โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com – โบรกเกอร์ ชี้ หุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวซิกแซกลง หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อทะลุหลักหมื่นติดกันอีกวัน แม้ Fed ตรึงดอกเบี้ย และคง QE ไว้ ก็ยังอาจต้องจับตาดูแนวโน้มกันอีกต่อไป หากหลุด 1,530 จุดจะเป็นสัญญาณลบต่อ เน้นหุ้นพื้นฐานแกร่งฝ่าโควิด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ชี้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศ และจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะยังคงเป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย ทำให้ทิศทางระยะกลางของตลาดแกว่งตัวซิกแซกลง หากหลุดแนวรับ 1,530 จุด จะลงไปสร้างฐานบริเวณ 1,500 จุด เราประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น วันนี้อยู่ที่ 1,530-1,545 จุด
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ได้แก่
1. หุ้นเด่นวันนี้นำโดย BJC ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกจากการวางจำหน่ายชุดตรวจโควิด (Rapid Antigen Test) ที่เริ่มเปิดให้จองแล้ว โดยคาดว่าจะเป็นปัจจัยช่วยหนุนรายได้ในไตรมาส 3 ปี 2564 ช่วยชดเชยรายได้ธุรกิจค้าปลีกที่ชะลอตัวลงจากมาตร ขณะที่แนวโน้มกำไรในไตรมาส 2 ปี 2564 เบื้องต้นคาดการณ์ที่ 930-950 ลบ. ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ยังเติบโตได้มากกว่า +10% เมื่อเทียบกับช่วงปีเดียวกันในปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับค่อนข้างถูก คือ PBV เพียง 1.2 เท่า เทียบกับ MAKRO ที่ 7.2 เท่า, CPALL ที่ 5.4 เท่า และ HMPRO ที่ 7.7 เท่า
2. หุ้นเด่นตัวถัดมาคือ STGT ที่แนวต้านอยู่ที่ 38.50 บาท แนวรับ 37.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 36.00 บาทเราคาดกำไรปกติในไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ 7.6 พันลบ. เติบโต +627% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และเงินปันผลในไตรมาส 2 ปี 2564 หุ้นละ 1.20 บาท ให้ Dividend Yield 3.2%
3. ตัวที่สามคือ SCC คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ 1.4 หมื่นลบ. เติบโต +47% เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา แต่ลดลง -8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยแนวโน้มกำไรเติบโตสูงเมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ขณะที่การชะลอตัวลงในเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา เกิดจากผลกระทบเชิงฤดูกาลเนื่องจากเป็นเทศกาลวันหยุด และสถาน การณ์ COVID ขณะที่เงินปันผล 1H64 คาดหุ้นละ 7.50 บาท ให้ Dividend Yield 2% อาจส่งผลให้ราคาหุ้นฟื้นตัวได้หลังประกาศเงินปันผลจากการเกิด Short Covering
4. หุ้นเด่นตัวสุดท้ายคือ ADVANC กลุ่มสื่อสารยังมีแนวโน้ม Outperform ตลาด จากสถานการณ์ COVID ในประเทศที่ยังเป็นปัจจัยกดดันหุ้นหลักในกลุ่มอื่นๆ ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Defensive จะยังเป็นที่พักเงินได้ดี จากนักลงทุนสถาบันในประเทศ เราคาดกำไรปกติไตรมาส 2 ปี 2564 ที่ 6.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น +2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และทรงตัว -0.9% ไตรมาสเดียวกันเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่เงินปันผลครึ่งปีแรกของปี 2564 คาดหุ้นละ 3.39 บาท คิดเป็น Dividend Yield 2%