Investing.com – ตลาดหุ้นเอเชียยกเว้นตลาดฮ่องกงต่างก็พากันปรับขึ้นเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากภาษีศุลกากรรายการใหม่ของทั้งสหรัฐฯ และจีนเริ่มมีผลบังคับใช้ ส่วนทางด้านฮ่องกงก็ประสบกับเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นเอเชียเองก็ตามติดสัญญาณจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอันเป็นวันสุดท้ายของเดือนสิงหาคม แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะย่อตัวลงในวันพรุ่งนี้เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเพราะเป็นวันหยุดเทศกาลวันแรงงานสหรัฐฯ ดัชนี Nikkei 225 ย่อตัวลง 0.39% เมื่อเวลา 21:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (01:30 GMT) ดัชนี Shanghai Composite เริ่มต้นเช้าวันนี้ด้วยการเคลื่อนไหวสู่แดนบวก ปรับขึ้น 0.18% เท่ากับ 2,891 ส่วน SZSE Component ขยับลง 0.35% อยู่ที่ 9,365 ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ค่อนข้างคงตัว ปรับขึ้นเพียง 0.03% เท่ากับ 1,968 ส่วนดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียปรับลง 0.05% เท่ากับ 6,600
ภาษีศุลกากรสินค้าจีนมูลค่า 1.1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ และการเรียกเก็บภาษีศุลกากรสินค้าสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้เอาคืนของจีนก็เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ด้วย
ข้อมูลที่เผยออกมาเมื่อวันเสาร์ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อของจีน (PMI) ออกมาต่ำลงเนื่องด้วยแรงกดดันจากทั้งสงครามการค้าของสหรัฐฯ และอุปสงค์ทั่วประเทศที่ลดลง สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ปรับลง 0.6% และดัชนี PMI ประจำเดือนสิงหาคมก็อยู่ที่ 49.5 ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 49.7
นอกจากนี้ ดัชนี PMI นอกภาคการผลิต ก็เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในระยะเวลาห้าเดือนอีกด้วย จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ได้ระบุว่าตัวเลขประจำเดือนสิงหาคมออกมาเท่ากับ 53.8 สูงขึ้นจากเดือนกรกฎาคมที่ 53.7 โดยตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 ถือเป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นถึงการขยายตัว
ทางด้านฮ่องกงก็ยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่สงบทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงสุดสัปดาห์นี้ได้เกิดเหตุความรุนแรงครั้งใหญ่ที่สุดหลายจุดในฮ่องกง ทั้งเหตุกลุ่มผู้ประท้วงทำร้ายตำรวจทั่วเมือง ทำลายสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน และบีบบังคับให้ระบบคมนาคมในเมืองต้องหยุดชะงัก ดังนั้นตำรวจจึงต้องยกระดับมาตรการสร้างแรงกดดันด้วยการเข้าจับกุม และใช้วิธีที่มีความรุนแรงมากขึ้นกับกลุ่มผู้ชุมนุมและผู้ประท้วง ตลาดจึงต้องคอยจับตาผลกระทบจากการประท้วงที่จะเกิดขึ้นอีกในวันนี้