตรีทให้เครดิตมาก”
บริษัทวิจัยย้ำเป้าหมายราคาหุ้น AAPL ที่ 220 ดอลลาร์ โดยกล่าวว่าบริษัทยังคงมีแนวโน้มกระทิงจากการคาดการณ์ว่า iPhone และรายได้โดยรวมจะมีการเติบโตเล็กน้อยในปีงบประมาณนี้
ความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ Lynx เกิดขึ้นหลังจากข้อมูลล่าสุดเปิดเผยว่าการจัดส่ง iPhone ในไตรมาสที่ 1 ลดลงกว่า 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่สินค้าทั่วโลกโดยรวมเพิ่มขึ้น 7.6% ในช่วงเวลาดังกล่าว
ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของ iPhone ลดลงเหลือ 17% ลดลงจาก 20.6% ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
“ฟังดูไม่ดีใช่ไหม แต่อย่างไรก็ตามรายงานดังกล่าวอาจจะสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน ซึ่งอาจเป็นผลดีต่อหุ้น” นักวิเคราะห์ของ Lynx กล่าว
“การประมาณการของ IDC เกี่ยวกับการเติบโตของ iPhone ที่ลดลงกว่า 10% น่าจะช่วยทำให้นักลงทุนหันเหความสนใจไปจากพาดหัวข่าวที่น่าเบื่อเกี่ยวกับสินค้าในจีนที่ลดลงเป็นเลขสองหลัก” พวกเขากล่าวเสริม “นักลงทุนจำนวนมากดูเหมือนจะสับสนตัวเลขในจีนกับยอดขายทั่วโลกของ iPhone”
Lynx กล่าวก่อนหน้านี้ว่าจุดอ่อนของ iPhone ในไตรมาสแรกอาจเกี่ยวข้องกับ "โลจิสติกส์การผลิตที่แปลกประหลาด" มากกว่าการเปลี่ยนแปลงความต้องการ
บริษัทเชื่อว่าการผลิตของ iPhone จะฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 หรืออาจเริ่มฟื้นตัวแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน
"ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของ Tesla " Wedbush
Tesla (NASDAQ:TSLA) เตรียมเปิดเผยรายงานผลประกอบการล่าสุดในสัปดาห์หน้า และการประชุมทางออนไลน์อาจเป็น “ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท” นักวิเคราะห์จาก Wedbush กล่าวในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์กำลังเผชิญกับ "moment of truth"
“ในขณะที่เราได้เห็นช่วงเวลาที่เปราะบางอย่างมากของ Tesla ย้อนกลับไปในปี 2015 2018 2020.. แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปเล็กน้อยอย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ผู้ศรัทธาใน Tesla เป็นเวลานานหลายคนยอมแพ้” บริษัทเขียน
การเปลี่ยนแปลงความเชื่อมั่นเกิดจากการตัดสินที่ผิดพลาดอย่างมีนัยสำคัญของอุปสงค์ในประเทศจีน ซึ่งส่งผลเสียต่อแนวโน้มเชิงบวกของ Tesla Wedbush กล่าวเสริม
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังเน้นย้ำถึงการหารือภายในเกี่ยวกับการจัดลำดับความสำคัญของโมเดล 2 หรือโครงการ Robotaxi รวมถึงการเลิกจ้างพนักงานคนสำคัญจำนวนมาก และตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ระดับโลกที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดได้เปลี่ยนแปลงเรื่องราวของ Tesla "จากซินเดอเรลล่าไปสู่หนังสยองขวัญ ในระยะเวลาอันสั้น”
เพื่อพลิกสถานการณ์ ทีมงานของ Wedbush เชื่อว่า Tesla และ Elon Musk ต้องแก้ไขปัญหาสำคัญหลายประการในการประชุมออนไลน์ที่กำลังจะมีขึ้น รวมถึงการชี้แจงเกี่ยวกับระบบด้าน AI และความเป็นเจ้าของ และการประกาศวันเวลาเพื่อร่างกลยุทธ์และการสร้างรายได้
เป้าหมายราคาของ SMCI เพิ่มขึ้นกว่าสองโดย Loop Capital
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ของ Loop Capital เพิ่มราคาเป้าหมาย 12 เดือนของ Super Micro Computer (NASDAQ:SMCI) กว่าสองเท่าเป็น 1,500 ดอลลาร์จาก 600 ดอลลาร์ ขณะที่ยังคงระดับการซื้อของผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ไว้
“เรากำลังเพิ่ม PT ของเราเป็น 1,500 ดอลลาร์ ในขณะที่ยังคงได้รับความเชื่อมั่นทั้งในด้านสถานะอุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์ Gen AI ที่แข็งแกร่งสุทธิ (LT) และ SMCI ในฐานะผู้นำทั้งด้านความต้องการที่ซับซ้อนและขนาด” นักวิเคราะห์เขียน
“เราเชื่อว่าการประเมินมูลค่า (P/E) จะยังคงอยู่ในความสนใจ และเชื่อว่าหากการคาดการณ์ของเรายังอยู่ที่ 20x – 30x P/E จะสามารถรักษาไว้ได้”
นักวิเคราะห์กล่าวว่าการรวม SMCI ไว้ในดัชนี S&P 500 ได้จุดประกายให้เกิดการหารือบ่อยครั้งกับนักลงทุนรายใหญ่ระยะยาวเท่านั้น ทั้งผู้ถือครองปัจจุบันและผู้มาใหม่ ซึ่งเห็นพ้องกันว่าอัตราส่วน P/E ที่ 20x ถึง 30x นั้นสมเหตุสมผลสำหรับบริษัทที่อยู่แถวหน้าเหมือน geneative AI
Piper Sandler ให้คะแนน Reddit ที่ Overweight
ขณะเดียวกันในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์ของ Piper Sandler ได้เริ่มรายงานการวิจัยเกี่ยวกับหุ้น Reddit (NYSE:RDDT) โดยจัดให้อยู่ในระดับ Overweight และราคาเป้าหมายที่ 50.00 ดอลลาร์
บริษัทตั้งข้อสังเกตว่า RDDT เป็นตัวแทนหน้าใหม่ในด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเน้นไปที่คุณค่าของคลังข้อมูลที่กว้างขวาง ซึ่งปัจจุบันกำลังสร้างรายได้ผ่าน Data Licensing (DL)
ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ดังกล่าวซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 66 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตและความมั่นคง
“เราเห็นประเด็นสำคัญสองประการ: 1.เราคาดว่าลูกค้า DL จะเพิ่มขึ้นในปีต่อ ๆ ไปและ 2.มีแนวโน้มอัพไซด์จากการคาดการณ์รายรับปี 24 ของเราที่ ~980 (+22%) ดอลลาร์แบบเทียบเป็นรายเดือน หากการเติบโตของโฆษณายังคงทรงตัว” นักวิเคราะห์กล่าว