รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 ประเด็นหลักฝั่งอเมริกาที่น่าจับตาประจำวันนี้ (14 ก.ค.)

เผยแพร่ 14/07/2563 03:18
อัพเดท 14/07/2563 03:39
© Reuters.

โดย Liz Moyer

Investing.com -- ภาพรวมของสามประเด็นหลักฝั่งสหรัฐที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้

1. หุ้นเทคโนโลยีสดใสแม้อยู่ท่ามกลางการระบาด

เมื่อเวลาปิดตลาดในวันศุกร์ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นกลุ่มที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดในดัชนี S&P 500 ปีนี้ บวกขึ้นกว่า 18% ขณะที่กลุ่มอื่น ๆ เคลื่อนไหวในแดนลบ และมีเพียงแค่อีกสองกลุ่มที่ปรับตัวขึ้น ได้แก่ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (ปรับตัวขึ้น 14%) และผู้ให้บริการสื่อสาร (ปรับตัวขึ้น 5.9%)

กลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ทรุดตัวลงมาถึง 40.7% ในปีนี้เนื่องจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ได้ลดอุปสงค์การใช้น้ำมันและน้ำมันเบนซิน ส่วนกลุ่มการเงินก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน ติดลบ 23% ในปีนี้ และกลุ่มอุตสาหกรรมติดลบ 16%

ตลาดยังคงฝากความหวังไว้ที่หุ้นเทคโนโลยีต่อไป รวมทั้งจับตาบริษัทที่น่าจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อทำการเปิดเศรษฐกิจได้สำเร็จ ซึ่งสัญญาณขณะนี้ค่อนข้างเป็นไปในทิศทางตลาดหมี และโดยรวมแล้วดัชนี S&P ติดลบ 1.4%

2. ธนาคารยักษ์ใหญ่รายงานผลประกอบการ

ธนาคารขนาดใหญ่หลายธนาคารจะรายงานผลประกอบการในวันนี้ และคาดว่าผลประกอบการของธนาคารส่วนใหญ่จะมีความอ่อนแออย่างมากเนื่องจากการล็อกดาวน์ที่กินเวลาส่วนใหญ่ในไตรมาสนี้

JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) จะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองในช่วงเช้าวันนี้ก่อนเวลาตลาดเปิด โดยผลคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ที่  Investing.com รวบรวมมา คาดว่ากำไรต่อหุ้นจะทรุดตัวลงมากกว่า 50% เหลือ $1.19 และคาดว่าจะมีรายได้ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าไตรมาสที่สองของปีที่แล้ว 5%

Citigroup Inc (NYSE:C) ก็คาดว่าจะมีผลกำไรต่อหุ้น 89 เซนต์และมีรายได้ 1.87 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และ Wells Fargo & Company (NYSE:WFC) คาดว่าจะขาดทุน 10 เซนต์ต่อหุ้นและมีรายได้ 1.83 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ช่วงนี้ธนาคารต่าง ๆ จำเป็นต้องหยุดซื้อหุ้นคืน เนื่องจากความกังวลว่าคุณภาพของลูกหนี้จะลดลงและส่งผลให้เกิดการขาดทุนในที่สุด

3. คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคจะสูงขึ้น

ดัชนีราคาผู้บริโภคจะรายงานออกมาในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1230 GMT) และจากผลคาดการณ์จากนักวิเคราะห์ที่ Investing.com รวบรวมมาคาดว่า ดัชนี CPI ในเดือนมิถุนายนจะสูงขึ้น 0.5% และสูงกว่า เดือนเดียวกันของปีที่แล้ว 0.6% ส่วน ดัชนี CPI พื้นฐาน เมื่อเทียบปีต่อปีแล้วคาดว่าจะสูงขึ้น 1.1%

ขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินลดลงในระหว่างการระบาด ราคาน้ำมันดิบได้พลิกฟื้นจากขาลงและยืนอยู่ที่ $40 ต่อบาร์เรล ส่วนอุปสงค์น้ำมันก็ยังคงซบเซาอย่างเห็นได้ชัดจาก ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ที่รายงานออกมาในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์อาหารกลับมีราคาสูงขึ้น แม้ผู้บริโภคจะได้ประหยัดเงินบางส่วนจากราคาน้ำมันที่ถูกลงและกักตัวอยู่ในที่พักอาศัยระหว่างการล็อกดาวน์ก็ตาม

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย