โดย Peter Nurse
Investing.com - หุ้นสหรัฐเปิดบวกในวันอังคาร โดยดีดตัวกลับจากการเทขายครั้งใหญ่วานนี้ ก่อนการประชุมนโยบายล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ
เมื่อเวลา 7:05 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1105 GMT) สัญญา ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 300 จุดหรือ 0.9%
S&P 500 เพิ่มขึ้น 35 จุดหรือ 0.9%
ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 120 จุดหรือ 0.8%
ดัชนีหุ้นหลักถูกขายออกอย่างรุนแรงในวันจันทร์ โดยได้รับความกดดันจากความกังวลต่อวิกฤตหนี้ของ China Evergrande Group (HK:3333) ยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีน นอกจากนี้ยังมีปัญหาทางการเมืองที่เกี่ยวโยงกับการผ่านวาระมาตรการทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดี โจ ไบเดน และประเด็นโควิด-19 อีกทั้งประเด็นการประชุมเฟดอีกด้วย
การประชุมด้านนโยบาย ของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มในวันนี้ โดยตลาดจะมองหาเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการที่จะลดโครงการซื้อพันธบัตรในยุคการระบาดใหญ่ ของไวรัส การคาดการณ์เศรษฐกิจรายไตรมาส และอื่น ๆ - สามารถนำมาคำนวณเพื่อหาแนวโน้มสำหรับระยะเวลาในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์จาก ING ระบุในหมายเหตุว่า "แม้ว่าจะค่อนข้างใกล้เคียงกัน แต่ข้อมูลที่จะนำมาใช้ทำแผนภูมิเพื่อประเมินระยะเวลาสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ไม่น่าจะเปลี่ยนจากปี 2023 เป็น 2022 ได้
ผู้ผลิตยาจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (NYSE:JNJ) กล่าวว่าวัคซีนกระตุ้นโควิด-19 มีประสิทธิภาพ 94% ในการป้องกันเมื่อให้ยาสองเดือนหลังจากรับโดสแรก
รายได้จาก FedEx (NYSE:{ {262|FDX}}), Adobe (NASDAQ:ADBE) และ AutoZone (NYSE:AZO) จะเปิดเผยในภายหลัง
ข้อมูล ใบอนุญาตก่อสร้าง และ ที่อยู่อาศัยเริ่มต้น สำหรับเดือนสิงหาคมเป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจเพียงชุดเดียวที่ควรทราบ ข้อมูลทั้งสองจะครบกำหนดประกาศเวลาสามทุ่ม
ราคาน้ำมันดิบก็ดีดตัวขึ้นในวันอังคารเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นหลังอยู่ในแดนลบมาหลายวัน หลังจากมีข้อบ่งชี้ว่าการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ จะไม่กลับมาดำเนินการเต็มอัตราจนถึงปีหน้า
Royal Dutch Shell (LON:RDSa) ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งจะไม่กลับมาผลิตอีกจนกว่าจะถึงไตรมาสแรกของปี 2022 เนื่องจากความเสียหายที่เกิดจากพายุเฮอริเคนไอดา ในปลายเดือนสิงหาคม
ตอนนี้นักลงทุนกำลังโฟกัสไปยังข้อมูลการจัดหาน้ำมันดิบจาก American Petroleum Institute ที่จะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในภายหลัง
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.1% ที่ 70.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 0.9% เป็น 74.59 ดอลลาร์ ทั้งคู่ลดลงประมาณ 2% ในวันที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ราคาทองคำ ซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.2% ที่ 1,766.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ ค่าเงินยูโร ซื้อขายสูงขึ้น 0.1% ที่ 1.1735 ยูโรต่อดอลลาร์